กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--เอ็ม วันเน็ตเวิร์ค
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สรุปผลสำเร็จจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการด้านการกำกับกิจการพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “Energy Regulation and the Promotion of Energy Conservation” โดยมีตัวแทนองค์กรกำกับกิจการพลังงานจาก 11 ประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ด้านการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมลงมติจัดตั้ง AERN อย่างเป็นทางการ
ศ.กิตติคุณ ดร.ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กกพ. ประสบความสำเร็จในการยกระดับความร่วมมือ และการสร้างเครือข่ายพลังงานอาเซียน ด้วยการเป็นหัวเรือใหญ่ผลักดันให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยเครือข่ายองค์กรกำกับกิจการพลังงาน (ASEAN Energy Regulators' Network - AERN) อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นองค์กรหลักในการกำกับกิจการพลังงานในระดับอาเซียน และได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาหลังจากที่หลายประเทศในอาเซียนใช้ความพยายามจัดตั้งเครือข่ายฯ นี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลจากการประชุม AERN ได้มีการหารือ และร่างขอบเขตของความร่วมมือ (Term of Reference for AERN) เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานของ AERN ร่วมกัน เช่น การกำหนดวัตถุประสงค์ องค์ประกอบสมาชิก หลักการทำงาน และอื่นๆ เป็นต้น โดยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม 9 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ บรูไน และไทย ได้มีข้อตกลงที่จะนำประเด็นหารือดังกล่าวกลับไปพิจารณา และนัดหารืออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในความร่วมมือกันในการพัฒนาการกำกับกิจการพลังงานภายใต้อาเซียน
"สมาชิกแต่ละประเทศได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมมือกันในการพัฒนาการกำกับกิจการพลังงานภายใต้อาเซียน และพร้อมเร่งรัดให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของการพัฒนาให้มีองค์กรหลักในการกำกับกิจการพลังงานระดับอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องไปกับการพัฒนาด้านพลังงานในปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้ ซึ่งผลจากการประชุมนี้จะพัฒนาเป็นขอบเขตความร่วมมือ และแผนการดำเนินงานร่วมกันในอนาคต” ดร.ดิเรก กล่าว
สำหรับเวทีสัมมนาเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อ “Energy Regulation and the Promotion of Energy Conservation” นั้น ประเทศต่างๆ ได้นำเสนอเกี่ยวกับโครงการ Demand Side Management (DSM) และ Demand Response ของแต่ละประเทศ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพภายในภูมิภาคอาเซียน และการจัดการด้านความต้องการพลังงานอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลจากการประชุมกำกับกิจการด้านพลังงานอาเซียนในครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ในการนำผลของการสัมมนาในด้านการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า และกิจการก๊าซธรรมชาติ ของหลายๆ ประเทศ ใช้เป็นความรู้เพื่อให้การวางแผนและการพัฒนาในการกำกับดูแลการจัดการการใช้เชื้อเพลิงไฟฟ้าของประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาด้านพลังงานของไทยในอนาคตต่อไป