กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--สามารถเทลคอม
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. สามารถเทลคอม เปิดเผยว่า สามารถเทลคอม ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคมครบวงจรมีนโยบายในการขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ให้บริการทางด้านไอทีและซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การพัฒนาซอฟต์แวร์ไปจนถึงการติดตั้งระบบและบริการหลังการขาย ที่ผ่านมาบริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนาและเสริมศักยภาพในการให้บริการ ICT Outsourcing อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2549 ได้มีการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท โอเอซิส คอนซัลติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบ SAP แก่รัฐวิสาหกิจและองค์กรเอกชนชั้นนำหลายแห่ง ล่าสุดได้บรรลุบันทึกข้อตกลงจะซื้อจะขายกิจการของบริษัท พอร์ทัลเน็ท จำกัด (Portalnet) จากบริษัท เอ็มลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MLINK) ในมูลค่า 1,552 ล้านบาท โดยทั้งสองบริษัทจะเจรจาในรายละเอียดของสัญญาซื้อขายและจะนำเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้ บริษัทพอร์ทัลเน็ทประกอบธุรกิจให้เช่าระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลัก(ERP) แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซึ่งนับเป็นโครงการให้บริการระบบ SAP/ERP ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ โดยพอร์ทัลเน็ทจะมีรายได้ประจำจากค่าเช่ารายเดือนๆ ละ 53.20 ล้านบาทตลอดระยะสัญญา 5 ปี รวม 3,192 ล้านบาท และมีโอกาสในการต่อสัญญาอีก 3 ปี รวมแล้วสัญญาโครงการนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯยังมองเห็นโอกาสในการได้งานต่อเนื่องจาก กฟภ. และองค์กรอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนอีกกว่า 4,000 ล้านบาท ใน 2 ปี ข้างหน้า
“ในการที่จะเข้าซื้อหุ้นพอร์ทัลเน็ทจากกลุ่ม M-Link ครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์และการลงทุนครั้งสำคัญ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและเติมเต็มความรู้ความชำนาญที่รอบด้านให้แก่สายธุรกิจ ICT Solutions ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารและดำเนินงานของบมจ.สามารถเทลคอม โดยบริษัทฯ ได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งโอกาสทางธุรกิจ ความคุ้มค่าในการลงทุน และความเสี่ยงต่างๆ โดยได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน บัญชีและกฎหมายเข้ามาร่วมในการพิจารณา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความมั่นใจสูงสุดในการลงทุน โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่เห็นได้ชัด คือ บมจ.สามารถเทลคอมจะมีงานโครงการในมือที่ทยอยรับรู้รายได้( Backlog ) เพิ่มขึ้นทันทีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี เป็นการเพิ่มรายได้ประจำ (Recurring Revenue ) ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของกลุ่มสามารถ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้เป็น 50 เปอร์เซนต์ของรายได้รวมภายในปี 2014 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯยังมีโอกาสในการต่อยอดรายได้จากโครงการต่อเนื่องและโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งยังมีความพร้อมและข้อได้เปรียบจากผลงานที่ผ่านมาในการเข้าร่วมประมูลและนำเสนอบริการด้าน ERP ( Enterprise Resource Planning ) ต่อองค์กรภาครัฐและเอกชนอื่นๆ ในอนาคต เช่น กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในระยะยาว คือ การถ่ายทอดความรู้ความชำนาญ ( Knowledge Sharing )ทางด้านซอฟต์แวร์ ERP และซอฟต์แวร์อื่นๆ เพื่อสร้างทีมนักพัฒนาและติดตั้งซอฟต์แวร์ที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับการขยายงานทางด้าน ICT Outsourcing ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลโดยตรงต่อการสร้างรายได้ประจำเพื่อสร้าง Sustainable Growth อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ”
นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ทุกครั้งที่บริษัทฯตัดสินใจลงทุน จะอยู่บนพื้นฐานความคุ้มค่าและโอกาสทางธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตและวิสัยทัศน์เป็นหลัก ซึ่งผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทุนครั้งนี้ จะเกิดความคุ้มค่าและเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้แก่กลุ่มบริษัทสามารถต่อไป”
อนึ่ง บมจ.สามารถเทลคอม หนึ่งในกลุ่มบริษัทสามารถ ประกอบธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคมครบวงจร ซึ่งเป็นสายธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับกลุ่มสามารถอย่างโดดเด่นมาโดยตลอด ล่าสุดในปี 2554 ที่ผ่านมา บมจ.สามารถเทลคอมมีรายได้ทะลุหนึ่งหมื่นล้านบาท คือ 10,226 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 791 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบร้อยเปอร์เซนต์ และในปี 2555 นี้ ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 50 เปอร์เซ็นต์