กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--IR PLUS
“ปกรณ์ บริมาสพร” เผยธุรกิจโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างปี 55 มีทิศทางสดใส หลังความต้องการใช้สินค้าพุ่ง เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหายจากวิกฤตน้ำท่วม ส่งซิกดันผลงานไตรมาสแรกปีนี้ไปได้สวย ส่วนทั้งปีตั้งเป้าปั๊มรายได้โตต่อ 15% จากปีก่อน หลังธุรกิจก่อสร้างเดินหน้าจริงจัง และบุกตลาดส่งออกมากขึ้น
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟและอุปกรณ์แสงสว่างในปี 2555 มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10 - 15% โดยความต้องการใช้โคมไฟและอุปกรณ์แสงสว่างเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการสินค้าไปทดแทนส่วนที่ชำรุด หรือเสียหายจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจก่อสร้าง ตลอดจนการมุ่งขยายงานด้านขายส่งและขายปลีกของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายฐานธุรกิจส่งออกให้มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเติบโตในอัตราที่สูงกว่าอุตสาหกรรมได้ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตรายได้ไว้ที่ 15% จากปี 2554
“ปีนี้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีตั้งแต่ไตรมาส1 ถือเป็นการขยายตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวไปจากวิกฤตการณ์น้ำท่วม รวมทั้งจากลูกค้าเก่าที่สั่งสินค้าเพิ่มขึ้น และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันการหันมาเพิ่มช่องทางขายส่งและขายปลีก เพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดส่งออกที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้” นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2554 (มกราคม - ธันวาคม 2554) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,017ล้านบาท เพิ่มขึ้น 386 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากงวดปี 2553 (มกราคม - ธันวาคม 2553) ที่มีรายได้ 1,631 ล้านบาท ขณะเดียวกันงวดปี 2554บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ จำนวน 71.87 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิจากงวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 50.60 ล้านบาท ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 21.27ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.03 ทั้งนี้ ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากรายได้ที่เติบโตขึ้น หลังการขยายตัวเพิ่มขึ้นของงานโครงการ เช่น ศูนย์การค้าซุปเปอร์สโตร์ โชว์รูม และร้านค้าย่อยต่างๆ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการประหยัดพลังงานไฟฟ้าของรัฐที่ส่งผลให้ยอดขายโคมไฟและอุปกรณ์ประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดอัตรา 0.57 บาท/หุ้น จากผลประกอบการงวดวันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2554 โดยจะนำเสนอมติคณะกรรมการดังกล่าวให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 25 เมษายน 2555.