กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--สนพ.
รัฐบาลประกาศลอยตัวดีเซล ยอมเฉือนเนื้อลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันช่วยประชาชนลิตรละ 1 บาท ชะลอการปรับราคาด้วยการค่อยๆ ลดภาระการชดเชยที่เหลือ พร้อมยืดหนี้ระยะสั้นให้เป็นระยะยาว เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงปลายปี 2547 ที่ผ่านมา การใช้น้ำมันขยายตัวมากขึ้นทำให้มูลค่าการนำเข้าน้ำมันสูงขึ้น จนมีผลกระทบต่อดุลการค้า ดังนั้นเพื่อชะลอการใช้น้ำมันดีเซล และลดการบิดเบือนโครงสร้างการใช้น้ำมัน ซึ่งเกิดจากผู้ใช้น้ำมันเบนซินเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล ประกอบกับสถานการณ์น้ำมันค่อนข้างมีเสถียรภาพในขณะนี้ ดังนั้นรัฐบาลจึงตัดสินใจลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2548 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยลดภาระให้กับประชาชน รัฐจึงได้กำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการลอยตัวน้ำมันดีเซล ดังนี้
1 ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อลดภาระจ่ายเงินชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผลทำให้ชะลอการปรับเพิ่มราคาได้ประมาณ 1 บาท/ลิตร โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันต้องจ่ายชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับ 2.86 บาท/ลิตร จะลดลงเหลือ 1.76 บาท/ลิตร ทั้งนี้ รัฐจะลดภาษีสรรพสามิต น้ำมันดีเซล เป็นเวลา 10 เดือน โดยใน 6 เดือนแรกลดลง 1 บาท/ลิตรจากอัตรา 2.3050 บาท/ลิตร เหลือ 1.3050 บาท/ลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันจ่ายเงินชดเชยลดลง 1.10 บาท (รวมกับภาษีเทศบาล 10 % ของภาษีสรรพสามิต) และ อีก 4 เดือนลดลง 50 สตางค์/ลิตร โดยรัฐจะต้องสูญเสียรายได้จากภาษีไปประมาณ 14,000 ล้านบาท
2 ไม่ขึ้นราคาน้ำมันทันที แต่จะทะยอยปรับลดการชดเชยส่วนที่เหลืออีก 1.76 บาท/ลิตร ลงทีละน้อยตามช่วงเวลาที่เหมาะสมจนกว่าอัตราชดเชยจะเป็น 0 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2548 หรือต้นปี 2549
3. ยืดการชำระหนี้กองทุนน้ำมันดีเซล การเก็บคืนหนี้เดิมจำนวน 81,210 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 - ปัจจุบัน (31 พฤษภาคม 2548) ซึ่งเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ระยะสั้นอายุเพียง 1 ปี ทำให้ต้องเก็บหนี้คืนในอัตราที่สูง ดังนั้นเพื่อบรรเทาภาระการชำระหนี้ของประชาชน รัฐจึงได้เปลี่ยนเป็นหนี้ระยะยาว 5 ปี โดยการออกเป็นพันธบัตรของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อลดภาระการจ่ายหนี้คืนของประชาชนอีกทางหนึ่ง
4. เพิ่มการแข่งขัน การเปลี่ยนจากระบบราคาคงที่เป็นระบบราคาลอยตัว จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันของผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นมากขึ้น ทำให้ราคาลดลงได้อีกส่วนหนึ่ง
"ปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มผันผวนน้อยลง จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลอยตัวน้ำมันดีเซลภายใต้การบริหารจัดการของรัฐ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกมากนัก และรัฐก็ยังลดภาษีช่วยลดภาระให้ประชาชน ขณะที่ถ้าไม่มีมาตรการบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ประชาชนต้องจ่ายราคาดีเซลแพงขึ้นทันที 2.86 บาทต่อลิตร จากราคา 18.19 บาท/ลิตร เป็น 21.05 บาท/ลิตร ดังนั้น ขอให้ประชาชนยอมรับความจริงว่าเมื่อน้ำมันดีเซลลอยตัวแล้ว บางครั้งราคาอาจจะสูงขึ้น แต่บางครั้งก็ลดลงตามภาวะราคาตลาดโลกดังเช่นที่เคยเป็นมาและเรามีภาระต้องจ่ายหนี้คืนจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมาและหันมาช่วยกันประหยัดน้ำมันอย่างจริงจังมากขึ้น--จบ--