TCELS ลงนามความร่วมมือสถาบันราชานุกูล มหิดล และ NECTEC พัฒนาระบบตรวจวินิจฉัยการเกิดดาวน์ซินโดรม

ข่าวทั่วไป Monday March 19, 2012 09:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--19 มี.ค.--TCELS ราชานุกูล / กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) ร่วมกับ สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์เทคโนโลยีอิเลคทรอนิคและคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ลงนามความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการการพัฒนาระบบตรวจวินิจฉัย เพื่อคัดกรองการเกิดดาวน์ซินโดรม ของทารกในครรภ์ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2555 ณ สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต นายกำจร พลางกูร รองผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีด้านชีววิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยในการตรวจวิเคราะห์ภาวะปัญญาอ่อนที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรมซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่พบได้ประมาณ1 ใน 600 คน ของการคลอดทั้งหมด และเป็นการตรวจคัดกรองจากการเจาะเลือดมารดาก่อนการตรวจโครโมโซมที่มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ทั้งนี้แต่เดิมการตรวจด้วยวิธีการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาท แต่ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ราคาค่าตรวจลดลงกว่าครึ่ง ด้านนายแพทย์วีรยุทธ ประพันธ์พจน์ หัวหน้าศูนย์วิจัยพันธุศาสตร์การแพทย์ สถาบันราชานุกูล กล่าวว่าปัจจุบันกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ใช้วิธีการเจาะน้ำคร่ำเพื่อตรวจจำเพาะโครโมโซม ซึ่งวิธีการนี้เสี่ยงต่อการแท้งบุตร จึงนิยมทำเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยง คืออายุ 35 ปีขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป คืออายุต่ำกว่า 35 ปี เด็กในครรภ์มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดาวน์ซินโดรมได้เช่นกัน การคัดกรองจึงหันมาเลือกใช้วิธีเจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจระดับสารเคมีในกระแสเลือด สารเคมีดังกล่าวได้แก่ Alpha-Fetoprotein(AFP), Human Chorionic gonadotropin (HCG), unconjugated estriol (uE3)หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อTriple Test ซึ่งในปัจจุบันการตรวจด้วยวิธีดังกล่าวจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงคือประมาณ 1,000 — 2,000 บาท นายแพทย์วีรยุทธ กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า แต่ละปีมีหญิงตั้งครรภ์จำนวน 800,000 คน และประมาณ 700,000 คน เป็นหญิงอายุต่ำกว่า 35 ปี ในจำนวนนี้ 5% หรือประมาณ 35,000 คน อยู่ในกลุ่มผิดปกติในขณะที่หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไปซึ่งต้องเจาะโครโมโซมนั้น มีจำนวน 100,000 คน หรือประมาณ 1,000 คน อยู่ในกลุ่มผิดปกติไม่เกิน 3% เท่ากับ 97% เจาะโครโมโซมฟรี ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้จะทำหญิงตั้งครรภ์ทุกคนเข้าถึงบริการการคัดกรองก่อนการเจาะโครโมโซม ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร นายแพทย์วีรยุทธ กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้เห็นถึงความสำคัญของการคัดกรองดังกล่าวแก่หญิงตั้งครรภ์ทุกคน เพื่อลดภาวะดาวน์ซินโดรมของประชากรใหม่ในประเทศ ซึ่งจะมีการนำเสนอเพื่อให้ครอบคลุมในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในอนาคต ดังนั้นหากกระบวนการนี้สำเร็จจะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพดีถ้วนหน้าของประชาชนทั้งประเทศต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ