ทีวีไกด์รายการ “เชฟกระทะเหล็ก-ไทย” ฉกเชฟชาวอิตาลี โชว์เมนูเด็ด ปรุง “เนื้อม้า” แบบคลาสสิค ทำแขกรับเชิญน้ำลายหก

ข่าวบันเทิง Tuesday March 20, 2012 16:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ช่อง 7 ฝีมือไม่ธรรมดา แถมหน้าตายังหล่อทะลุผ้ากันเปื้อนอีกต่างหาก สำหรับ “เชฟผู้ท้าชิง” คนล่าสุดที่จะเข้าแข่งขันชิงชัยกับ “เชฟกระทะเหล็ก” ในรายการ “เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย” ทางช่อง 7 งานนี้ “เฮลิโคเนีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” ในฐานะผู้สร้างสรรค์รายการ และประธานสรรหา ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์, เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์, นีโน่-เมทนี บุรณศิริ ถึงกับต้องออกไปฉกตัว เชฟฟรานเชสโก เลนซิ ผู้เกิดและโตในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี มาจาก Hotel Muse เพื่อมาปรุงเมนูพิเศษประจำตัว (Signature Dish) โดยมีเนื้อม้าเป็นพระเอกของงาน กับเมนู “Horse Drunk Risotto with Beetroot And gorgonzola Cheese” อาหารอิตาเลียนแบบคลาสสิคที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ให้แขกรับเชิญทั้ง 3 ท่าน ดีเจเชาเชา, คลาวเดีย จักรพันธุ์ และ เผือก-พงศธร จงวิลาส ได้น้ำลายหกกันเลยทีเดียว พลาดไม่ได้!!! พุธที่ 14 มี.ค.นี้ เวลา 23.00 น. แค่เปิดตัวเชฟฟรานเชสโก ก็ทำเอาสาวๆ หวั่นไหวกันเสียแล้ว งานนี้สาวลูกครึ่งอิตาลีอย่างคลาวเดีย เลยส่งสำเนียงอิตาลีทักทายเชฟหนุ่มทันที หลังจากที่พูดคุยกับเชฟฟรานเชสโกจนได้ทราบว่า อาหารในวันนี้ที่เขาจะทำเป็นอาหารอิตาเลียนจานพิเศษที่ทำจากเนื้อที่หาทานได้ไม่ง่ายนัก แถมวิธีการปรุงยังเป็นการปรุงแบบคลาสสิคอีกด้วย ว่าแล้วพิธีกรหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม เลยขอเปิดตัววัตถุดิบ เมื่อเห็นวัตถุดิบคลาวเดียก็รู้ในทันทีว่าวันนี้จะได้ทานของโปรดอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งไปทานมาหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แถมคราวนี้ยังเป็นฝีมือจากเชฟเจ้าตำหรับอาหารอิตาเลียนต่างหาก ทำให้คลาวเดียและแขกรับเชิญท่านอื่นๆ รวมถึงประธานสรรหาทุกท่านมั่นใจว่า เชฟฟรานเชสโก มีสิทธิ์จะเอาชนะเชฟกระทะเหล็กของเราได้ “เชฟฟรานเชสโก” เริ่มต้นเมนูพิเศษนี้ด้วยการ เลือกเนื้อม้าและแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกน้ำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วสับละเอียด โดยเชฟฟรานเชสโกอธิบายว่า เนื้อม้าค่อนข้างเหนียว และเนื้อม้าอีกส่วนนำมาหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ หลังจากนั้นจึงต้มน้ำร้อนไว้ในหม้อของเตาอีกด้านหนึ่ง นำยอดแอสพารากัสลงไปต้ม ในขณะที่เตาอีกด้านก็นำหม้อมาตั้งบนเตาให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอกแล้วตามด้วยหอมใหญ่เจียวให้หอม จากนั้นจึงใส่เนื้อม้าสับลงไปและคนให้เข้ากัน ตามด้วยข้าวสารที่นำเข้าจากอิตาลี ตามด้วยไวน์แดงและน้ำสต็อกผัก คนให้เข้ากันเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ จากนั้นนำครีมและ gorgonzola cheese หั่นหยาบไปตั้งไฟให้ละลายเข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำยอดแอสพารากัสต้มสุกใส่ลงไปในน้ำเย็น จากนั้นจึงนำหัวบีทรูทซึ่งต้มสุกแล้วมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปปั่นรวมกับน้ำสต็อกผัก นำบีทรูทปั่นที่ได้เทใส่ลงในกระทะ ทำให้ตอนนี้ Risotto กลายเป็นสีแดงสด ระหว่างนั้น สาวคลาวเดียและท่านอื่นๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า สีสันน่ารับประทานเป็นที่สุด แม้จะเคยชิม Risotto มาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะได้ชิม Risotto สีแดง เล่นเอากลืนน้ำลายด้วยความอยากชิมกันเป็นแถว จากนั้นเชฟได้นำครีมชีสที่ละลายดีแล้วมากรอง และพักไว้ในอ่างที่มีน้ำเย็นหล่อไว้ข้างล่าง เพื่อให้ครีมมีความหนืด และต่อด้วยการทำเนื้อม้าที่หั่นเป็นลูกเต๋าที่นำมาทำให้สุกในกระทะร้อนและปรุงรสด้วยเกลือ และพักไว้ จากนั้นจึงหันมาปรุงรส Risotto เมื่อ Risotto ข้นได้ตามต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาตกแต่งกันเสียทีกว่าแขกรับเชิญและประธานสรรหาจะได้ชิมกันก็ใช้เวลาไปไม่น้อย สมกับเป็นการปรุงแบบคลาสสิคจริงๆ เพราะเชฟฟรานเชสโกพิถีพิถันทุกขั้นตอน เล่นเอาเชฟหน้าหล่อเหงื่อตก จนสาวๆ อยากจะเข้าไปซับหน้าให้ แต่รสชาติของ “Horse Drunk Risotto with Beetroot And gorgonzola Cheese” จะดีเหมือนหน้าตาเชฟแค่ไหน? งานนี้ “เชฟฟรานเชสโก เลนซิ” ผู้ท้าชิงคนล่าสุด จะเลือกที่จะลงเวทีชิงชัยกับ เชฟกระทะเหล็ก ท่านใด, เมนูจาก “วัตถุดิบลับ” ที่ท่านประธาน “สันติ เศวตวิมล” สรรหามาให้ สร้างสรรค์เป็น 4 เมนูเด่นจะยังคงคุณค่าของรสชาติเดิมหรือไม่ และ “เชฟกระทะเหล็ก” จะเพลี่ยงพล้ำเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว หรือ ยังคงครองความเป็นสุดยอดเชฟประจำรายการ ติดตามได้ในรายการ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” ในวันพุธที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 23.00 น.ทางช่อง 7 สี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ