รับมือภัยพิบัติที่ไม่คาดคิดด้วย “คลาวด์ คอมพิวติ้ง” เทคโนโลยีขององค์กรยุคใหม่

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday March 21, 2012 11:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--Piton Communications เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดและเป็นบทเรียนครั้งสำคัญแก่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรธุรกิจ ตลอดจนอุตสาหกรรมต่างๆ คงหนีไม่พ้นมหาอุทกภัย ปี 2554 ที่ลุกลามและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศในวงกว้างราวกับลูกโซ่ ทำให้หลายๆ องค์กรต้องหยุดชะงักหลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากมวลน้ำจำนวนมหาศาล ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ อาทิ แผ่นดินไหว วาตภัย หรืออัคคีภัยเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบ หรือความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงตามมาโดยไม่อาจตั้งตัวรับมือได้ทัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การรับมือและป้องกันตนเองจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงตามมาในภายหลัง และสิ่งที่เกือบทุกองค์กรหันมาให้ความสำคัญและกล่าวถึงเป็นอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้นคลาวด์ คอมพิวติ้ง ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยจัดเก็บ/สำรองข้อมูล ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของทุกองค์กร เพื่อลดโอกาสในการเกิดความเสียหาย หรือผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว คุณสุภัค ลายเลิศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสบริษัท ยิบอินซอย จำกัด บริษัทชั้นนำผู้ให้บริการด้าน Systems Integrator หนึ่งในผู้นำโซลูชั่นเต็มรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ได้เสนอทางเลือกสำหรับองค์กรธุรกิจในการป้องกันและลดความเสี่ยงจากเหตุภัยพิบัติต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อองค์กร ไว้ดังนี้ “หากจะกล่าวถึงโซลูชั่นทางด้านไอทีที่กำลังถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ คงหนีไม่พ้น Virtual Office หรือออฟฟิศเสมือนจริงบนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลออกไป หรือแม้แต่ในต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานไปตั้งอยู่ ณ ที่นั้นจริงๆ ผ่านเทคโนโลยีจัดเก็บเสมือน (Storage Virtualization) ซึ่งช่วยลดภาระขององค์กรในการจัดเก็บข้อมูล แหล่งทำเลที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องลงทุนสูงกับโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดย Virtual Office อาจเป็นเพียงเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว หรืออาจเป็นเพียงพื้นที่บนเว็บเซอร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ได้ ขอเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงข้อมูลในระบบ และข้ามข้อจำกัดด้านสถานที่ ให้สามารถทำงานได้ในทุกๆ ที่ผ่านการออนไลน์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะเกิดการสูญหาย ถูกทำลาย และสามารถการดำเนินงานต่อเนื่องบนความสูญเสียที่น้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มการใช้งานระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในเมืองไทยมีอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะองค์กรขนาดกลางหรือขนาดย่อม (SMEs) และเอ็นเตอร์ไพรซ์ ที่มักมีเจ้าหน้าที่ทางด้านไอทีทำงานอยู่อย่างจำกัด ทำให้ไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการและการอัพเกรดเวอร์ชั่นของซอฟต์แวร์ต่างๆ เช่นในอดีต จากการสำรวจล่าสุดของ CIO ผู้ให้บริการข้อมูลด้านไอทีชื่อดังในสหรัฐอเมริกา พบว่า องค์กรธุรกิจต่างๆ มีแนวโน้มที่จะใช้คลาวด์ คอมพิวติ้งเพิ่มมากขึ้น โดยในสหรัฐอเมริกา จำนวนองค์กรที่ใช้คลาวด์ คอมพิวติ้งในปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 23 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 57 ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า” อย่างไรก็ดี หลายองค์กรยังมีความกังวลใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและทรัพยากรของระบบ คุณสุภัค กล่าวว่า “คลาวด์คอมพิวติ้ง โซลูชั่น ของยิบอินซอย ได้พัฒนาการให้บริการรักษาความปลอดภัยบน คลาวด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำระบบรักษาความปลอดภัยไปใช้บนคลาวด์จะแตกต่างไปจากการรักษาความปลอดภัยของระบบไอทีทั่วๆ ไป ซึ่งแบ่งรูปแบบตามประเภทของการให้บริการ เช่น การให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น (SaaS) ผู้ใช้บริการต้องยอมรับเงื่อนไขของบริการก่อนการใช้บริการซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ หรือการบริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS) ซึ่งเป็นการให้บริการฮาร์ดแวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยในรูปแบบเสมือน (Virtualization) ซึ่งผู้ให้บริการจะดูแลเองทั้งหมด รวมไปถึงระบบพื้นฐานส่วนกลางและระบบซอฟต์แวร์ที่ให้บริการ เป็นต้น” และอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อองค์กรธุรกิจ ก็คือDisaster Recovery Center หรือศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองและการกู้คืนระบบ หากจะเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับการซื้อประกันสำหรับข้อมูลขององค์กร เมื่อระบบไอทีของบริษัทมีปัญหาจากภัยพิบัติต่างๆ จนไม่สามารถใช้บริการได้ ก็ยังสามารถสำรอง และกู้คืนข้อมูลสำคัญต่างๆ กลับมาได้ ซึ่ง Disaster Recovery Center เองก็มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม เช่น เช่าสถานที่ทำงานพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้พนักงานเข้าไปทำงาน หรือบริการพื้นที่เก็บข้อมูล รวมทั้งใช้เป็นศูนย์สำรองข้อมูลทั้ง 100% เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลทั้งหมด อย่างไรก็ดีการที่สร้าง Disaster Recovery Center สำหรับองค์กรที่ไม่มีศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองเป็นของตนเองนั้นจำเป็นจะต้องลงทุนเป็นจำนวนมากในการติดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายของ hardware, software, operation ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญในการสร้างระบบสำรอง คุณสุภัคได้เล็งเห็นปัญหาในส่วนนี้จึงได้นำเสนอแนวแนวทางการให้บริการแบบใหม่ๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีระบบคอมพิวเตอร์สำรอง และรองรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยแนวทางนี้ ผู้ลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนระบบคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง โดยสามารถทำการเช่าใช้ระบบ DR ที่ได้จัดเตรียมไว้บนระบบ Virtualization โดยในส่วนนี้เองทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ระบบ DR ในต้นทุนที่ถูกลงเนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ที่นำเสนอนั้นเป็นระบบที่มีการใช้งานร่วมกัน โดยในส่วนนี้เองทางผู้ใช้สามารถเลือกได้ที่จะทำการเช่าใช้ทั้งในลักษณะ SaaS และ IaaS หากองค์กรมีการวางระบบการจัดเก็บและสำรองข้อมูลที่ดี ก็ถือได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งในการเริ่มต้น หรือฟื้นคืนธุรกิจในส่วนที่ได้รับผลกระทบ หรือแม้แต่สร้างความได้เปรียบและโอกาสในการต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจขององค์กรให้เหนือคู่แข่ง…อย่างไรเสีย “กัน” ต้องดีกว่า “แก้” อย่างแน่นอน ติดต่อ: บริษัท ยิบอินซอย จำกัด คุณนครินทร์ เทียนประทีป โทรศัพท์ 02-353-8600 ต่อ 3210 thakorn.th@yipintsoi.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ