กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ. กสิกรไทย มั่นใจเศรษฐกิจอินเดียยังไปได้สวยเปิดตัว “เค สมาร์ท ตราสารต่างประเทศ 1 ปี เอ”ชวนผู้ลงทุนคว้าโอกาสรับผลตอบแทนสุดหรู 4.50% ต่อปีจากตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ในแดนภารตะ และเงินฝากแบงค์ต่างประเทศ
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า “บลจ. กสิกรไทย ยังคงเชื่อมั่นในภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศอินเดียซึ่งมีความแข็งแกร่ง และเติบโตได้ดีในปีที่ผ่านมา โดยมีการขยายตัวสูงถึง 7.4% ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกขยายตัวเพียง 3.8% สำหรับในปีนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าในเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวประมาณ 7% การที่ธนาคารกลางอินเดียจะเริ่มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน 2-3 เดือนข้างหน้า เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อไป ด้านค่าเงินรูปีก็แข็งค่าขึ้นตั้งแต่ต้นปี เมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯประมาณ 5 % จึงยังคงดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติให้เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นการช่วยเสริมสร้างสภาพคล่องในอินเดียให้ยังเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนกับทั้งปัญหาเงินเฟ้อของอินเดียที่เคยเป็นที่จับตามองก็เริ่มคลี่คลายลง”
นางสาวยุพาวดีกล่าวต่อไปว่า “บลจ.กสิกรไทยเห็นว่าเศรษฐกิจอินเดียยังมีแนวโน้มสดใส แต่การลงทุนในตราสารหนี้อินเดียโดยตรงในขณะนี้ อาจให้ผลตอบแทนไม่น่าสนใจเท่าใดนัก เนื่องจากต้องมีการประมูลวงเงินจากรัฐบาลอินเดียซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด และมีนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมประมูลวงเงินมากขึ้นเพราะผลตอบแทนของตราสารหนี้อินเดียที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนในการประมูลปรับตัวขึ้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทย จึงจะลงทุนในตราสาร “Credit Linked Notes (CLN) ซึ่งเป็นตราสารที่มีลักษณะ"เสมือน" ลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐวิสาหกิจอินเดียทั้ง 3 แห่ง ภายใต้ กองทุนเปิดเค สมาร์ท ตราสารต่างประเทศ 1 ปี เอ (KSF1YA) โดยพร้อมเปิดขายในวันที่ 20-26 มีนาคม นี้”
นางสาวยุพาวดีกล่าวเพิ่มเติมว่า “กองทุน(KSF1YA) จะลงทุนใน “Credit Linked Notes (CLN) 55% และลงทุนในเงินฝากของธนาคารต่างประเทศอีก45% สำหรับตราสาร CLN ที่กองทุนจะลงทุนนั้น เป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารระดับโลกที่มีฐานะทางการเงินมั่นคงและมีอันดับความน่าเชื่อถือสูงในระดับ AA- ขึ้นไป โดยตราสารดังกล่าวจะอ้างอิงกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐวิสาหกิจอินเดีย 3 แห่ง ได้แก่ Power Finance Corporation Limited , Rural Electrification Corporation Limited และ Indian Oil Corporation Limited ซึ่งทั้งหมดนี้มีรัฐบาลอินเดียถือหุ้นใหญ่เกินกว่า 60% และมีความน่าเชื่อถือขององค์กรอยู่ที่ระดับ BBB- เทียบเท่ากับประเทศอินเดียเอง โดย Moody's และ S&P ต่างก็ปรับมุมมองอินเดียเพิ่มขึ้นจาก Negative (ติดลบ) เป็น Stable (มีเสถียรภาพ)ในปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นอีกขั้นของประเทศอินเดีย”
นางสาวยุพาวดีกล่าวทิ้งท้ายว่า การลงทุนใน CLN นี้ เทียบได้กับการลงทุนในหุ้นกู้ของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่งของอินเดียทางอ้อม โดยกองทุนจะได้รับเงินต้นและผลตอบแทน ตราบเท่าที่รัฐวิสาหกิจอินเดียที่อ้างอิง รวมถึงธนาคารที่ออกตราสาร สามารถชำระเงินต้นและผลตอบแทนของตราสารตรงตามกำหนด
สำหรับกองทุนเปิดเค สมาร์ท ตราสารต่างประเทศ 1 ปี เอ (KSF1YA) มีขนาดกองทุน 7,000 ล้านบาท ระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปี และผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับหลังจากหักค่าใช้จ่ายกองทุน เท่ากับ 4.50% ต่อปี ผู้สนใจลงทุนในกองทุนKSF1YA สามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท ตั้งแต่ 20-26 มีนาคม 2555 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
กองทุนเปิดเค สมาร์ท ตราสารต่างประเทศ 1 ปี เอ (KSF1YA) มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน