กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,710 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,700 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.66บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,700 บาท กับ 24,800 บาท และกลับมาปิดที่ 24,650 บาท กับ 24,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,250 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,677 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 53 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2% แบบ 10 บาท ลดลง 3% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3% GFJ12 ปิดที่ 24,920 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 25,110บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,910 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 25,110บาท SVJ 12 ปิดที่ 1044
สัญญา Comex ปิดลดลง 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1699.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 80 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.41 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,293.67 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 106.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 37.69จุด ปิดที่ระดับ 12,959.71 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
-สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนมียอดขาดดุลการค้า 3.148 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวเร็วกว่าการส่งออก โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 18.4% จากปีก่อน แตะที่ 1.1447 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้น 31% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 39.6% แตะที่ 1.4596 แสนล้านดอลลาร์
-รัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการในการประชุมครั้งล่าสุดว่า ยูโรโซนจะอนุมัติเงินช่วยเหลือรอบที่ 2 สำหรับกรีซ วงเงินรวม 1.30 แสนล้านยูโร หลังจากที่กรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรมูลค่า 1.772 แสนล้านยูโร (2.325 แสนล้านดอลลาร์) แล้วเมื่อวานี้ นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ รัฐมนตรีคลังลักเซ็มเบิร์กและประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กรีซจะสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูทางการเงินภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือรอบที่ 2 ในฐานะหนึ่งในประเทศสมาชิกของยูโรโซน
-สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงก่อนที่คณะกรรมการ FOMC จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในคืนวันอังคารที่ 13 มี.ค.นี้ เมื่อดูว่าคณะกรรมการ FOMC จะส่งสัญญาณใดๆในการออกนโยบาการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ในระหว่างที่แถลงนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.27% แตะที่ 1.3148 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ร่วงลง 0.27% แตะที่ 1.5632 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5675 ดอลลาร์สหรัฐ
-กระทรวงการคลังของกรีซเปิดเผยว่า กรีซได้เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนพันธบัตรมูลค่า 1.772 แสนล้านยูโร (2.325 แสนล้านดอลลาร์) แล้วเมื่อวานนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่รัฐบาลกรีซได้ทำร่วมกับเจ้าหนี้ภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระหนี้จำนวนมหาศาล ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงไปทั่วภูมิภาคและทั่วโลกได้ กระทรวงฯระบุในแถลงการณ์ว่า การสว็อปพันธบัตรจะมีผลกับพันธบัตรรัฐบาลกรีซทั้งหมดภายใต้กฎหมายของประเทศ การสว็อปพันธบัตรมีเป้าหมายที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินสาธารณะของกรีซและจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
-สัญญาทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งรวมถึงน้ำมัน หลังจากที่เมื่อวานนี้ สำนักงานศุลกากรจีนได้เปิดเผยว่า จีนมียอดขาดดุลการค้า 3.148 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวเร็วกว่าการส่งออก โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 18.4% จากปีก่อน แตะที่ 1.1447 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้น 31% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 39.6% แตะที่ 1.4596 แสนล้านดอลลาร์
-องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยผลสำรวจเศรษฐกิจประจำเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่ายังคงมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องสำหรับเศรษฐกิจของกลุ่ม OECD โดยรวม โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ หรือ Composite leading indicators (CLIs) ของ OECD แสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นยังคงขับเคลื่อนดัชนีรวมให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มปรากฏสัญญาณที่แข็งแกร่งขึ้นภายในประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจยูโรโซนโดยรวม แม้ว่าจะยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นก็ตาม
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของโปรตุเกส ยืนอยู่ที่ระดับ 13.71% ซึ่งแม้ว่าลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของยูโรโซนที่ 18.29% แต่ก็ยังสูงกว่าระดับเฉลี่ยของปี 2554 ที่ 10.17% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีอยู่ที่ 12.48% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีที่ผ่านมา
-นายยี่ กัง ผู้อำนวยการสำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนจะยังคงยึดมั่นในหลักการการกระจายการลงทุนในพันธบัตรต่างชาติ โดยระบุว่า การที่จีนถือครองพันธบัตรยูโรโซนนั้นไม่ได้ทำให้เม็ดเงินในพอร์ทการลงทุนของจีนลดน้อยลง ซึ่งนายยี่เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่จีนมีต่อยุโรป แม้จะเกิดวิกฤตหนี้สินในปัจจุบันก็ตาม โดยเขากล่าวว่า จีนจะยังคงเป็น "นักลงทุนระยะยาวและมีความรับผิดชอบ" ในยุโรป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 27.4B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 22.9B ตัวเลขจริงออกมาที่ 23.1B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้
- Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.7% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.8%
- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4%คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.1%
- Business Inventories m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.5%
- Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.25% คาดการณ์ว่าจะประกาศตรึงอัตราดอบเบี้ยเท่าเดิมที่ระดับ 0.25%
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังแกว่งตัวในทิศทาง Sideway แบบไร้ทิศทาง โดยในช่วงต้นตลาด Comex ราคาปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1700 เหรียญ อีกครั้ง โดยราคาทองคำทำจุดต่ำสุดประมาณ 1692 เหรียญ และรีบาวด์กลับมายืนที่ระดับ 1700 เหรียญได้ การซื้อขายในตลาด Comex ค่อนข้างเบาบางโดยเคลื่อนตัวในกรอบ 1698-1702 เหรียญ เท่านั้น วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในกรอบ Sideway ภาพทางเทคนิคระยะสั้น เป็นลักษณะ Ascending Triangle ถ้าราคายืนเหนือระดับ 1702 เหรียญได้ น่าจะรีบาวด์ไปทดสอบระดับ 1710 เหรียญได้ในวันนี้
Silver — ลักษณะคล้ายราคาทองคำ เคลื่อนตัวในกรอบแคบ โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 33.40 เหรียญ ซึ่งดูแล้วยังเหนี่ยวแน่น กราฟยังต้องติดตามใกล้ชิดกับราคาทองคำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,100 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,300 บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1700 เหรียญ และมีแนวต้านระยะสั้นมากที่ 1,710 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
เป็นการทยอยขายทำกำไรหลังจากเข้าช้อนซื้อบ้าง ขายทำกำไรบริเวณ 1,710 เหรียญ ถือครองพอร์ท 40 — 50%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ท 60%
สรุปได้ว่า ราคาทองคำในวันนี้น่าจะขึ้นในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,710 เหรียญ เป็นลักษณะ rebound ตามค่าเงินดอลลาร์/ยูโร ที่สามารถขึ้นไปยืนเหนือที่ระดับ 1.3100 ดอลลาร์/ยูโรได้ ข่าวที่ติดตามเป็นเรื่องของเฟดที่มีการประชุมในวันนี้ จึงแนะนำให้เป็นการทำกำไรในระยะสั้นไปก่อน
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง