"ปิ๋ม-พวงผกา" สาวไฮโซตระกูล "บุนนาค" ใช้เสน่ห์ปลายจวัก โชว์เมนูเด็ด "ช็อกโกแลตพุดดิงมะม่วง" ในรายการ เลดี้ส์ คอร์เนอร์

ข่าวทั่วไป Wednesday April 28, 2004 11:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
'หญิงไทย' ที่ยังคงความเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติของ "แม่บ้านแม่เรือน" นั้น นับวันยิ่งดู เลือนลางจากสังคมไทยในปัจจุบัน แต่สาวสวยไฮโซคนนี้..ไม่ธรรมดา นอกจากเป็นผู้หญิงเก่งแล้ว ยังมี ฝีไม้ลายมือในการทำอาหารที่เด็ด แถมรสชาติก็ยังรับประกันความอร่อยด้วย นี่แหล่ะเขาเรียกว่า "เสน่ห์ปลายจวัก" ของสาวไทย
คุณพวงผกา บุนนาค หรือ "ปิ๋ม" สาวสวยไฮโซ ทายาทตระกูล "บุนนาค" หลานเจ้าพระยาพิชัยญาติ ผู้ที่มีพรสวรรค์และพรแสวงในเรื่องของอาหารคาวหวานครบครัน เป็นอีกผู้หนึ่งของเชื้อสาย "บุนนาค" ที่มีฝีไม้ลายมือและขึ้นชื่อทางด้านรสมือที่หาตัวจับยาก จากการปลูกฝังทางคุณแม่ คุณย่า คุณยาย ประกอบกับการศึกษาระดับปริญญาตรี ในสาขา Food Service Business จาก Radford College ในสหรัฐอเมริกา จนสัมฤทธิ์ผลนั้น สามารถการันตีถึงความสนใจใคร่รู้ทางด้านการทำอาหารได้อย่างแท้จริง แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังหันมาจับธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้ชื่อว่า PIM ธุรกิจเบเกอร์รี่ (Make to Order) และเปิดคอร์สสอนทำอาหารคาว-หวาน ย่านสุขุมวิท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการที่จะเผยแพร่ฝีมือทางการทำอาหาร รวมถึงรสชาติของอาหารไทยให้คนรุ่นหลังได้ลิ้มลองและสืบทอดสู่รุ่นต่อๆ ไป
ล่าสุด คุณพวงผกา ได้พลิกบทบาทและเปิดโอกาสให้ตนเองได้มีโอกาสได้ทำงานใหม่ๆ ในแวดวงบันเทิง โดยตบปากรับคำมารับหน้าที่เป็นพิธีกรในช่วง Cooking ของรายการ "เลดี้ส์ คอร์เนอร์" ของค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่างกันตนา ภายใต้การสนับสนุนของ นมข้นหวาน ตรามะลิ หวังจะใช้ประสบการณ์ทางด้านอาหารที่มีอยู่นำมาถ่ายทอดเทคนิคการทำอาหาร แนะนำเคล็ดลับต่างๆ ในการปรุงอาหาร สู่สายตาของผู้ชมแฟนรายการ "เลดี้คอร์เนอร์"
เจ้าตัวการันตีว่าเมนูส่วนใหญ่ "คิดเอง" และประยุกต์จากตำรับตำราที่ตนเองให้ความสนใจ โดยนำมาปรับให้เข้ากับความต้องการและพื้นฐานของคนส่วนใหญ่ ที่ยังคงรสชาติความเป็นไทยไว้เป็นสำคัญ อีกทั้งปรับขั้นตอนการทำให้ดูง่าย ส่วนวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารก็สรรหาที่หาซื้อง่ายๆ และสะดวกใช้เป็นหลัก อาทิ กะทิสำเร็จรูป เนยสดชนิดเค็มและจืด และซุปก้อนสูตรต่างๆ เป็นต้น
สำหรับฝีไม้ลายมือในการปรุงอาหารของ คุณพวงผกา ไม่ต้องพูดถึงเพราะทุกขั้นตอนไม่ว่าจะหยิบจับสิ่งใดเป็นไปอย่างชำนาญ ทะมัดทะแมงและรวดเร็ว แต่คงแฝงไว้ด้วยความปราณีต พิถีพิถัน สัมผัสได้จากเมนูของหวานที่คุณพวงผกาอาสามาแนะนำในวันนี้กับเมนูเด็ด "ช็อกโกแลตพุดดิงมะม่วง" รับกับหน้ามะม่วงผลไม้ไทยๆ ของเราพอดิบพอดี
ช็อกโกแลตพุดดิงมะม่วง ส่วนผสมหลักๆ ประกอบด้วย มะม่วงน้ำดอกไม้สุก ซึ่งเนื้อจะแน่น หวานมีรสส้มปนอยู่นิดๆ 1 ผล ส่วนผสมพุดดิง ได้แก่ ผงคัสตาร์ด 3 ช้อนโต๊ะ, ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ, นมสด (ตรามะลิ) 11/2 ถ้วยตวง, น้ำวานิลลา 1 ช้อนชา และเนยออคิดชนิดเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ (วานิลลาช่วยแต่งกลิ่นให้หอมน่ารับประทาน , เนยชนิดเค็ม-เกลือช่วยให้พุดดิงมีความมันขึ้น)วิธีทำก็ง่ายๆ เริ่มแรกนำผงคัสตาร์ดผสมรวมกับผงโกโก้ (ควรร่อนก่อนช่วยให้ไม่เป็นก้อน) ตามด้วยน้ำตาลทราย นมสด คนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ลงไปในหม้อ (ควรกรองก่อน) แล้วนำไปตั้งไฟ ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที คนส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน (คนข้างนอกเป็นวงกลมเข้าข้างในและคนข้างในเป็นวงกลมออกข้างนอก) เมื่อพุดดิงเดือดได้ที่ ให้ใส่เนยชนิดเค็มตามลงไป เทใส่ชามพักไว้ ต่อจากนั้นมาเริ่มปอกเปลือกมะม่วงน้ำดอกไม้ แล้วหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในพุดดิงแล้วคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยหรือแก้วที่จัดเตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ก่อนเสิร์ฟหั่นมะม่วงเป็นชิ้นบางๆ หนาพอประมาณแต่งบนหน้าพุดดิง เพื่อให้เมนูนี้ดูหน้ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ติดตามชมโฉมหน้าของเมนูเด็ด "ช็อกโกแลตพุดดิงมะม่วง" จากรสมือของ คุณปิ๋ม-พวงผกา บุนนาค ได้ในรายการ "เลดี้ส์ คอร์เนอร์" วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.30 น. ทาง ไอทีวี
เสน่ห์ปลายจวัก" คำๆ นี้ มักใช้กับผู้หญิงที่มีฝีไม้ลายมือในการทำอาหารเก่งและมี รสชาติอร่อย ส่วนคำว่า "พ่อครัวหัวป่า" นั้น ดูจะเหมาะสมที่สุดกับชายหนุ่มที่ชอบทำอาหารและ รสชาติอยู่ในขั้นใช้ได้ ถึงขนาดที่ว่าใครได้ชิมเป็นต้องติดอกติดใจกันถ้วนหน้า อย่างเช่นอาหาร หน้าตาน่าทานจานนี้ ดูไปอาจจะคล้ายๆ กับพะแนงหมูหรือพะแนงเนื้อของบ้านเรา แต่นี่คือ "กูลาช" อาหารเยอรมันจานเด็ด ฝีมือการปรุงของ สถาปนิกหนุ่มหล่อหัวใจไทยคนแรกจากสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมระดับโลก "Bauhaus University" แห่งประเทศเยอรมนี
คุณพวงผกา ถือเป็นหญิงไทยที่ใส่ใจและขวักไขว่ในด้านอาหารเป็นพิเศษ ด้วยตำรับตำราอาหารนานาชนิด หลากหลายประเทศ
คุณอรรถสิทธิ์ เป็นหนุ่มไทยที่ใช้ชีวิตศึกษาเล่าเรียนอยู่ประเทศเยอรมนีมากว่า 15 ปี ด้วยจิตใจมุ่งมั่นที่จะเป็นสถาปนิกให้ได้ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ก็ตัดสินใจเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนี และสอบเข้าศึกษาต่อด้านสถาปัตยกรรมในระดับมหาวิทยาลัยที่ "Bauhaus" ขณะศึกษาอยู่ที่นั่นก็ได้ส่งผลงานการออกแบบเข้าร่วมประกวดในโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ การออกแบบ ศูนย์ไบโอเทคโนโลยี เมืองยีนา ประเทศเยอรมัน, การประกวดระดับนานาชาติ ในการออกแบบแนวความคิด การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งของเมืองปูซาน ประเทศเกาหลี, การประกวดออกแบบแนวคิด การวางผังเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เป็นต้น
ล่าสุด คุณอรรถสิทธิ์ เป็นสถาปนิกออกแบบบ้าน Modern Style ให้กับโครงการ ศรีนครินทร์ พาร์ค ย่านบางนา-ตราดตัดศรีนครินทร์ (วัดศรีเอี่ยม) พร้อมแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร "Wing roof" หลังคาบ้านนวัตกรรมใหม่ที่สามารถประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง นับเป็นผลงาน Prototype ที่น่าภูมิใจยิ่ง
สำหรับฝีไม้ลายมือการปรุงอาหารของ คุณอรรถสิทธิ์ เด็ดไม่แพ้กับการออกแบบบ้าน เพราะทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหั่นจนกระทั่งการปรุงรส คล่องตัวจนดูเหมือนว่าเป็นงานถนัดอีกอย่างหนึ่ง แต่ใช่ว่าจะง่ายเหมือนการออกแบบบ้าน นั่นเป็นเพราะว่าลงมือปรุงทานเองเป็นประจำ จึงทำให้ดูคล่องและชำนาญ ที่สำคัญ รสชาตินั้นก็ไม่แพ้ "กูลาช" ในห้องอาหารเยอรมันเลยทีเดียว
"ตอนอยู่ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อมีเวลาผมมักจะทำอาหารทานเอง โดยส่วนใหญ่อาหาร ที่ชอบทำทานเป็นประจำคือ "กูลาช" เพราะเป็นอาหารเยอรมันที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ซึ่งหากใคร สนใจ ลองนำสูตรไปทำดูก็ได้นะครับ
เครื่องปรุงหลักๆ ก็มี หมูหรือเนื้อ ประมาณครึ่งกิโล, พริกหวาน, หอมหัวใหญ่, หัวมะเขือเทศบดละเอียด, น้ำมันมะกอก, ซีอิ๊วขาว, วิปปิ้งครีมชนิดที่ยังไม่ได้ตีให้ขึ้นฟู, ไวน์แดง, ซุปก้อน และเครื่องเทศไทยอย่าง กระเทียมสับหยาบ, เกลือป่น, พริกไทย, พริกหยวกป่น (Paprika) และ ใบกระวาน ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยได้ดีที่สุด วิธีทำไม่ยากเลย ขั้นตอนแรกให้หั่นหมู (หรือเนื้อ) เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาดประมาณ 1 นิ้ว หมักกับซีอิ๊วขาว กระเทียม และพริกไทย ไว้ก่อนประมาณ 10 นาที จากนั้น หั่นพริกหวานเป็นเส้นๆ ตามยาว กว้างประมาณ 1 ซม. และหอมหัวใหญ่หั่นเป็นเส้นๆ เช่นกัน เมื่อหมักหมู จนได้ที่แล้ว นำไปผัดกับน้ำมันมะกอกด้วยไฟแรง ผัดให้สุกพอประมาณ จึงค่อยตักออกจากหม้อแล้วนำไปพักไว้ก่อน เติมน้ำเปล่าประมาณ 1 ถ้วยในหม้อที่ใช้ผัดหมู โดยตั้งไฟอ่อนๆ ละลาย ซุปก้อน ใส่มะเขือเทศบดละเอียด (Tomato Paste) และไวน์แดงลงไป ค่อยๆ คน พอเดือดให้ใส่หมูที่ผัดไว้ลงไป แล้วปรุงรสด้วยเกลือ, พริกไทย, พริกหยวกป่น (Paprika) และใบกระวานฉีก ชิมรสชาติ แล้วจึงใส่พริกหวานกับหอมหัวใหญ่ตามลงไป จากนั้น เติมวิปปิ้งครีมแล้วตั้งไฟอ่อนๆ ต่ออีกประมาณ 15-20 นาที หมั่นคนบ่อยๆ ถ้าใครชอบรสจัดแบบไทยๆ สามารถเติมพริกขี้หนู หั่นซอยบางๆ ได้
ส่วนพาสต้าที่จะทานกับ "กูลาช" นั้น มีขั้นตอนการทำที่ง่ายมาก คือเตรียมเส้นพาสต้าชนิดใดก็ได้ตามชอบ หรือบะหมี่ ต้มน้ำและเหยาะเกลือใส่นิดหน่อย ใส่เนยหรือน้ำมันพืชเล็กน้อยในช่วงที่ตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือดให้ใส่เส้นบะหมี่หรือพาสต้าลงไป หมั่นคนบ่อยๆ แล้วต้มด้วยไฟอ่อนๆอีกประมาณ 10 นาที ไม่ควรให้เส้นนุ่มมากเกินไป จากนั้นนำไปเทใส่ตะแกรง รินน้ำออก และ ราดด้วยน้ำเย็นทันที ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำสักพัก แล้วคลุกหรือคนเพื่อระบายไอน้ำออก ปิดฝาไว้ เตรียมเสิร์ฟกับสลัดผักสด หากใครไม่ชอบทานกับเส้นพาสต้าหรือบะหมี่ จะทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ"
หลังจากอวดฝีมือทำ "กูลาช" ให้ได้ลองชิมกันแล้ว เร็วๆ นี้คุณอรรถสิทธิ์ก็ต้องรีบกลับไปเคลียร์วิทยานิพนธ์ที่ Bauhaus เพื่อแจ้งจบรับปริญญาโท คาดว่ากว่าจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ก็คงอีก 2-3 เดือน อาจเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่การก่อสร้างโครงการศรีนครินทร์ พาร์ค คืบหน้าไปพอสมควร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : กมลวรรณ รักขพันธ์ (เปิ้ล)
โทร : 0 2274 4961-2 ,0 2691 6302-4
ประชาสัมพันธ์โครงการ ศรีนครินทร์ พาร์ค
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0 2691 6302-4, 0 2274 4961-2--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ