กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส
TROY
Final Production Information
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มนุษย์ก่อสงคราม บ้างเพื่ออำนาจ บ้างเพื่อชัยชนะ บ้างเพื่อเกียรติยศ - และบ้างก็เพื่อความรัก ในยุคกรีกโบราณ ความรักและปรารถนาแห่งสองชู้รักที่อื้อฉาวมากที่สุดในวรรณคดี - ปารีส เจ้าชายแห่งทรอย (ออร์แลนโด บลูม) และเฮเลน (ไดแอน ครูเกอร์) ราชินีแห่งสปาร์ตา ได้จุดชนวนสงครามที่ทำลายล้างชนชาติ เมื่อปารีสได้ลักพาตัวเฮเลนไปจากสวามีแห่งเธอ กษัตริย์เมเนลาอุส (เบรนแดน กลีสัน) ซึ่งนับว่าเป็นการหมิ่นหยามกันอย่างไม่อาจยอมได้ เกียรติศักดิ์ของวงศ์ตระกูลได้บงการว่าการสบประมาทเมเนลาอุส ก็เท่ากับได้สบประมาท อกาเมมนอน (ไบรอัน ค็อกซ์) ผู้เป็นพี่ชายเช่นกัน เขาเป็นกษัตริย์ที่ทรงอำนาจแห่งชาวไมซีเน ผู้ซึ่งรวบรวมบรรดาชนเผ่ากรีกจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อไปชิงตัวเฮเลนกลับมาจากทรอย เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของน้องชาย
ในความเป็นจริงแล้ว การไล่ตามเพื่อศักดิ์ศรีของอกาเมมนอนนั้น ถูกครอบงำไว้ด้วยความโลภอย่างมหาศาลของเขา - เขาต้องการมีชัยเหนือทรอยเพื่อครอบครองอีเจียน มันจะเป็นการยืนยันถึงอำนาจสูงสุดแห่งอาณาจักรอันมโหฬารอยู่แล้วของเขา เมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพง ภายใต้การนำของกษัตริย์ไปรอัม (ปีเตอร์ โอ'ทูล) และการปกป้องของเจ้าชายเฮกเตอร์ผู้กล้าหาญ (อีริค บานา) เป็นป้อมปราการมั่นคงที่ไม่เคยมีกองทัพใดสามารถทำลายได้ มีเพียงชายหนุ่มผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ต่อทรอย - อคิลลิส (แบรด พิตต์) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีชีวิตอยู่ ยโส หัวแข็ง และดูเหมือนไม่มีใครเอาชนะได้ อคิลลิส ไม่ภักดีต่อสิ่งใดและผู้ใด เขารักษาแต่ชื่อเสียงของตนเองไว้ ความกระหายที่จะมีชื่อเสียงไปตลอดกาลอย่างไม่รู้จักพอของเขา คือสิ่งที่นำเขาไปสู่การโจมตีประตูเมืองแห่งทรอย ภายใต้การนำของอกาเมมนอน - แต่ที่สุดแล้วความรักจะเป็นเครื่องตัดสินของเขา สองอาณาจักรจะเข้าสู่สงครามเพื่อเกียรติยศและอำนาจ ผู้คนนับพันจะล้มตายบนเส้นทางสู่ชัยชนะ และเพื่อรัก บ้านเมืองจะถูกเผาจนเหลือเพียงเถ้า
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างของ Radiant ร่วมกับ PLAN B ในภาพยนตร์ของวูล์ฟกัง ปีเตอร์เสน เรื่อง Troy นำแสดงโดย แบรด พิตต์ และอีริค บานา ร่วมแสดงโดย ออร์แลนโด บลูม, ไดแอน ครูเกอร์, ไบรอัน ค็อกซ์, ฌอน บีน, เบรนแดน กลีสัน และ ปีเตอร์ โอ'ทูล ภาพยนตร์แห่ง UK/MALTA Co-Production เรื่อง Troy กำกับการแสดงโดย วูล์ฟกัง ปีเตอร์เสน, อำนวยการสร้างโดย วูล์ฟกัง ปีเตอร์เสน, ไดอาน่า แรธบัน และ โคลิน วิลสัน; บทภาพยนตร์โดย เดวิด เบนิออฟ; ผู้ถ่ายภาพ ได้แก่ โรเจอร์ แพรตต์ BSC; ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ ได้แก่ ไนเจล เฟลพ์ส; และปีเตอร์ โฮเนส A.C.E. เป็นผู้ลำดับภาพ ดนตรีประกอบโดย เจมส์ ฮอร์เนอร์
Troy จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในกลุ่มบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และในบางพื้นที่โดย วิลเลจ โรดโชว์ พิกเจอร์ส
เกี่ยวกับเรื่องราว
กิเลส คือสิ่งที่เป็นหัวใจของทุกวิกฤติกาลที่เป็นตัวเดินเรื่อง Troy บันทึกเหตุการณ์อันเป็นตำนานแห่งชัยชนะและโศกนาฏกรรมของสงครามโทรจันอันลือเลื่อง เมล็ดพันธุ์แห่งสงครามได้ถูกบ่มเพาะขึ้น เมื่อกษัตริย์เมเนอุสแห่งสปาร์ตาได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง เพื่อเจรจาเพื่อสันติกับกษัตริย์ไปรอัมแห่งทรอย ซึ่งมีเจ้าชายเฮกเตอร์ โอรสองค์โตผู้พิทักษ์ของทรอยมาเป็นตัวแทน ในระหว่างที่สองผู้นำกำลังเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของการทำลายล้างที่ไม่อาจนับได้ถ้วนแห่งสงครามที่ยืดเยื้อมาหลายปีนั้น เจ้าชายปารีส น้องชายผู้หล่อเหลาอย่างน่าอัศจรรย์ของเฮกเตอร์ได้หายตัวไป - เพียงเพื่อจะไปปรากฎตัวอยู่ในห้องบรรทมของเฮเลน ชายาแห่งเมเนลาอุส ซึ่งเป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งพิภพว่าเป็นหญิงที่งามที่สุดในโลกผู้หนึ่ง เมื่อปารีสลักพาตัวเฮเลนไปจากวังของเมเนลาอุส โดยที่เฮกเตอร์ไม่ได้ล่วงรู้ ชะตาชีวิตของคนทั้งสองก็ถูกปิดผนึก : ผู้นำของชนเผ่ากรีกจำนวนนับไม่ถ้วนจะรวมตัวกันเพื่อก่อสงครามกับโทรจัน
หนึ่งในบรรดาผู้ร่วมผนึกกำลังนั้น ได้แก่ อคิลลิส นักรบผู้เก่งกล้าสามารถนามกระเดื่อง ที่เพียงแค่ชื่อของเขาก็ทำให้คู่ต่อสู้รู้สึกเย็นสันหลังได้แล้ว เล่าลือกันว่ามารดาของเขา เธตีส (จูลี่ คริสตี้) เป็นเทพธิดา และเขาได้รับพลังอมตะจากเธอ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาก็เป็นเพียงมนุษย์ และต้องไขว่คว้าความเป็นอมตะด้วยวิธีที่ผู้ไม่เป็นอมตะกระทำได้ : โดยการทำให้แน่ใจว่าประวัติศาสตร์จะจดจำชื่อของเขาไว้ตลอดกาล ตำนานที่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับอคิลลิส บังคับให้อกาเมมนอน กษัตริย์จองหองผู้ทะเยอทะยานของกรีก ซึ่งเป็นพี่ชายของเมนเลาอุส ต้องจำใจเรียกตัวเขามาร่วมสงครามในการต่อสู้กับพวกโทรจันม ถึงแม้อคิลลิสจะรู้ว่าอกาเมมนอนทำไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาเองก็ตาม ความกระหายที่ไม่รู้จักพอในเกียรติยศและชื่อเสียงตลอดกาลของเขา ก็นำพาให้นักรบหนุ่มเดินทางไปแสนไกลจากบ้าน สู่แนวหน้าของสงครามที่เกิดขึ้นเพื่อแสวงหาอำนาจ และการแก้แค้นเพื่อผู้อื่น
เฮกเตอร์และปารีสกลับมาถึงเมืองทรอยเพียงไม่นานก่อนหน้ากองทัพเรือกรีกที่กำลังบุกเข้ามา กษัตริย์ไปรอัม พระบิดาของทั้งสองจะต้องตัดสินใจว่าจะเข้าสู่สงครามกับพวกกรีก หรือส่งชายาของเมนเลาอุสคืนกลับไป และมอบตัวปารีสให้เพื่อไปรับการลงโทษ ในขณะที่เจ้าชายหนุ่มคงจะทำตามหัวใจรักของเขาเป็นแน่ ทางเลือกจึงชัดเจนแล้ว : ปารีสจะไม่ยอมคืนเฮเลนให้และไปรอัมไม่ยอมเสียลูกชาย สงครามจึงเป็นหนทางเดียว และสงครามก็จะมาถึงพวกเขาในไม่ช้า เรือรบกรีกนับพันเข้าเทียบที่ชายฝั่งโทรจัน โดยมีความสามารถเสมือนเทพเจ้าของอคิลลิสเป็นแรงขับเคลื่อนการจู่โจม แม้แต่ความเป็นผู้นำของเฮกเตอร์ผู้กล้าหาญ ก็ไม่อาจหยุดยั้งการเข้ายึดครองชายหาดอย่างรวดเร็วของชาวกรีกได้
จวบจนยามสนธยา แผ่นดินก็นองไปด้วยเลือดของชาวกรีกและโทรจันเท่าๆ กัน เฮเลนหัวใจสลายเมื่อเห็นว่ามูลค่าของความสุขแห่งเธอ คือความตายและพินาศอย่างมากมายของทั้งสองฝ่ายที่ขัดแย้งกัน แต่เธอไม่มีอำนาจที่จะหยุดยั้งมัน ความรักของปารีสฉุดรั้งเธอไว้ แต่ตัวเขาเองก็ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เขาเป็นตัวต้นเหตุด้วย - พวกกรีกดูเหมือนจะมีจุดประสงค์ในการเข้ายึดครองเมือง
อย่างไรก็ตาม โชคชะตานั้นมีความไม่แน่นอนมากกว่าที่ชาวโทรจันรู้ ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปด้วยดีนักระหว่างอกาเมมนอนและอคิลลิสนักรบที่มีค่าสูงของเขา ที่ไม่ได้ปกปิดที่จะสร้างความอายให้กับกษัตริย์ของเขา นักรบหนุ่มไม่ได้สู้เพื่อใครอื่นนอกจากตัวเอง - จนกระทั่งเขาได้พบกับหญิงสาวที่หวาดกลัวแต่ท้าทายในเต๊นท์ของเขา เธอถูกส่งมาเป็นรางวัลสำหรับการทำลายวิหารแห่งอพอลโล เทพเจ้าผู้ปกครองและปกป้องแห่งทรอย เธอคือไบรซิอีส (โรส เบิร์น) ลูกพี่ลูกน้องของเฮกเตอร์ สาวงามซึ่งเป็นนักบวชของวิหาร และดูเหมือนจะเป็นคนที่ยังมีชีวิตผู้เดียวที่ไม่รู้สึกหวาดหวั่นกับพลังของอคิลลิส ด้วยเล่ห์อคิลลิสกลับรับเธอไว้ในความปกป้องของเขาเสียเอง
ไม่นานต่อมาเขาก็ได้เรียนรู้ถึงค่าของการอุทิศตนเช่นนั้น อคิลลิสพบว่าเขาไม่อาจปกป้องไบรซิอีสจากอารมณ์ที่ไม่อยู่กับที่ของกษัตริย์ที่โกรธเกรี้ยวและริษยา ซึ่งเฝ้าคอยหาโอกาสที่จะลงโทษการสบประมาทของเขา เมื่ออกาเมมนอนได้ลักพาตัวไบรซิอีสไป อคิลลิสผู้เดือดดาลจึงปฏิเสธที่จะยกดาบของเขาเพื่อต่อสู้ในนามของกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายอีกต่อไป เมื่อปราศจากอคิลลิสที่จะเป็นผู้นำชัยชนะมาสู่ชาวกรีก พวกโทรจันก็ได้พิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามกว่าที่คิด และเกิดความเย็นชาห่างเหินที่ยังผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับประเทศของทั้งสองฝ่าย
"มีคำกล่าวโบราณที่ว่า สงครามจะดึงเอาด้านที่เลวร้ายที่สุดและด้านที่ดีที่สุดของมนุษย์ออกมา" วูล์ฟกัง ปีเตอร์เสน ผู้อำนวยการสร้าง/ผู้กำกับฯ ชื่อดังนึกทบทวน "แต่สงครามนั้นเป็นภัยพิบัติแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ภาพยนตร์ของเราแสดงให้เห็นถึงฉากสงครามตระการตาระหว่างทหารจำนวนนับหมื่นๆ ในแนวทางที่คนดูไม่เคยเห็นมาก่อน จุดยืนของเรื่องก็คือปัจจัยของมนุษย์ที่ไร้กาลเวลา ในเรื่องของชัยชนะและการพ่ายแพ้ ที่โฮเมอร์ได้บันทึกเอาไว้"
Troy ได้รับแรงบันดาลใจจาก อีเลียด ผลงานแห่งตำนานจากพรสวรรค์ของโฮเมอร์นักกวีโบราณ ซึ่งถือกันว่าเป็นบรมครูแห่งรากฐานงานวรรณคดีตะวันตก บทกวีมหากาพย์ซึ่งโฮเมอร์ได้สร้างชื่อไว้นั้น มีหลักฐานของการประพันธ์ปรากฎในช่วงศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นเวลา 300-400 ปีหลังจากการสันนิษฐานถึงการล่มสลายของกรุงทรอย ในขณะที่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโฮเมอร์เป็นเพียงผู้ท่องจำบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ด้วยปากเปล่า หรือเป็นผู้แต่งเรื่องต้นฉบับขึ้นแต่เพียงผู้เดียวก็ตาม ผลงานของเขาได้ก็ยังดำรงอยู่จนข้ามเวลามาหลายศตวรรษ และกลายเป็นงานวรรณคดีย้อนอดีตชิ้นที่ดึงดูดใจที่สุด
"ผมไม่คิดว่าจะมีนักประพันธ์คนไหนในช่วง 3,000 ปีที่ผ่านมาที่จะมีความสามารถในการบรรยายทั้งภาพและรายละเอียดของความน่าสพรึงกลัวแห่งสงครามได้มากไปกว่าโฮเมอร์" ปีเตอร์เสนกล่าว "แต่ในผลงานมหากาพย์ของเขานั้น การแสดงของมนุษย์ได้ถูกครอบคลุมไปด้วยความโหดเหี้ยม ผู้ชมรุ่นใหม่จะต้องเข้าสู่เนื้อเรื่องผ่านทางชีวิตและกิเลสตัณหาของคนจริงๆ ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าพรั่นพรึง"
บทภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนโดยเดวิด เบนิออฟ ผู้ประพันธ์ทั้งบทภาพยนตร์และนวนิยายของภาพยนตร์ชื่อดังของสไปค์ ลี เรื่อง 25th Hour "เรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกชนชั้น" ไดแอน แรธบัน ผู้อำนวยการสร้างกล่าว "ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะกลายเป็นพระเอกและออกไปปราบมังกรได้ แต่อารมณ์ที่ผลักดันพวกเขานั้นเป็นบางอย่างที่เราทุกคนได้ผ่านประสบการณ์มา ในจุดเดียวกันของชีวิต ตอนที่ได้อ่านสคริปท์ ฉันหลงรักมัน - การถ่ายทอดตัวละครอย่างถึงแก่นทำให้ผู้ชมจำได้อย่างทันท่วงที บางครั้งมันเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายทอดวรรณคดีคลาสสิค เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ห่างไกล ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ในโลกที่ต่างไป แต่มีบางอย่างในเรื่องนี่ที่เป็นเรื่องง่ายที่จะเชื่อมต่อ มันเกี่ยวกับอารมณ์ - ไม่ว่ามันจะเป็นที่ได้ประสบกันเมื่อหลายพันปีที่แล้ว หรือในวันนี้"
การคัดเลือกตัวแสดง
ในการแสดงถึงโลกที่ลบย้อนไปจากปัจจุบันมากกว่า 3,000 ปี การคัดเลือกตัวแสดงของปีเตอร์เสนได้นำพาให้ตัวละครที่เป็นที่รู้จักกันในภาพยนตร์ มีชีวิตอย่างแท้จริง ด้วยการแสดงแห่งมนุษย์ที่ไร้ซึ่งกาลเวลา
"เรื่องนี้มีความซับซ้อนมาก" ผู้กำกับการแสดงเน้น "มันมีตัวละครที่แตกต่างกันมากมายที่พัวพันซึ่งกันและกันด้วยกันทั้งหมด - พวกเขาทั้งหมดเป็นส่วนประกอบของแผนภูมิมนุษย์ที่เหลือเชื่อ นี่คือเนื้องานทั้งหมด ด้วยตัวละครที่มีความสำคัญ และไม่สามารถตัดสองหรือสามตัวทิ้งไปได้ เพราะว่าทั้งหมดจะพังเหมือนอย่างกับกองไพ่ทลาย ดังนั้นการคัดเลือกนี้เป็นเรื่องที่มีเสน่ห์ และผมคิดว่าการคัดเลือกนักแสดงเป็นอะไรที่ผมภูมิใจมากที่สุด เหล่านักแสดงที่เรามีนั้นช่างเหมาะสมอย่างไม่น่าเชื่อ"
การคัดเลือกสำหรับบทของอคิลลิสวีรบุรุษที่ไม่มีใครสามารถพิชิตได้เป็นหัวใจสำคัญ และทีมงานสร้างก็ได้เลือกแบรด พิตต์ นักแสดงของภาพยนตร์ต่างๆที่หลากหลายเช่นเรื่อง Fight Club และเรื่อง Ocean's Eleven และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสำหรับการแสดงที่ดึงดูดความสนใจของเขาในเรื่อง 12 Monkey ที่ทำให้ตำนานมีชีวิต "แบรดมีทั้งพรสวรรค์และเสน่ห์ที่ทำให้อคิลลิสดูน่าเชื่อถือ ว่าเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่และเป็นผู้นำที่มีคุณสมบัติพิเศษโดยไม่ต้องเสียสละความเป็นคนของเขาในการทำเช่นนั้น" ปีเตอร์เสนกล่าว
พิตต์เป็นคนที่น่าสนใจด้วยบุคลิกที่ซับซ้อนและหลากหลายแง่มุมในตัวเขา "โฮเมอร์ได้สร้างผลงานที่น่าทึ่ง โดยการเปิดเผยตัวละครของเขาอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง อีเลียด ไม่ได้ถูกเล่ากันแบบตรงๆ " พิตต์พูด "บุคลิกของอคิลลิสถูกเผยออกมาทีละเล็กทีละน้อย ชั่วขณะหนึ่งที่คุณคิดว่าเขาเป็นนักฆ่าไร้หัวใจ และต่อมาโฮเมอร์ก็ย้อนเวลาเพื่อเผยให้เห็นอีกด้านอื่นของอคิลลิส และเราจะพบว่าในอดีตเขาถูกเลี้ยงในที่ซึ่งเต็มไปด้วยมนุษยธรรมและคุณธรรม และนั่นคือการต่อสู้และความขัดแย้งที่โฮเมอร์เปิดเผยให้กับผู้อ่านรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติของมนุษย์"
การคัดเลือกนักแสดงทั้งหมดของภาพยนตร์ เป็นการเพรียกหาทั้งนักแสดงหน้าใหม่ และมือเก่าที่มีชื่อเสียงทั้งบนเวทีและในจอ เจ้าชายเฮกเตอร์แห่งทรอย รับบทโดยอีริก บานา ที่เคยแสดงในภาพยนตร์ของ อัง ลี ในเรื่อง Hulk และภาพยนตร์ออสเตรเลียที่ได้รับคำชื่นชมเรื่อง Chopper "เฮกเตอร์ดึงดูดใจผมทันที" นักแสดงชายทบทวนความจำ "ความกล้าหาญและมีคุณธรรมสูงของเฮกเตอร์ คุณลักษณะที่ว่าเป็นความดึงดูดใจที่คลาสสิค ทั้งในความเป็นภาพยนตร์และส่วนตัว เฮกเตอร์มีชายาและบุตร แต่ในความรู้สึกผมว่าเขาคิดว่าครอบครัวของเขาคือนครแห่งทรอย ถึงแม้ว่ามันเป็นหนังมหากาพย์ ผมพบว่ามันเป็นเทพนิยายที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริงในส่วนประกอบที่สำคัญ มันเป็นการเคี่ยวจนแตกแขนงของความสัมพันธ์ที่ล้ำลึก และจากความสัมพันธ์ที่ดูว่าแสนจะเล็กน้อยเหล่านี้ ก็ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของแอ็คชั่นและดราม่าที่ยิ่งใหญ่"
ออร์แลนโด บลูม ผู้ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรกจากทำงานของเขาในภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง Lord of the Rings แสดงเป็นเจ้าชายปารีสหนุ่มเจ้าเสน่ห์ แต่ใจร้อน ซึ่งเป็นน้องชายของเฮกเตอร์ "สำหรับผมความรู้สึกในความเป็นปารีสก็คือเขาเป็นผู้ร้าย" นักแสดงชายพูด "ปารีสไม่เหมือนตัวละครใดๆ ที่ผมได้เคยแสดง เขาเป็นลูกชายคนที่สองของไปรอัม และเขามีชีวิตอย่างหลบซ่อน เขาได้รับการอุปถัมภ์และไม่เคยต้องคิดถึงความรับผิดชอบของการก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์นักรบ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในท่ามกลางการแวดล้อมที่เป็นเรื่องของการเมืองอย่างหนักหน่วง ในโลกที่แสนอันตราย แต่โลกของเขานั้นเรียบง่าย จนกระทั่งเขาเป็นต้นตอแห่งสงคราม เพราะว่าความรักและความปรารถนาของเขาต่ออิสตรีนางหนึ่ง สองนครจึงต้องขัดแย้งกัน ซึ่งนำเขาไปสู่ความสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเขารู้จัก และเขาทำทั้งหมดนี้เพื่อความรัก"
การค้นหาที่แสนเหน็ดเหนื่อยในระดับประเทศสำหรับนักแสดงหญิงผู้ที่จะมารับบท เฮเลน ราชินีผู้ซึ่งความงามของเธอได้ทำให้เกิดปฏิบัติการแห่งกองทัพเรือนับพัน ได้นำพาผู้กำกับการแสดงไปพบกับนักแสดงหญิงชาวเยอรมัน ไดแอน ครูเกอร์ ที่ก่อนหน้านี้เคยแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Mon idole "เฮเลนค่อนข้างเป็นคนที่ทะนงและหมกมุ่นอยู่กับตัวเองใน อีเลียด ดังนั้นการแสดงออกของเธอด้วยเหตุผลที่เห็นแก่ตัวนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้อภัย" ครูเกอร์เล่าทบทวน "บทละครเรื่อง Troy ทำให้เฮเลนเป็นคนมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าความเดียวดายเป็นอย่างไร เธอมีชีวิตอยู่ในกรงทองและถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่มีอายุมากกว่าเธอสองเท่า - ความทุกข์ระทมของเธอเป็นสิ่งที่เห็นได้ เมื่อปารีสและเฮเลนได้พบกัน เธอก็มีหวังในความรักที่เธอไม่เคยได้พานพบขึ้นมาทันที ความหวังที่จะเป็นอิสระ ถึงแม้เพียงชั่วครู่ ฉันรู้สึกเชื่อว่าปารีสน่าจะหลงเสน่ห์เธอไม่เพียงแต่ความสวยของเธอเท่านั้น แต่สำหรับความอ่อนไหวและกลิ่นไอแห่งความเศร้าของเธอ"
นักแสดงชายที่มีความสามารถรอบตัว เบรนแดน กลีสัน รับบทเป็น เมเนลาอุส กษัตริย์ที่เธอทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง "เมเนลาอุสเป็นชาวสปาร์ตาที่ได้ลดความรุนแรงลงไปแล้ว" กลีสันพูด มีผลงานในอดีตได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง Gangs of New York และ 28 Days Later. "ชาวสปาร์ตามีชื่อเสียงในด้านใจแข็งน่าเกรงขามและชอบสงคราม แต่ยุคการทำสงครามกำลังเดินมาถึงจุดจบ ผมค่อนข้างชอบเมเนลาอุส ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่ตัวละครที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีภรรยาสาวสวยอายุน้อยกว่า และเขาได้พบกับสิ่งที่เป็นความกังวลอย่างยิ่งของชายวัยกลางคน - ที่ว่าชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าจะมาชิงตัวเธอไป ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนสูญหายไปจากเขา แต่โดยพื้นฐานเขาเป็นคนมีศักดิ์ศรี และเหตุผลที่เขาไปยังทรอยก็เพื่อภรรยาของเขาและเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของเขา"
พี่ชายของเมนลาอุส กษัตริย์อกาเมมนอนผู้โลภมาก รับบทโดยนักแสดงที่มีชื่อเสียง ไบรอัน ค็อกซ์ ซึ่งเคยได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างแพร่หลายจากผลงานการแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่องอย่างเช่น 25th Hour และ L.I.E. "ผมคิดว่าในความคิดของอกาเมมนอน ทรอยนั้นค่อนข้างเป็นสถานที่ของฮิปปี้ยุคใหม่" เขาบอก "ที่ซึ่งทุกคนใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ตัดขาดจากโลกแห่งความเป็นจริง และแยกตัวจากวิถีของโลกที่กำลังก้าวไปข้างหน้า และเขาอยากทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่แท้จริง ด้วยวิธีการที่น่าสยดสยอง อกาเมมนอนมัวเมาในตำแหน่งของตัวเอง และมันเป็นปัจจัยของการฆ่าฟันในการครอบครองทรอย - ในที่สุดเครื่องจักรที่ทรงพลังยิ่งใหญ่นี้ ก็ได้สะดุดเข้ากับสิ่งที่เล็กน้อยที่สุด มันเป็นสำนวนเก่าที่ว่า : อำนาจมีวันเสื่อม และอำนาจสูงสุด เสื่อมได้อย่างที่สุด"
ปีเตอร์ โอ' ทูล ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง 7 ครั้งและได้รับรางวัลออสการ์จากการให้ความสนับสนุนภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของเขา การแสดงเป็นกษัตริย์ไปรอัมที่น่าเคารพนับถือของเมืองทรอย "ไปรอัมทำตัวเขาเอง" โอ'ทูลพิจาารณา เขาได้นำประสบการณ์ที่เคยแสดงเป็นบรรดาผู้นำในตำนานอย่างเต็มเปี่ยมมาสู่ตัวละคร เริ่มจากบทบาทที่สร้างชื่อในตำนานที่เป็นเครื่องหมาย เรื่อง Lawrence of Arabia "มันดูเหมือนยโสโอหังในการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โลกของพวกเขาคือพวกขุนนางนักรบ แต่ไปรอัมเป็นข้อยกเว้นในเรื่องนี้ - เพราะความปลอดภัยของเขาที่อยู่หลังกำแพงเมืองทรอย เขาประสบความสำเร็จในการรักษาสันติมาเป็นเวลาหลายปี เขาไม่เคยออกไปโจมตีใครเลย แต่เขาจะปกป้องทรอยและต่อต้านใครก็ตามที่กล้าเข้ามาใกล้มัน และกำแพงเมืองทรอยก็ไม่เคยถูกทำลาย"
การเผชิญหน้าที่เคร่งเครียดและเจ็บปวดระหว่างไปรอัมและอคิลลิส เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวมากที่สุดของภาพยนตร์ ในการรอคอยที่จะได้ถ่ายบทสนทนาที่ละเอียดอ่อนที่สุด ปีเตอร์เสนได้ย้ายกองถ่ายไปยังห้องบอลรูมของโรงแรมในเม็กซิโก เพื่อให้มั่นใจกับความเงียบอย่างที่สุด เพื่อที่นักแสดงของเขาจะได้มีสมาธิอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีสิ่งรบกวน การเตรียมการของเขาให้ผลดีมาก "ทุกอย่างนิ่งมาก" ปีเตอร์เสนเล่าทบทวน "ผมจะไม่มีวันลืมเลย แบรดนั่งอยู่ตรงนั้นหลังจากถ่ายจบซีน และเขาเกือบอยู่ในสภาพช็อค และปีเตอร์ โอ'ทูล ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ? มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาของการสร้างหนังที่คุณจะไม่มีวันลืมได้ชั่วชีวิต"
"มันเป็นหนึ่งในบรรดาฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมได้เคยอ่านมา" พิตต์เห็นด้วย "ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ถ่ายฉากนี้โดยเฉพาะ และตื่นเต้นมาก ว่าผมจะได้ทำงานนี้ร่วมกับปีเตอร์ โอ'ทูล จนถึงวันนี้ มันเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงทำในสิ่งที่ทำ มันยอดเยี่ยมมาก" โรส เบิร์น ดาราจากภาพยนตร์เรื่อง I Capture the Castle and Goddess of 1967 รับบท ไบรซิอีส หลานสาวของไปรอัม นักบวชพรหมจารีสาวน้อยแห่งวิหารอพอลโล ที่ถูกพวกกรีกจับเป็นเชลยและมอบให้กับอคิลลิสเพื่อเป็นรางวัล "ฉันชื่นชมมากเกี่ยวกับไบรซิอีส" เบิร์นกล่าวอย่างมีศรัทธาแรงกล้า "เธออายุสิบเจ็ด และใช้ชีวิตอย่างได้รับการปกป้องในทรอย และเธอต้องตกเป็นนักโทษสงครามอย่างกระทันหัน แต่เธอก็ยังรักษาศักดิ์ศรีไว้ได้ภายใต้ความเศร้าโศก และท้ายที่สุดเธอก็กลายเป็นนักรบ" ตัวละครนี้ลงเอยด้วยการมีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งกับอคิลลิส และกับประวัติศาสตร์อีกด้วย "เธอกลายเป็นแกนกลางของความสะเทือนอารมณ์ของอคิลลิส" เบิร์นเล่า "เพราะการที่จะสงสารเขาได้ เราต้องมองให้เห็นว่าเขามีจิตวิญญาณเช่นกัน"
ผู้ร่วมทีมนักแสดงเป็น เธติส มารดาของอคิลลิส คือ จูลี่ คริสตี้ ดาราภาพยตร์ผู้มีชื่อเสียง เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากบทบาทของเธอในเรื่อง Darling บทบาทสำคัญของคริสตี้ในการเปิดเผยข้อความชวนให้ฉงน ที่จะเป็นตัวตัดสินชีวิตของอคิลลิสในที่สุด "เธติสเป็นผู้ทำนายเหตุการณ์" พิตต์กล่าว "และเธอเป็นผู้ที่ทำให้เกิดสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอคิลลิส - ว่าหากเขาไม่ต้องการออกศึก เขาจะมีลูกๆ และพวกเขาจะรักเขา และลูกๆ ของ ลูกๆ จะรักเขา แต่หลังจากนั้นเขาก็จะถูกลืม หรืออีกทางเลือกคือเขาไปร่วมสงครามนี้ และเขาก็จะทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกคนจะโจษขานกันไปอีกนับพันๆ ปี แต่เขาจะเสียชีวิตในสงคราม เธติสเผยกับเขาว่า หากเขาไปออกรบเขาก็จะบังคับให้ตัวเองเดินไปสู่ความตาย"
กษัตริย์อกาเมมนอนรุ้ดีว่าอคิลลิสจะไม่มีวันยอมร่วมสงครามโดยง่าย เขาจึงส่งโอดิสซีอุส กษัตริย์แห่งอิทาคาซึ่งเป็นเพื่อนที่อคิลลิสไว้วางใจ ให้เป็นผู้ชักชวนนักรบหนุ่มมาร่วมการต่อสู้ "โอดิสซีอุสเป็นคนที่มีกลุยุทธ์ฉลาดหลักแหลม" ฌอน บีนน์ นักแสดงหนุ่มชื่อดังที่รู้จักไปทั่วโลกเล่า เขารับบทเป็นกษัตริย์ "เขาเป็นคนที่กล้าหาญ คนที่มีเกียรติ และเป็นนักรบที่ดี แต่บทบาทของเขาในเรื่องนี้เป็นเหมือนทูตหรือนักเจรจามากกว่า โอดิสซีอุสเข้าใจอคิลลิสดีกว่าใคร และรู้ว่าทำไมเขาจึงลังเลที่จะร่วมสงครามกับอกาเมมนอน ซึ่งเขาไม่ไว้ใจ อคิลลิสชอบโอดิสซีอุสมาก และจะฟังในสิ่งที่เขาพูด - และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาจะยอมฟัง ทั้งสองต่างชื่นชมและเคารพซึ่งกันและกันอย่างมาก และหากใครสักคนจะสามารถเกลี้ยกล่อมอคิลลิสให้ร่วมทัพออกศึกกับอกาเมมนอนได้ คนนั้นต้องเป็นโอดิสซีอุส"
"เรื่องราวของเรานั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นของมนุษยชาติ" ปีเตอร์เสนกล่าวสรุป "มันไม่ใช่ขาวหรือดำ มันไม่ใช่ 'นี่คือคนดี และนั่นคือคนชั่ว' นั่นเป็นวิธีเล่าเรื่องแบบล้าสมัย เรื่องนี้ทันสมัยและในแบบที่เกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ชีวิตนั้นซับซ้อนกว่าและน่าสนใจกว่า และเพราะเหตุนี้ มันจึงสะเทือนใจกว่า"
กลุ่มสุดท้ายของทีมดาราที่ยอดเยี่ยมของปีเตอร์เสน ได้แก่ แซฟฟรอน เบอร์โรว์ส เป็น อันโดรมาคี ภรรยาผู้เสียสละของเฮกเตอร์ ; วินเซนต์ รีแกน เป็น ยูโดรุส เพื่อนร่วมชาติของอคิลลิส และผู้นำกองทหารเมอร์มิดอน; และแกเร็ต เฮดลุนด์ เป็น ปาโตรคลุส ญาติที่อคิลลิสรักมากที่สุด
(ยังมีต่อ)
-นท-