กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ของบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) ระยะยาวที่ A+(tha) และระยะสั้น F1(tha) และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ ชนิดทยอยคืนเงินต้นของบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2545 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2550 มูลค่า 3.0 พันล้านบาท ที่ A+(tha) และแนวโน้มมีเสถียรภาพ
อันดับเครดิตสะท้อนถึงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งของ NPC และการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ผลดีจากการที่มีบริษัทสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวและสัญญาขายโอเลฟินส์ระยะยาวรองรับ โครงสร้างของราคาแบบ Profit Sharing รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบในการแข่งขัน และสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่า NPC ได้มีการประกาศความเป็นไปได้ที่จะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ซึ่งอาจส่งผลให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงในดำเนินธุรกิจในช่วง2-3ปีข้างหน้า แต่การที่NPCมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งประกอบกับต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบจากการเป็นผู้ผลิตที่ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบแลมีโครงสร้างของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยสนันสนุนอันดับเครดิตของ NPC ในระยะยาวได้ ในส่วนของโครงการเม็ดพลาสติกชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ที่กำลังจะเริ่มผลิตในปีนี้ การที่NPCมีความได้เปรียบด้สนต้นทุนวัตถุดิบประกอบกับการมีสัญญาขายผลิตภัณฑ์บางส่วนกับผู้ค้าต่างประเทศไว้แล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงจากโครงการนี้ได้ ในระยะยาว การลงทุนใน HDPE จะช่วย เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิตและเสถียรภาพของกำไรโดยรวม
NPC มีแผนที่จะลงทุนในโครงการผลิต Phenol มูลค่าโครงการ 200ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการสาธารณูปโภคส่วนกลางมูลค่าโครงการขั้นต้น 1.7พันล้านบาท โดยจะเป็นการร่วมทุนระหว่าง ปตท. และบริษัทในเครือ โดย NPC จะถือหุ้น 20% ในแต่ละโครงการ โดยเงินลงทุนเริ่มต้นจากNPCสำหรับ 2 โครงการ รวมประมาณ 25ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของปตท.และNPCเอง NPCกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างโรงงานผลิตโอเลฟินส์แห่งใหม่รวมถึงโรงงานผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องขั้นปลายด้วย โดยจะใช้วัตถุดิบอีเทนจากปตท. เงินลงทุนโครงการทั้งสองนี้รวมประมาณ650ล้านเหรียญสหรัฐ ผลการศึกษาคาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
กระแสเงินสดรับจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทำให้NPCสามารถรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่งได้ ถึงแม้ว่าเงินส่วนหนึ่งถูกใช้ไปในการลงทุนโครงการ HDPE โดยในปี 2546 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อ EBITDA (Net Debt/EBITDA) อยู่ที่ระดับ 0.5 เท่า ลดลงเล็กน้อยจาก 0.6 เท่าในปี 2545 ผลประกอบการที่ดีในปี 2546 ส่งผลให้อัตราส่วน EBITDA ต่อดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มเป็น 16.0 เท่าจาก 8.7 เท่าในปี2545 ณ สิ้นปี 2546 NPC มีหนี้สินทั้งหมด 5.1พันล้านบาท โดยเป็นหนี้สินระยะสั้น 41% หากฟิทช์ตั้งสมมุติฐานว่า NPC จะลงทุนในโรงงานโอเลฟินส์ใหม่พร้อมกับโรงงานผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องขั้นปลายเพียงผู้เดียว คาดว่าสัดส่วนNet Debt/EBITDA อาจเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.5 เท่า ในช่วงปี 2548-2549 อย่างไรก็ตาม รายได้จากโครงการใหม่ที่เริ่มทยอยเข้ามาในปี 2550 จะช่วยลดอัตราส่วน Net Debt/EBITDA ของบริษัทลง
NPC ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่าง ปตท. และกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการผลิตโอเลฟินส์แห่งแรกของประเทศไทย ปตท.ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและเป็นผู้ผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพียงผู้เดียวนั้น เป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบหลักให้กับ NPC และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 38%
สามารถขอรับรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่ www.fitchratings.com หรือ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดต่อ
ภิมลภา สิมะโรจน์, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates + 662 655 4761
อรวรรณ การุณกรสกุล, กรรมการ, Corporates + 662 655 4766
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates + 662 655 4761
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย--จบ--
-นห-