กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--วอลโว่
? รถบรรทุกวอลโว่ดันยอดขายได้ตามเป้าในปี 2554
? วอลโว่ กรุ๊ป ยืนยันเดินหน้าโครงการลงทุน 4 พันล้านบาทในประเทศไทย เพื่อการดูแลลูกค้า และการบริการที่ดียิ่งกว่า
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุก และรถโดยสารขนาดใหญ่ยี่ห้อวอลโว่แต่ผู้เดียวในประเทศไทยจากประเทศสวีเดน ฉลองการดำเนินธุรกิจครบ 20 ปี ในประเทศไทย พร้อมกันนี้ วอลโว่ กรุ๊ป ได้ประกาศความสำเร็จของผลการดำเนินงานในปี 2554 โดยสามารถดัน ยอดขายทะลุเป้า โดยมียอดส่งมอบรถบรรทุกให้ลูกค้าสูงถึง 1,027 คัน และรถโดยสารขนาดใหญ่หรือบัส 132 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขส่งมอบรวมทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน
มร. มร.ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การส่งมอบรถบรรทุกวอลโว่ทั่วโลกเฉพาะในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 27% หรือ 11,882 คัน เมื่อเปรียบ เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขการส่งมอบตลอดปีที่แล้วนั้นมีสูงถึง 115,346 คัน คิดเป็น อัตราเติบโตถึง 53%”
ในทวีปเอเชีย การส่งมอบรถบรรทุกในเดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้วเติบโตขึ้น 39% โดยมียอดการส่งมอบ อยู่ที่ 1,826 คัน ส่วนยอดการส่งมอบรถบรรทุกในประเทศรัสเซียรวม 878 คัน คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 90% ในขณะที่ยุโรปตะวันออก ยอดส่งมอบรถเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคมของปี 2553
สำหรับในประเทศไทยนั้น ตลาดรถบรรทุกหนักมีศักยภาพที่จะเติบโตสูงมาก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการ รวมตัวเป็นตลาดเดียวของกลุ่มประเทศอาเขียนหรือ AEC (ASEAN Economic Community) ที่จะเริ่มในปี พ.ศ.2558 ซึ่งตลาดรวมของรถบรรทุกหนักในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยในปีที่แล้วราว 7% โดยในส่วนของ วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) เองนั้นมีตัวเลขส่งมอบรถบรรทุกปีที่แล้วอยู่ที่ 523 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 5% ในเซ็กเม้นท์ของกลุ่มรถบรรทุกหนัก (Heavy-Duty)
“เราเองมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่า รถบรรทุกวอลโว่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เพราะเป็นผลจากการใส่ใจในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการกำกับการพัฒนาสินค้า และบริการของเราให้เป็นผู้นำของโลกทางด้านเทคโนโลยี และความ ปลอดภัย เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถนำเสนอเทคโนโลยีล้ำหน้า และยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงต่อลูกค้าของเรา ให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กับเราได้ ซึ่งโครงการแข่งขันขับรถบรรทุกประหยัดน้ำมัน (Fuelwatch Competition) ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรม” มร.ฌาร์ค มิเชล กล่าว
วอลโว่ถือเป็นผู้นำในด้าน “คุณภาพ” “ความปลอดภัย” และ “การรักษาสิ่งแวดล้อม” ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ได้บังเกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน โดยคุณค่าของทั้งสามสิ่งนี้ได้หยั่งรากลึกจนถือเป็นมรดกและประวัติศาสตร์ของ บริษัท
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทฯยังได้มีการส่งรถบรรทุกวอลโว่ที่ประกอบและจำหน่ายในประเทศไทยออกไปยัง ประเทศลาว และ พม่า อีกด้วย
มร. ฌาร์ค กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยนั้นถือเป็นฐานการประกอบสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งสายการ ประกอบในประเทศไทยนั้น นอกจากจะเพื่อจำหน่ายภายในประเทศไทยแล้ว ยังเพื่อส่งออกไปประเทศลาว พม่า และกัมพูชาอีกด้วย เรายังมองไปไกลถึงการรวมตลาดอาเชียนเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อโครงการ AEC นั้นจะมีส่วน ผลักดันความต้องการในตลาดรถบรรทุกหนัก ให้มีอัตราเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว”
“ทั้งนี้เป็นเพราะการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวของอาเชียนนั้น จะมีผลอย่างมากต่อภาคขนส่งโดยเฉพาะการ ขนส่งทางบก ซึ่งผลมาจากการรวมตัวกันทำให้ประเทศต่าง ๆ ในอาเชียนนั้นไร้พรมแดน” มร. ฌาร์ค กล่าว
ในส่วนของตลาดรถโดยสารประเภทรถโค้ช (Coach) และอินเตอร์ซิตี้ (Intercity) ในประเทศไทยนั้น วอลโว่ถือเป็นผู้นำตลาดของประเทศไทย โดยในปีนี้ทางวอลโว่ กรุ๊ป มีแผนจะเปิดตัวรถโดยสารรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งรถรุ่นใหม่นี้จะสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการขับขี่ให้แก่พนักงานขับรถ ในขณะเดียวกันเครื่องยนต์ รุ่นใหม่จะตอกย้ำประสิทธิภาพในด้านประหยัดพลังงานที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ให้กับบริษัทผู้ให้บริการรถ โดยสาร
“คำตอบของวอลโว่ กรุ๊ป สำหรับตลาดที่กำลังเติบโตนี้ คือการยืนยันการลงทุนในประเทศไทยอีก 4 พันล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า” มร.ฌาร์ค มิเชล กล่าวและย้ำว่า “เพื่อเป็นการตอกย้ำการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เราได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนราว 2 พันล้านบาทในประเทศไทย ในการขยายเครือข่ายการบริการเพิ่มเติมอีก 9 แห่งจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 6 แห่ง รวมเป็น 15 แห่ง ส่วนอีก 2 พันล้านบาทนั้นจะเป็นการลงทุนขยายกำลังการ ประกอบในโรงงานประกอบของ TSA เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแน่นอนที่สุด การลงทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้เราต้องเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 1,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันที่เรา มีพนักงานราว 500 คนมาเป็น 1,500 คนภายใน 18 เดือน”
วอลโว่ กรุ๊ป ก่อตั้งแล้วมากว่า 80 ปี โดยมีธุรกิจต่าง ๆ ได้แก่รถบรรทุก รถโดยสาร อุปกรณ์ การก่อสร้าง เครื่องยนต์สำหรับเรือและอุตสาหกรรม รมถึงชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน สำหรับในประเทศไทยนั้น วอลโว่ ทรัคส์ แอนด์ บัส ดำเนินธุรกิจมาถึง 2 ทศวรรษแล้ว
ในส่วนธุรกิจหลักของวอลโว่ กรุ๊ป นั้น วอลโว่ ทรัคส์ ถือเป็นผู้นำการผลิตรถบรรทุกของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราเองได้นำเสนอ การบูรณาการด้านขนส่งอย่างสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าใน 140 ประเทศทั่วโลก ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรถบรรทุก ของโลกอย่างแท้จริง เรามีเครือข่ายครอบคลุมในทุกทวีป ได้แก่ ยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ อาฟริกา และออสเตรเลีย และด้วยความรับผิดชอบในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม เราจึงยึดถือเป็นภารกิจที่สำคัญในการนำพา องค์กรให้รักษาความเป็นผู้นำนี้ไว้ สำหรับทวีปเอเชียวอลโว่ ทรัคส์ ยังครองตำแหน่งผู้นำในบรรดารถบรรทุกนำเข้า แบรนด์อื่นๆ ของยุโรป
วอลโว่ กรุ๊ป ได้สร้างบทบาทใหม่ในการนำเสนอการบูรณาการด้านการขนส่งในประเทศไทย โดยวอลโว่ ได้นำผลิตภัณฑ์ด้านรถบรรทุก และรถโดยสาร มาจัดแสดงในงานฉลองครบรอบ 20 ปี ของการดำเนินธุรกิจ ในประเทศไทย และทางวอลโว่ กรุ๊ป ยังเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
ท่านสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
คุณวิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว
Manager — Brand & Marketing Communication
โทร. (02) 707 1747 ต่อ 1214
อีเมล์ wilawan.wispapaew@volvo.com