กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--PRdd
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการบริหารพอร์ตกองทุนหุ้นประเภททริกเกอร์ได้ติดต่อกัน 2 กองทุน โดยล่าสุด บริษัทฯได้ประกาศปิดกองทุน เปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 10% ฟันด์ 2 (SCBTG10-2) ในวันที่ 19 มีนาคม 2555 โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนประมาณ 11.1178 บาท/หน่วย ภายหลังจากปิดกองทุนไทยพาณิชย์ทริกเกอร์ 10% ฟันด์ 1ไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 10% ฟันด์ 2 เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน มีอายุโครงการ 1 ปี สามารถได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการ โดยกองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 22 มีนาคม 2555 และได้รับเงินภายในวันที่ 26 มีนาคม 2555
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมขายกองทุนตราสารหนี้ในและต่างประเทศอีก 3 กองทุน อายุ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ระหว่างวันที่ 20-26 มีนาคม ศกนี้ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท คาดการณ์อัตราผลตอบแทน 3-4 % ประกอบด้วยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M41 (SCB Fixed Income Fund 3M41) อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ธนาคารกรุงไทย สัดส่วน 24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ F1+ (Fitch) Thai และตราสารหนี้ต่างประเทศได้แก่ ตราสารหนี้ธนาคาร GS Caltex (บริษัทในกลุ่มพลังงานของประเทศเกาหลีใต้) สัดส่วน 24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ A-2 (S&P) เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB) สัดส่วน 24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ F1 (Fitch) เงินฝากธนาคาร Bank of China (BOC) 20% อันดับความน่าเชื่อถือ A-1 (S&P) ส่วนที่เหลือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 6.50% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M58 (SCB Fixed Income Fund 6M58 ) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 3.35% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ธนาคาร GS Caltex (บริษัทในกลุ่มพลังงานของประเทศเกาหลีใต้) สัดส่วน 24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ A-2 (S&P) ตราสารหนี้ระยะสั้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา 19.50% ความน่าเชื่อถือ F1+ (Fitch) Thai เงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB) สัดส่วน 24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ F1(Fitch) เงินฝากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (UAE) 20% อันดับความน่าเชื่อถือ F1+(Fitch) ตราสารหนี้ธนาคาร Bank of East Asia สัดส่วน 5% อันดับ A-1 โดย S&P ส่วนที่เหลือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 5% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 1Y28 (SCB Foreign Fixed Income 1Y28) อายุ 1 ปี คาดผลตอบแทนประมาณ 4% ต่อปี โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย Fitch Rating ประกอบด้วยเงินฝากธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB) —UAE สัดส่วน 24.50% ตราสารหนี้ธนาคาร Emirates NDB- UAE สัดส่วน 24.50% เงินฝากธนาคาร Bank of China (BOC) มาเก๊า สัดส่วน20%ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือ F1 ตราสารหนี้ธนาคาร ICICI Bank อินเดียสัดส่วน24.50% อันดับความน่าเชื่อถือ (F3) ตราสารหนี้ธนาคาร Bank of East Asia สัดส่วน 4.50% อันดับ A-1 โดย S&P ส่วนที่เหลือพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 2% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6