กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--เอไอเอส
เอไอเอสได้ฤกษ์เปิดตัว"Future Zone"โชว์รูมนวัตกรรมสื่อสารไร้สายแห่งโลกอนาคตเป็นเสมือนศูนย์ R&D ของ Wireless Service อย่างเต็มรูปแบบเป็นแห่งแรกของไทยพร้อมเผยโฉมทีมปฏิบัติการ "Future Lab" คลังสมองฝีมือคนไทย
เอไอเอสได้ฤกษ์เปิดบ้านให้เยี่ยมชม "Future Zone" โชว์รูมนวัตกรรมและบริการสื่อสารไร้สายสุดล้ำในโลกอนาคตอันใกล้และไกล ที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้จริงเป็นแห่งแรกของไทย พร้อมแนะนำทีมงาน "Future Lab" ที่เต็มไปด้วยบุคลากรจากหลากหลายสาขาร่วมรับผิดชอบภารกิจในการคิดค้นและพัฒนาบริการที่สร้างสรรค์แปลกใหม่ และยังไม่เคยมีมาก่อนในตลาด ชูบทบาท Market Maker ในการริ่เริ่มสร้างสรรค์บริการ ปูแนวทางให้พันธมิตรหรือผู้ให้บริการรายอื่นนำไปพัฒนาต่อยอดบริการต่อไป เพื่อตอบโจทย์การก้าวสู่สังคมสื่อสารไร้สายสมบูรณ์แบบ
นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า "ตามที่เอไอเอสได้ประกาศความตั้งใจอย่างชัดเจนในการเป็นผู้นำขับเคลื่อนสังคมสู่ยุคสื่อสารไร้สาย (Wireless Society) เราจึงเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาบริการในรูปแบบของ Wireless Service มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2546 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ก่อตั้งหน่วยงาน Future Lab ขึ้นเพื่อรับภารกิจในการสร้าง VISION ให้เป็น MISSION และรับหน้าที่เป็นดัง ผู้สร้างตลาด หรือ Market Maker ของธุรกิจสื่อสารไร้สาย รวมถึงชี้แนวโน้มหรือเทรนด์ของบริการประเภท Wireless Service ให้พันธมิตรผู้ร่วมให้บริการไม่ว่าจะเป็น Service Provider, Content Provider หรือผู้ให้บริการรายอื่นได้นำไปพัฒนาต่อยอดบริการให้หลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้ใช้บริการคนไทย"
"ล่าสุดเพื่อเป็นการฉายภาพแรงบันดาลใจของเอไอเอส รวมทั้งเป็นแหล่งโชว์ผลงานของทีม Future Lab ฝีมือคนไทย เอไอเอสจึงได้สร้างศูนย์ Future Zone ณ อาคารชินวัตร 1 โดยเป็นเสมือนศูนย์ R&D ของ Wireless Service ที่เต็มรูปแบบเป็นแห่งแรกของไทย ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นสถานที่ทำงานของ Future Lab แล้ว ยังจัดโชว์เทคโนโลยีไร้สายต่างๆอีกด้วย โดยจะผลัดเปลี่ยนกันไป ทั้งในส่วนที่เป็นบริการที่เคยเปิดให้ใช้งานแล้ว และในส่วนที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศที่สนใจเข้าเยี่ยมชมเพื่อเป็นการเสริมสร้างการเรียนรู้นวัตกรรมด้านสื่อสารไร้สายอันทันสมัยของประเทศไทยต่อไป"
ด้านนายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจการให้บริการสื่อสารไร้สาย เอไอเอส กล่าวเพิ่มเติมว่า "ทีม Future Lab ถือเป็นเหมือนคลังสมองด้าน Wireless Service ของเอไอเอสที่เป็น ฝีมือคนไทยล้วนๆ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยนโยบายและภารกิจของทีม Future Lab นั้น มุ่งเน้นไปที่การคิดค้น,พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเป็นรายแรก ในรูปแบบของ New to Market และเป็น Innovative Service อย่างแท้จริง ด้วยกระบวนการทำงานในลักษณะของ DNA Integration ได้แก่ Device, Network, Application ซึ่งถือเป็นการประสานศักยภาพของเทคโนโลยีและมุมมองจากผู้ใช้บริการเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพและลงตัวที่สุด เพราะจะมีการออกแบบแนวคิดของบริการบนพื้นฐานของความเข้าใจในความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการเป็นหลัก ไม่ใช่เพียงขับเคลื่อนไปตามเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นแต่เพียงด้านเดียว (Not Technology Driven) นอกจากนี้ยังมองถึง การพัฒนา Corporate Solution สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรอีกด้วย
โดยหลักในการทำงานของหน่วยงาน Future Lab ก็คือการทำงานร่วมกันเป็น Teamwork เพื่อร่วมเสนอแนวคิดอย่างสร้างสรรค์ (Innovative Idea) ทั้งนี้โครงสร้างของหน่วยงาน Future Lab มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นทีมเพื่อวางแผนและพัฒนาบริการต่างๆ ได้ในเชิงลึก ประกอบด้วย
1. ทีม Planning ดูแลวางแผนกลยุทธ์ของการพัฒนาบริการ
2. ทีม Enhancement Communication มุ่งพัฒนาบริการที่ขยายขีดความสามารถบริการด้านการสื่อสารและการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูล
3. ทีม Multimedia & Entertainment มุ่งพัฒนาบริการที่สร้างสรรค์ความสนุก, บันเทิง และมัลติมีเดียต่างๆ
4. ทีม Enterprise Application มุ่งพัฒนาบริการที่อำนวยประโยชน์แก่กลุ่มลูกค้าองค์กร
5. ทีม Finance and Commerce Application มุ่งพัฒนาบริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมของธุรกิจการค้าด้านต่างๆ
โดยขณะนี้ ทีมงาน Future Lab มีพนักงานจำนวน 20 คน ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชาชีพ ซึ่งต้องมีความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีผนวกเข้ากับความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยประกอบด้วยคุณลักษณะ ดังนี้
1. Technology เข้าใจ,สนใจ และอัพเดทเรื่องเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา,สามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้และเชื่อมโยงต่อยอดบริการต่อไปได้
2. Customer Need มีความเข้าใจถึงความต้องการ, พฤติกรรมของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทั้งในปัจจุบันและที่จะเกิดในอนาคต
3. Creativity มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิดออกนอกกรอบ ชอบทดลอง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัว
4. Commercial Mind มีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องธุรกิจ, การตลาด
สำหรับผลงานที่ผ่านมาของ Future Lab ที่เปิดให้บริการสู่ตลาดได้จริงเป็นรายแรกของไทย อาทิ บริการ TV on Mobile, GSM remote Camera, Digital Pen, mDictionary, Push to Talk ส่วน Roadmap ของบริการในอนาคตนั้น ได้มีการวางแผนกลยุทธ์ไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปีเสมอ ทั้งนี้ในในช่วงไตรมาสนี้ มีเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการใหม่อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20 บริการ อาทิ ด้าน Business & Commerce คือ บริการ mPayment , ด้าน Enhancement Communication คือบริการ Speech E-mail, Call Screening, ด้าน Entertainment Multimedia คือ บริการ Digi Eye , ด้าน Corporate Solution คือ บริการ Location Based Service เป็นต้น" นายสุวิทย์กล่าวในตอนท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ เอไอเอส
สุดาพร (ยีน) โทร. 0 2687 4127, 0 1920 6611
sudaporw@ais.co.th--จบ--
-นท-