กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--เจดับลิวที พับลิครีเลชั่นส์
“สายสุขภาพไฟเซอร์ 0-2664-5888 (Pfizer Health Line)” บริการรับปรึกษาปัญหาสุขภาพทางโทรศัพท์ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Specialist) ภายใต้แนวคิด “ที่ปรึกษาสุขภาพใกล้ตัว” จัด
งานสัมมนาพิเศษ “สายสุขภาพไฟเซอร์กับเคล็ดลับฝ่าวิกฤติโรคเครียด” ณ ห้องดุสิตธานี ฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี เมื่อเร็วๆนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้คนไทย นอกจากหันมาใส่ใจในสุขภาพกายของตนเอง คนในครอบครัว และคนใกล้ชิดแล้ว ต้องมีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรงควบคู่กัน เพื่อให้คนไทยมีอายุยืนยาว สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และมีความสุข โดย มร. อมาล นาจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและอินโดไชน่า
บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัดให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน จากนั้นตุ๊กตา — อินทิรา แดงจำรูญรับอาสาทำหน้าที่เป็นพิธีกร พร้อมด้วย นพ. พนมทวน ชูแสงทอง จิตแพทย์ และอาจารย์แพทย์ วิทยาลัย แพทยศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน “โรคเครียด” ได้นำผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนเข้าสู่ช่วง “ฝ่าวิกฤติเครียด” พร้อมทั้งกิจกรรมเวิร์คช็อป “วิถีแห่งการคลายเครียดทั้ง 5” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมสัมมนามากเป็นพิเศษได้แก่ การพูดระบายความเครียด เป็นการจับคู่สนทนาเพื่อระบายสิ่งที่อึดอัดใจอยู่ข้างใน โดยสิ่งสำคัญของการพูดเพื่อระบายความเครียดอยู่ตรงที่ต้องหาคนที่เราไว้ใจได้และอยู่ในภาวะที่พร้อมจะรับฟัง ถึงแม้ว่าคู่สนทนาจะไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ แต่อย่างน้อยก็ได้ปลดปล่อยและระบายภาวะเครียดได้ส่วนหนึ่งหลังจากนั้นอาจารย์พนมทวนก็นำเข้าสู่ช่วง อาหารคลายเครียด (Food Therapy) โดยมีเมนูเด็ดคือช็อคโกแล็ตกับน้ำมะตูม จะช่วยลดความตึงเครียด และขับลมได้เป็นอย่างดี ส่วนผู้ที่มีปัญหาเครียดและนอนไม่หลับต้องลองชิมเมนูกล้วยเชื่อมกับนมก่อนนอน รับรองหลับสบายอย่างแน่นอน แต่หากเกรงว่ากล้วยเชื่อมจะทำให้น้ำหนักขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นกล้วยหอมสุก หรือ กล้วยน้ำว้าสุกก็ได้ผลดีเช่นเดียวกันหลังจากที่ดื่มด่ำกับอาหารคลายเครียดกันหอมปากหอมคอแล้ว ท่านอาจารย์ก็นำเข้าสู่ช่วงดนตรีคลายเครียด (Music Therapy) ซึ่งทุกคนจะต้องนอนในท่าที่ผ่อนคลายจากนั้นจะเปิดเพลงที่ส่งผลต่อการผ่อนคลายประสาท ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงอาทิ บีโธเฟน ไชคอร์ฟสกี โมสาร์ท หรือจะฟังดนตรีไทยเดิมบ้านเราก็ได้เช่นค้างคาวกินกล้วย อีกกลุ่มที่ดีมากได้แก่ กลุ่มเสียงธรรมชาติ เช่น น้ำตก นกร้อง เสียงคลื่นเบา เป็นต้น หลังจากที่นอนฟังดนตรีอย่างสบายอารมณ์แล้ว ก็เพิ่มดีกรีการผ่อนคลายให้หายเครียดมากขึ้นในช่วง กลิ่นบำบัด (Aroma Therapy) อาทิ ธูปหอมกลิ่นที่สดชื่น หรือหยดน้ำมันหอมระเหยแล้วนอนหรือทำงานผ่อนคลายไปด้วยควบคู่ไปกับการแช่น้ำอุ่นๆ กลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายได้ดีคือ กลิ่นไม้จันทน์หอม กลิ่นกำยาน สำหรับผ่อนคลาย กลิ่นการบูร กลิ่นส้ม กลิ่นมะนาว สำหรับสร้างความสดชื่นเวิร์คช็อปสุดท้ายคือ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เริ่มด้วยการนั่งหรือนอนในท่าที่สบายๆ จากนั้นค่อยๆ เกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ขึ้นมาโดยอาจไล่จาก ปลายเท้า ข้อเท้า น่อง ต้นขา ลำตัว แขน มือ นิ้ว ไหล่ คอ ศีรษะ และใบหน้า เกร็งไว้สักอึดใจหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ผ่อนคลายย้อนกลับไป โดยเริ่ม ใบหน้า จนถึง ปลาย เท้า คุณสามารถใช้การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อในยามที่คุณรู้สึกตึงเครียด อึดอัด หรือไม่สบายใจ หลังจบการสัมมนาพิเศษนี้ นอกจากจะทราบเคล็ดลับฝ่าวิกฤติโรคเครียดด้วย วิถีแห่งการคลายเครียดทั้ง 5 แล้ว ผู้เข้าร่วมงานสัมมนายังได้รับหนังสือ “วิทยายุทธ์ — ไฟเซอร์ รวมความรู้เรื่องการใช้ยาอย่างถูกวิธี” งานนี้เรียกว่าทั้งสุขภาพจิตดี แถมได้พกพาหนังสือ “วิทยายุทธ์” กลับบ้านกันถ้วนหน้า
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--