กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--มายแบรนด์ เอเจนซี่
เอ็น.เค. แถลงข่าวประกาศนโยบายเชิงรุก เตรียมยกระดับให้เป็นศูนย์รวมเบนซ์ที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในประเทศไทย เผยลงทุน 200 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการเบนซ์ ภายใต้คอนเซปต์ The Interactive Showroom แห่งแรกในไทย เตรียมลุยจัดกิจกรรมการตลาดเชิงรุกเข้าหากลุ่มเป้าหมายตลอดปี มั่นใจดันยอดขายเบนซ์ ปี 2555 เกิน 700 คัน
นายพิตินันทน์ กฤษดาธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.เค. ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ผู้นำเข้า และจำหน่ายรถเบนซ์ใหม่ และรถเบนซ์มือสองคัดพิเศษเกรดเอ เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ และทิศทางการดำเนินงานว่า นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป บริษัทได้วางแผนการที่จะรีแบรนดิ้งองค์กรใหม่เต็มรูปแบบเพื่อยกระดับและพัฒนาทิศทางขององค์กรให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ภายใต้แผน Revolution to the New Era โดยจุดเริ่มต้นในการรีแบรนดิ้งที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเรื่องสำคัญที่สุด คือการลงทุนสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่หมดภายใต้คอนเซปต์ The Interactive Showroom บนพื้นที่รวมกว่า 5 ไร่ ซึ่งถือเป็นโชว์รูมรถเบนซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
“ในคอนเซปต์ The Interactive Showroom นี้จะมีการนำเทคโนโลยี Search Engine Directory Program มาใช้เป็นครั้งแรกในวงการโชว์รูมรถยนต์ โดยจะมีการนำเสนอและแนะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ในโชว์รูม ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดในรูปแบบ 3D Mapping ซึ่งจะช่วยยกระดับการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ รวมทั้งได้มีการดีไซน์รูปแบบการจัดแสดงรถแบบใหม่ เรียกว่า Car Catwalk Display โดยทั้งหมดนี้บริษัทต้องการฉีกรูปแบบ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกชมรถยนต์ให้กับลูกค้า”
ทั้งนี้ในส่วนศูนย์ซ่อมบริการบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ นั้น นายพิตินันทน์ กล่าวว่า ได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วประมาณ 40 % โดยจะเน้นให้บริการพร้อมการรับประกันคุณภาพรถยนต์ที่บริษัทได้จำหน่ายออกไป เพื่อเพิ่มความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยคาดว่าทั้งในส่วนโชว์รูมและศูนย์บริการจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2555 นอกจากนี้ยังจะมีการปรับรูปแบบเว็ปไซต์ใหม่ ให้มีความทันสมัย รวดเร็ว เพื่อรองรับจำนวนการเข้าชมของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเพิ่มการให้บริการใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับในส่วนของศูนย์บริการ และโชว์รูมแบบ Interactive เพื่อต่อยอดและเพิ่มศักยภาพแบบครบวงจร
“เรายังมีแผนที่จะจัดกิจกรรม และอีเว้นท์ต่างๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อรุกเข้าหากลุ่มลูกค้าและเป้าหมายมากขึ้น แทนที่จะรอให้ลูกค้ามาหาฝ่ายเดียว อาทิ การออกบูธมินิมอเตอร์โชว์ที่งาน Bangkok Used Car & Imported Car Show รวมถึงที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และตามคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ รวมถึงมีแผนที่จะนำเข้ารถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาจำหน่าย ขณะที่แคมเปญส่งเสริมการขาย และสิทธิพิเศษต่างๆ จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง” สำหรับกลยุทธ์ที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจและเชื่อมั่น เอ็น.เค. และเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ
นายพิตินันทน์ เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดที่ชัดเจน โดยเน้นการขายไปที่ยี่ห้อเดียวคือ เบนซ์ รวมถึงจำนวนรถที่มีให้เลือกเยอะจริง สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรุ่น ทุกคลาส ครบทุกความต้องการกว่า 150 คัน โดยเฉพาะในปีนี้บริษัทได้มีนโยบายใหม่ที่ชัดเจน คือจะเน้นการสั่งรถเบนซ์ใหม่เข้ามาแบบ Big Lot โดยจะสั่งเข้ามารุ่นละ 20-30 คัน พร้อมกันในหลายๆ รุ่น เพื่อได้ราคาต้นทุนที่ถูกลง และสามารถทำราคาขายที่ต่ำกว่าท้องตลาดโดยทั่วไปนั่นเอง
“บริษัทยังคงชูจุดขายนี้ ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำในการสร้างบรรทัดฐาน และพัฒนานวัตกรรมการบริการใหม่ๆ ซึ่งมั่นใจว่า การรีแบรนดิ้งองค์กรสู่ยุคใหม่ ทั้งในส่วนของโชว์รูม และศูนย์ซ่อมบริการมาตรฐาน พร้อมด้วยกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุก และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จะทำให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าจำหน่ายที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว ดังความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนาให้ เอ็น.เค.เป็นศูนย์รวมเบนซ์มาตรฐานที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ที่เมื่อใดลูกค้านึกถึงเบนซ์
ก็อยากจะให้นึกถึง เอ็น.เค. เป็นที่แรกในใจ ดังสโลแกน เอ็น.เค. ที่นี่มีแต่...เบนซ์”
สำหรับเป้าหมายในปี 2555 กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.เค. ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจสู่การนำเข้า และจำหน่ายรถเบนซ์ใหม่ ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งจากเดิมเน้นแต่รถเบนซ์มือสองเป็นหลัก ส่งผลทำให้ตัวเลขการขายรวมของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของรถใหม่นั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน อันเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลยูโรที่อ่อนตัวลง และมีการเปิดตัวเบนซ์รุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเดิมที่ชอบและรักในแบรนด์เบนซ์ รวมถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นั้นเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น บริษัทจึงตั้งเป้ายอดจำหน่ายรวมในปี 2555 อยู่ที่ 700 คัน หรือเพิ่มขึ้น 8% เป็นรถเบนซ์ใหม่ 420 คัน หรือสัดส่วนร้อยละ 60 ของยอดขายรวมทั้งปี ขณะที่คาดว่ายอดจำหน่ายเบนซ์มือสองจะอยู่ที่ประมาณ 280 คัน ทั้งนี้บริษัทยังคงมีนโยบายที่จะนำเข้ารถเบนซ์รุ่นใหม่ๆ ทุกรุ่น ทุกคลาส เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายพิตินันทน์ ยังได้เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดวิกฤติมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศว่า บริษัทได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย เพราะโชว์รูมตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก โดยต้องหยุดการขายไปประมาณหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตามในช่วง 10 เดือนแรก ทางบริษัทได้จัดกิจกรรมโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมออกบูธตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ยอดจำหน่ายรถเบนซ์ของบริษัทยังคงปรับตัวขึ้นจากปี 2553 ประมาณ 5 % คือมียอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 654 คัน คิดเป็นสัดส่วนรถเบนซ์ใหม่ 60 % รถเบนซ์มือสอง 40 % โดยรถรุ่นที่ได้รับความนิยมและมียอดจำหน่ายสูงสุดคือ เบนซ์รุ่นซี-คลาส และรุ่นอี-คลาส รองลงมา
เอ็น.เค. ก่อตั้งในปี 2540 โดยนายก่อเกียรติ กฤษดาธานนท์ ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการรถเบนซ์มากว่า 44 ปี ที่ผ่านมาบริษัทยึดมั่นให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง และมีการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ปัจจุบัน เอ็นเ.ค. ได้แบ่งเซกเมนต์ธุรกิจชัดเจนออกเป็น 2 ส่วน คือภายใต้แบรนด์ N.K. AUTO IMPORT จะเป็นศูนย์รวมเบนซ์ใหม่นำเข้าป้ายแดง และ N.K. USED CAR คือศูนย์รวมเบนซ์มือสองคัดพิเศษเกรด เอ