กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ เตือนประชาชนรับมือภัยร้อนที่มาเร็ว อาจส่งผลต่อการเจ็บป่วย มอบหมายศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติแนะวิธีรับมือโรคไม่พึงประสงค์จากสภาพอากาศที่แปรปรวน
น.พ.กฤษดา ศิราพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า ปีนี้ฤดูร้อนมาเร็วกว่าปกติและสภาพอากาศร้อนจัด อาจทำให้คนเมืองร้อนมีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บดังต่อไปนี้คือ โรคช็อคแดด(Heatstroke) ป่วยด้วยความร้อนที่ขึ้นสูงจัด สมองทนไม่ไหว ความดันตกถึงขั้นชักได้ คนที่ไวต่อช็อคแดดคือเด็ก,ผู้อาวุโสและคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว แต่บางทีในนักกีฬาก็เกิดได้รวมถึงคนที่ขาดน้ำ 2.โรคขาดน้ำ ทำให้ร่างกายเพลียไวต่อความเครียดและเหนื่อยล้า การขาดน้ำทำให้เกิดโรคปวดหัวแบบไมเกรน,ปวดท้องประจำเดือน,สิวขึ้น,หน้าแห้ง,ไร้เรี่ยวแรงและไข้ขึ้นได้ง่าย แค่กินน้ำไม่พอก็จะนำอีกหลายโรคตามมา 3. โรคพิษจากน้ำ น้ำในหน้าร้อนไม่น่าไว้ใจนักไม่ว่าจะน้ำดื่มหรือน้ำเป็นตัวอย่างน้ำแข็ง ไอศกรีม ทานมากนอกจากปวดหัวได้แล้วยังทำให้ปวดท้อง ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินอาหาร การเกิดพิษจากน้ำในหน้าร้อนมาจากการปนเปื้อนของน้ำเช่น แช่น้ำแข็งร่วมตู้กับของสดหรือตู้ไอศกรีมที่เปิดปิดไม่เป็นเวลา4.โรคเก่ากำเริบ ท่านที่มีโรคความดันสูง,เบาหวานหรืออาการปวดมึนศีรษะง่ายอยู่แล้วหน้าร้อนจะกระตุ้นให้เสี่ยงป่วยมากขึ้น โรคที่ต้องเฝ้าระวังเหล่านี้จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นยามอยู่ในที่ร้อนจัดแล้วมีความเครียดเช่นประชุมงานกันแล้วเดินตากแดดไปกินข้าวจะทำให้โรคเก่ามาถามหาได้ 5.โรคร้อนลงผิว(Heat rash,Prickly heat) ผดผื่นคันผิวจะเปลี่ยนจากเรื่องสิวเล็กน้อย กลายเป็นอาการคัน ห้ามโรยแป้งลงบนผื่นถ้าไม่แน่ใจเพราะอาจทำให้เป็นผื่นมากขึ้น ขอให้ระวังน้ำอุ่นไว้ด้วย 6.โรคเบื่ออาหาร ควรงดของมัน,อาหารทอดและของที่เข้ากะทิ ซึ่งหน้านี้มีเยอะอย่างข้าวเหนียวมะม่วง,ทุเรียน,ลอดช่องน้ำกะทิ ท่านอาจเลือกกินเป็นเฉาก๊วย,น้ำรากบัว,หล่อฮั้งก้วย,เก๊กฮวยหรือแตงไทยเย็นๆจะดีกว่า 7. โรคหวัดฟุดฟิด ส่วนมากจะมาจากการเครื่องปรับอากาศ ร่างกายปรับไม่ทันก็ป่วย กลายเป็นไข้หวัด ทางที่ดีควรจัดให้มีเวลาพักแอร์หรือปรับอุณหภูมิให้ไม่เย็นจัดเกินไป
นพ.กฤษดา แนะนำถึงบทบัญญัติขจัดร้อนไว้ 10 ข้อ คือ 1. ควรดื่มให้พอ น้ำเปล่าดีที่สุดขอให้ดื่มไว้เรื่อยๆ มีเทคนิคคือตั้งขวดน้ำไว้หน้าโต๊ะทำงานแล้วปฏิญาณว่าวันนี้จะดื่มให้หมดขวด ในท่านที่ชอบออกกำลังฤดูนี้ต้องยั้งพลังไว้บ้างแล้วดื่มน้ำให้มากก่อนลงสนาม 2.รอเข้าวิน ขออย่าเพิ่งเข้าห้องปรับอากาศทุกครั้ง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ให้หาเสื้อไว้เปลี่ยน เผื่อถ้าเดินชื้นเหงื่อมาแล้วต้องเข้าออฟฟิศทำงานเลยจะทำให้ร่างกายเย็นจนเป็นหวัดไม่สบายได้ 3. กินให้น้อย การกินอยู่พอสัณฐานประมาณเป็นข้อพึงปฏิบัติอยู่ทุกฤดู โดยเฉพาะหน้าร้อนนี้ขออย่าให้กินอิ่มเกินไปเพราะทำให้อาหารไม่ย่อยและป่วยไข้ได้ ความร้อนทำให้อาหารบูดเสียเร็วไม่เว้นแม้ในกระเพาะลำไส้ 4.ค่อยๆออก หมายถึงออกกำลังกายให้เพลาลงบ้างในฤดูนี้ มีหลายท่านที่ “ช็อคแดด” ในหน้าร้อนจนช็อคในฟิตเนสกันมาแล้ว การหาเอ็กเซอไซส์เบาๆให้เหมาะกับตัวเราคือไม่เหนื่อยเกินไป ไม่ต้องอาบเหงื่อต่างน้ำมาก ลดแอโรบิกลง คงไว้แต่ไดนามิกเบาๆอย่างซิทอั้พก็ได้ 5.บอกถ้าป่วย หากท่านมีโรคประจำตัวอยู่ขอให้คอยระวังไว้เวลาเหนื่อยแล้วต้อง “เพลา” ลงบ้าง เพราะโรคร้ายอย่างสโตร้ค อัมพฤกษ์ อัมพาต กับโรคหัวใจจะมาถามหาเวลาร้อนจัดจนเลือดแทบเดือดอย่างนี้ หากท่านมีโรคประจำตัวที่ว่าการหารือกับคุณหมอไว้ก่อนให้ปรับยาก็จะดี
6.ช่วยนอนเร็ว การนอนช่วยดับร้อนได้ส่วนหนึ่งคือช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนซ่อมแซมตัวเองหลังจากผจญไอร้อนมาทั้งวัน ความร้อนทำให้ท่านเสียน้ำ,หัวใจเต้นเร็วและเสียเกลือแร่ในร่างกาย ตัวเราจะใช้เวลานอนนั้นจะทำให้ตื่นมามีแรง 7.เจลลดไข้ ใช้ได้ในเด็กที่ใกล้จะช้อคแดดหรือดูดซึมลงจากอากาศร้อนเพราะช่วยลดได้ทันใจไม่อันตราย ดีกว่าจับอาบราดน้ำเย็น 8.ไม่กินหวาน อันหน้าร้อนมีผลทำให้อุณหภูมิกายสูงอยู่แล้ว การเร่งให้ร่างกายต้องเผาผลาญอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลอีกจะทำให้ เกิดอาการป่วยได้ เพราะในของหวานมีน้ำตาลที่ทำให้เกิดกระบวนการ “ไกลเคชั่น(Glycation process)” อันทำให้เกิดเสื่อมอักเสบขึ้น 9.อาหารเย็น เป็นเครื่องดับร้อนที่ดี อาหารที่เหมาะสมคือ แกงส้ม,ข้าวแช่,แตงไทยน้ำกะทิ,น้ำมะตูมหรือแบบเทศก็มีเฉาก๊วย, สมู้ทตี้แตงโม, เก๊กฮวยเย็น, ต้มมะระ ฯลฯ หาของเย็นมาดับร้อนเป็นวิธีที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ 10.เน้นธรรมชาติ คนไทยรุ่นใหม่ใช้แอร์เป็นเครื่องดับร้อนจึงทำให้ยิ่ง “ร้อนใน” เพราะแอร์เป็นอากาศแห้งและเย็นทำให้เกิดอักเสบทางเดินหายใจง่าย ที่ไหนมีแอร์ที่นั่นมีสิทธิ์ป่วย
ติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 02-6445499 ต่อ 136