กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. ไทยสตีล เคเบิล พร้อมรับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ ระดมทุนเตรียมขยายกำลังการผลิตพร้อมสร้างโรงงานมูลค่ากว่า 395 ล้านบาท พร้อมเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในหมวดธุรกิจยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 23 มิ.ย. 48
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติรับหุ้นสามัญของบริษัท ไทยสตีล เคเบิล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในกลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ เริ่มซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2548 เป็นต้นไป ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TSC” นับเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ลำดับที่ 5 ของหมวดยานยนต์ในปีนี้
“จากการขยายตัวต่อเนื่องของอุตสาหกรรมรถยนต์ และการสนับสนุนของรัฐบาลให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์แห่งเอเชีย ก่อให้เกิดการย้ายฐานการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลกเข้ามาในไทย
เป็นผลให้ TSC กลายเป็นบริษัทผู้นำในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดของผลิตภัณฑ์สายควบคุมในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรเติบโตเฉลี่ยสูงถึงกว่าร้อยละ 270 ต่อปี ส่งผลให้ TSC น่าจะเป็นอีกกิจการหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน” นางสาวโสภาวดีกล่าว
บริษัท ไทยสตีลเคเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ TSC เป็นบริษัทในกลุ่มซัมมิท โอโต กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของไทย ประกอบธุรกิจผลิตสายควบคุม (control cable) และ ชุดควบคุมรางกระจกหน้าต่างรถยนต์ (window regulator) ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำ ศูนย์อะไหล่ รวมถึงผู้ค้ารายย่อยต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศภายใต้เครื่องหมายการค้า “TSC” “TSK” และ “HI-LEK”
ในปี 2547 TSC มีส่วนแบ่งตลาดสายควบคุมในรถจักรยานยนต์สูงถึงร้อยละ 98 และในรถยนต์ร้อยละ 76 ของรถที่จำหน่ายในประเทศทั้งหมด ขณะที่มีส่วนแบ่งตลาดชุดควบคุมรางกระจกหน้าต่างรถยนต์ร้อยละ 36 สินค้าของ TSC ผลิตและจำหน่ายในประเทศเกือบทั้งหมดโดยมีลูกค้าหลักรายใหญ่คือ อีซูซู ฮอนด้า โตโยต้า มิตซูบิชิ ยามาฮ่า ซูซูกิ และคาวาซากิ เป็นต้น
TSC มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 259.8 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 201.5 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 58.3 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยในระหว่างวันที่ 15 - 16 มิถุนายน 2548 บริษัทได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ทั้งจำนวน ในราคาหุ้นละ 9.20 บาท รวมมูลค่าระดมทุนราว 536.36 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทใช้วิธีการกำหนดราคาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ระดับ 9.32 เท่า เทียบกับ P/E Ratio ของหมวดธุรกิจยานยนต์ที่มีค่าประมาณ 10.63 เท่า (คิดเป็นอัตราส่วนลดประมาณร้อยละ 14) ประกอบกับการสำรวจความต้องการซื้อหุ้นของผู้ลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ที่กำหนดช่วงราคาหุ้นในการสอบถามคือ 8.70 —9.20 บาทต่อหุ้น
TSC มีแผนขยายกำลังการผลิตรวมถึงย้ายฐานการผลิตไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี โดยใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 395 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรกของ TSC ประกอบด้วย กลุ่มจุฬางกูร ถือหุ้นร้อยละ 32.14 กลุ่มนิปปอน เคเบิล ซิสเต็ม อิงค์ ถือหุ้นร้อยละ 26.94 และกลุ่มพัฒนะเมลือง ถือหุ้นร้อยละ 11.28 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว สำหรับนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผล TSC มีนโยบายจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ
ผู้สนใจข้อมูลของบริษัท ไทยสตีลเคเบิล จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.thaisteelcable.com เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ของเซ็ทเทรด ดอท คอมที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 —2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-222 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--