กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--กทม.
นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการลดมลภาวะทางอากาศในกรุงเทพมหานครว่า กทม. ได้ดำเนินการแก้ปัญหามลภาวะมาอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการแก้ปัญหาประกอบด้วย การตั้งจุดตรวจจับควันดำ 48 จุดทั่วกทม. มี เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจและฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯจากสำนักงานเขตที่ได้รับแต่งตั้งปฏิบัติงานตรวจสอบรถควันดำเกินมาตรฐาน หากพบผู้กระทำผิดจะออกใบสั่งเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 รวมถึงการติดเครื่องหมายห้ามใช้ชั่วคราวและห้ามใช้เด็ดขาด หากตรวจพบว่ามีมลพิษเกินมาตรฐาน เจ้าของรถที่ถูกติดเครื่องหมาย ”ห้ามใช้ชั่วคราว” ต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขไม่ให้มีควันดำเกินมาตรฐานภายใน 30 วันจึงจะสามารถยกเลิกเครื่องหมายห้ามใช้ชั่วคราวได้ หากเกินกำหนด 30 วันยังมีค่าควันดำเกินมาตรฐาน จะติดเครื่องหมาย “ห้ามใช้เด็ดขาด” ด้านการรายงานคุณภาพอากาศ กทม.มีสถานีตรวจอากาศและเสียง 1 สถานี และรถตรวจอากาศเคลื่อนที่อีก 1 คัน รวมถึงข้อมูลจากประชาชนซึ่งกทม.จะนำข้อมูลมากำหนดแผนการดำเนินการแก้ปัญหา และในปี 2547 กทม.มีโครงการจัดตั้งสถานีตรวจสอบคุณภาพอากาศ ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ PM-10 และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์บริเวณถนนที่มีการจราจรหนาแน่นและด้านล่างของสถานี รถไฟฟ้า รวมถึงจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศและเครื่องดูดซับเสียงบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีสถานที่ตรวจและปรับแต่งเครื่องยนต์ของกองโรงงานช่างกล กทม.จำนวน 5 แห่ง คือ ศูนย์บางกะปิ,ศูนย์ราษฎร์บูรณะ, ศูนย์ภาษีเจริญ , ศูนย์ประเวศ และศูนย์ดอนเมือง ซึ่งให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า กทม.ยังมีโครงการ Green Fleets ที่รณรงค์ลดการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไปด้วยกันหลายๆ คน ในเส้นทางเดียวกัน การใช้รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงหรือใช้เชื้อเพลิงสะอาด โครงการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามตารางเวลาอย่างสม่ำเสมอ และโครงการอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ กทม.ยังมีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยลดปัญหามลภาวะอากาศ โดยในปัจจุบันกทม.มีสวนสาธารณะ 1,180 แห่ง พื้นที่ประมาณ 12.6 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 2.2 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน มีต้นไม้ประมาณ 4.5 ล้านต้น และยังปลูกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะเป็น 2.5 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน ในปี พ.ศ.2548
นอกจากนี้ กทม.ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือและเป็นสมาชิกหน่วยงานนานาชาติต่างๆ ในการจัดการคุณภาพอากาศ เช่นการดำเนินงานภายใต้แผนงาน Asia Urbs Programme ร่วมกับเมืองบริสทอล ประเทศอังกฤษ และเมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างเอเชียและยุโรป และกำหนดนโยบายด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในเขตเมืองอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกของโครงการ Clean Air Initiative for Asia Cities และสมาชิกโครงการคิตะคิวซู ที่มีการประชุมร่วมกันในวันที่ 19-20 เม.ย.47 ณ องค์การสหประชาชาติ ด้วย--จบ--
-นห-