บิวเดอสมาร์ท ดัน 3 ธุรกิจ ตั้งเป้าอัตรารายได้เติบโตก้าวกระโดด

ข่าวอสังหา Tuesday March 20, 2012 15:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น บิวเดอสมาร์ท ปรับโครงสร้างกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งภายในคุณภาพสูงของบริษัทฯ โฟกัส 3 ธุรกิจหลัก Gypsum, Alloy และ Fletcher วางเป้าหมาย 3 ปี อัตราเติบโตของรายได้ในประเทศปีละ 20% ขยายตลาดออกทั่วประเทศ พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าโตปีละ 50% ปักธงตลาดอินเดียและตลาดในกลุ่ม AECโดยเฉพาะพม่า และกัมพูชา ยังมีความต้องการกลุ่มสินค้า Alloy และ Fletcher ในระดับสูง นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM หนึ่งในผู้นำบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งภายในคุณภาพสูงแบบครบวงจร เปิดผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อสร้างความชัดเจนในการบริหารธุรกิจ โดยมีผลิตภัณฑ์หลักแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) ผลิตภัณฑ์ระบบกระจกอลูมิเนียมผนังกั้นห้อง (ALLOY Partitioning Systems) 2) ผลิตภัณฑ์ระบบยิปซั่มครบวงจร (Gypsum Wall & Ceiling Systems) 3) ผลิตภัณฑ์ระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) นายสัญชัย กล่าวต่อว่า จากการปรับโครงสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน เพื่อรองรับความต้องการบริโภคสินค้าที่เพิ่มขึ้นจึงคาดว่าในระยะ 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ปีละ 20% โดยตั้งเป้าปี 2555 บริษัทจะมีรายได้ 400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 20% จากรายได้ในปี 2554 ที่มีรายได้ 337.5 ล้านบาท จากตลาดในประเทศ โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการขยายงานที่เพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของ ผลิตภัณฑ์อัลลอยด์ระบบกระจกอลูมิเนียมผนังกั้นห้อง บริษัทจะขยายกลุ่มไปยังผู้ออกแบบรายย่อย การขยายตลาดไปยังกลุ่ม ธนาคารและโรงพยาบาล รวมถึงการเพิ่มทีมขาย เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น “การปรับปรุงพื้นที่ในอาคารเฉพาะพื้นที่ในกรุงเทพยังมีอยู่มาก ตลาดอัลลอยด์จึงขึ้นอยู่กับพื้นที่อาคาร ปัจจุบันพื้นที่การใช้งานในอาคารสำนักงานอยู่ที่ 1 ล้านตารางเมตร โดยแต่ละปีจะมีการปรับปรุงการใช้พื้นที่อาคารประมาณ 7-8 แสนตารางเมตรและ เมื่อรวมกับพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2 แสนตารางเมตรต่อปี การใช้ผลิตภัณฑ์อัลลอยด์จึงยังมีความต้องการใช้อยู่มากถึง 1 ล้านตารางเมตรต่อปี ขณะที่อะลูมีเนียมซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถทดแทนสแตนเลสได้ จึงทำให้ลูกค้าใช้งบประมาณได้ในราคาที่ประหยัด ประกอบกับอะลูมีเนียมยังสามารถปรับได้ตามรูปแบบความต้องการของลูกค้า และการขยายตลาดผลิตภัณฑ์อัลลอยด์ไปยังตลาดต่างจังหวัดเพื่อขยายตลาดไปทั่วประเทศในอนาคตข้างหน้า จึงยังเป็นโอกาสที่จะสร้างรายได้ของบริษัทในอนาคตด้วย”นายสัญชัยกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ระบบยิปซั่มครบวงจร จะขยายตลาดโดยการนำเสนอไปยังกลุ่มผู้ประกอบการทั้งตัวสินค้าและการติดตั้งผ่านทางบริษัทย่อย คือ อินสตอลไดเร็ค โดยเฉพาะตลาดนี้กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ส่วนผลิตภัณฑ์ระบบประตูหน้าต่างนั้นจะทำการรุกตลาดด้วยการนำเสนอตรงไปยังเจ้าของโครงการและผู้ประกอบการมากขึ้น รวมถึงแต่งตั้งผู้จัดจำหน่าย (Partner) เพื่อช่วยขยายการทำตลาด โดยสินค้าตัวใหม่ที่มาผลักดันการขายมากขึ้น คือ Fletcher Commercial เน้นในกลุ่มคอนโด และ ทาวเฮาส์ นายสัญชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำตลาดต่างประเทศว่ายังเป็นแนวทางที่บริษัทให้ความสำคัญ โดยคาดหวังอัตราการการเติบโตใน 3 ปีข้างหน้าปีละ 50% ต่อปี เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้นที่โดดเด่น และเพื่อรองรับการเปิดเสรีของเศรษฐกิจอาเซียน Asian Economic Community หรือ AEC เชื่อมั่นว่าบิวเดอสมาร์ท อินเดีย จะเป็นบริษัทลูกที่ขับเคลื่อนธุรกิจหลัก โดยกลุ่มสินค้า Alloy และ Fletcher จะเป็นกลุ่มสินค้าที่ผลักดันให้ยอดขายโต ดังนั้น บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจต่างประเทศในปีนี้ที่ 60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมีรายได้จากธุรกิจต่างประเทศ 40 ล้านบาท โดยบริษัทจะพัฒนาศักยภาพของ Dealer ที่แต่งตั้งไว้แล้ว และแต่งตั้ง Dealer ในแถบภูมิภาคเอเชียเพิ่มมากขึ้น สำหรับรายได้ของ บมจ.บิวเดอสมาร์ท ในปี 2554 บริษัทมีรายได้ 377.5 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 425.2 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 14.9 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 26.99% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นของปีก่อนที่ 22.11% โดยมีสัดส่วนรายได้ในประเทศต่อตลาดต่างประเทศ ในปี 2554 เท่ากับ 89%:11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามีสัดส่วน 95%:5% “ยอดขายตลาดในประเทศลดลง 16% เนื่องจากเน้นการจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักมากขึ้น ในส่วนตลาดต่างประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้น 75% โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการเน้นตลาดในต่างประเทศ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์นั่นเอง”นายสัญชัยกล่าว อนึ่ง บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM เป็นบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งภายในคุณภาพสูงแบบครบวงจร มีทุนจดทะเบียน และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 75 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ ประกอบด้วย บริษัท บิวเดอสมาร์ท คอนสตรัคชั่น ซิสเต็ม จำกัด ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และให้บริการติดตั้งสินค้าของบริษัทฯในประเทศอินเดีย มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านรูปีอินเดีย ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 1 ล้านรูปีอินเดีย มูลค่าที่ตราไว้ 10 รูปีอินเดีย และบริษัท อินสตอลไดเรค จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการติดตั้งผลิตภัณฑ์เฉพาะของ BSM ให้บริการอบรมความรู้ระบบติดตั้งแก่ผู้รับเหมา รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากบริษัทฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทร.02-245-3814, แฟกซ์.02-245-3815 E-mail: jatupol.theway@gmail.com, duchanee.theway@gmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ