เบเกอรี่ มิวสิค เสนอบทสัมภาษณ์ ศิลปินกลุ่ม B-Five

ข่าวทั่วไป Friday April 30, 2004 13:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--เบเกอรี่ มิวสิค
-ก่อนที่จะขึ้นคอนเสิร์ตของพี่บอยด์ครั้งนั้น แต่ละคนในวงมาเจอพี่บอยด์ได้ยังไง
เบน : ตอนนั้นเบนได้ทำเพลงกันเองกับเพื่อนๆ ใช้ชื่อกลุ่มว่าโมโนโทน ได้ออกอัลบั้ม มีโอกาศได้ไปเปิดที่ fat radio และเพลงได้ขึ้นชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งคือเพลง celebration และพี่บอยด์ได้ฟังเพลงนี้ก็เลยติดต่อเบนมาทำให้มาร่วมงานกัน
คิว : คิวอยู่วงฟลัวได้มีโอกาสได้เจอเบน เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตตามมหาวิทยาลัย ก็จะมีเบนไปเป็นแขกรับเชิญ ให้วงฟลัวตลอด และตอนนั้นเบนได้ไปโปรโมท เพลงใกล้ก็เลยทำให้ได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกัน ก็เลยรู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น
เค้ก : ตอนนั้นเบนจะย้ายจากโมโนโทนมาที่เบเกอรี่ พอเบนจะย้ายออกไปก็เลยให้เค้กร้องเพลงนึง เป็นเพลงฝรั่ง เพลง เดอะเลดี้โกโฮม ร้องในฐานะที่อำลาเบนด้วย ผมก็เลยไปร้อง แล้วหลังจากนั้นผมก็ไปเรียนร้องเพลงกับครูโรจน์ แล้วได้เจอกับพี่ป๊อดแล้วครูโรจน์ก็ลองเปิดพลงของผมให้พี่ป๊อดฟัง พี่ป๊อดก็ไปบอกพี่บอยด์ หลังจากนั้นพี่บอยด์เลยเรียกผมเข้าไปคุย
โต๋ : ผมเล่นเปียนโนอยู่ที่โบสถ์ตอนนั้นได้รู้จัก กับพี่ไก่ สุธีร เคยได้ร่วมงานกับพี่ไก่เกี่ยวกับเพลงละคร พี่ไก่ให้ไปอัดเปียนโนให้ พี่ไก่ก็เลยชวนพี่บอยด์มา งานคริสต์มาสครั้งนึงพี่บอยด์มานั่งฟังแล้วได้ยินโต๋เล่นตอนนั้นเปียนโนพอเลิกงาน พี่บอยด์ก็เลยมาหาว่าใครเล่นเปียนโนก็เลยมาคุยกับโต๋ พี่บอยด์ชวนว่าถ้ามีงานจะชวนโต๋มาร่วมงานแล้ว
พี่บอยด์มารู้ทีหลังว่าเป็นลูกคุณพ่อ ซึ่งรู้จักกันอยู่แล้ว พี่บอยด์ก็ติดต่อกลับมาอีกทีตอนเดือนมีนา เพราะตอนนั้นพี่บอยด์จะทำเพลงหัวใจผูกกันเป็นเวอร์ชั่นบรรเลงเปียนโน เลยให้โต๋มาทำเป็น 4 เวอร์ชั่นผมเลยทำมาให้ฟัง เพลงหัวใจผูกกันกับเพลงเหมือนเคย พี่บอยด์ได้ฟังพี่ไก่กับคุณพ่อได้ฟังเลยเกิดไอเดียว่าทำไมไม่ทำอัลบั้มขึ้นมา และต่อจากนั้นก็ได้ขึ้นคอนเสิร์ต แล้วพี่บอยด์บอกว่ามีนักร้องอีก4 คน จะแนะนำให้รู้จัก พี่บอยด์บอกว่าจะเอากลุ่มนี้ขึ้นคอนเสิร์ต ก็เลยได้มาเจอกับอีก4 คนเลยได้ร่วมงานกับพี่บอยด์
มาเรียม : มาเรียมป็นแฟนเพลงพี่บอย์ด ตั้งแต่อัลบั้มชุดแรก ได้มีโอกาสไปเจอพี่บอย์ดครั้งแรกตอนไปขอลายเซ็นพี่บอยด์ที่สยาม แต่ตอนนั้นก็ได้คุยบ้าง แต่ตอนนั้นได้ข่าวจากเพื่อนว่าพี่บอยด์จะเปิดโครงการ สอนแต่งเพลง แล้วมาเรียมเลยสมัครไป
พี่บอยด์เลยเลือกมาเป็นหนึ่งในห้าคน พี่บอยด์เห็นว่ามาเรียมร้องเพลงได้เลยชวนมาเป็นครอรัส ให้คริสติน กับโปรเจ็คเฮช ปลายปี2000 พี่บอยด์ก็เรียกมาเรียมเข้ามาคุย จนกระทั่งก่อนหน้าคอนเสิร์ต จนประมาณพฤษภาปีที่แล้วมาเรียม โทรติดต่อกับพี่บอยด์พี่บอยด์บอกจะมีคอนเสิร์ต เลยได้มีโอกาศเจอกับ4คนที่เหลือ เลยได้มาร้องด้วยกัน
-ในวง B-FIVE ใครเข้ามาก่อน
คิว : ฟลัวครับ
เบน : น่าจะเข้ามาพร้อมกันนะครับ แต่คิวจะมีผลงานออกก่อน แล้วเบนค่อยมีใกล้ตามมา
-กลุ่มศิลปินหน้าใหม่ เป็นโปรเจ็คอยู่แล้วหรือเปล่า หรือว่าได้น้องๆ5คนมาแล้วค่อยมารวม
เบน : เบนคิดว่าน่าจะเป็นช่วงประจวบเหมาะพอดี ที่อยู่ดีๆก็มีนักร้องหลายๆคนที่พี่บอยด์ บอกว่าหามานานที่นานๆจะเจอนักร้องสักคนแต่ตอนนี้เข้ามาที เข้ามา 4-5 คนรู้สึกดีใจ และเป็นช่วงครบรอบ10ปี ของbakery พอดีก็เลยอยากจะ present ให้ทุกคนเห็นว่า10 ปีหลังจากนี่ก็จะมีเด็ก 5 คนนี้จะออกผลงานกับทาง bakery ก็เลยเอาออกมาแนะนำตัวให้คนรู้จักกัน
-ก่อนที่จะขึ้นคอนเสิร์ตครั้งนั้น พี่บอยด์บอกก่อนหรือคะเราร้องรวมกัน 5 คนโดยการร้องประสานเสียงและใช้เปียนโนของโต๋หรือเปล่า
เบน : ก็ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วจะให้คนแต่ละคนมาร้องทีละเพลง ซึ่งในคอนเสิร์ต ของพี่บอยด์จะมีศิลปินเยอะมาก แล้วก็กลัวว่าเวลาจะไม่พอเลยเอา 5 คนนี้ที่จะต้องมา ร้อง เอามารวมอยู่ในช่วงเดียวกัน มาร้องประสานเสียงดู ให้ดูน่าสนใจ
โต๋ : พี่บอยด์ อยากให้โต๋มาเล่นเพลงรักคุณเข้าแล้วในคอนเสิร์ต กับเบนแล้วจะมีอีกหลายคน เลยให้ขึ้นคอนเสิร์ตพร้อมกันเลยทั้ง5 คน แล้วก็มาร้องประสานเสียงจนกลายเป็นเมดเลย์ เมดเลย์เกิดขึ้นจากการแจม แต่ละคนจะเอาเนื้อร้องที่ชอบมาร้อง โต๋ก็จะเล่นเปียนโนแล้วก็มาแจมกัน แต่ก็จะมีพี่ไก่,พี่บอยด์,พี่นภ มาดูให้ว่าก่อนนี้เป็นยังไง ต้องประสานเสียงตรงไหน
- คิดไหมคะว่าจะมี Feedback กลับมาดีมากจนได้มีโอกาศที่จะได้ออกอัลบั้มเดี่ยว
B FIVE : ไม่คิด
- รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตพี่บอยด์ ในฐานะนักร้องหน้าใหม่ แล้วได้โชว์ร้องเพลงประสานเสียงด้วย
เบน : คิดว่าเราโชคดีที่ได้ร้องเพลง แฟนเพลงที่ได้ไปดูคอนเสิร์ตในวันนั้นชอบอยู่แล้วตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็รู้สึกทุกคนตอบรับเราได้ เพราะเราร้องเพลงที่แฟนเพลงทุกคนชอบ เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยู่ที่ว่าเราเป็นนักร้องหน้าใหม่หรือยังไง แต่อยู่ที่ว่าแฟนเพลงชอบเพลงของพี่บอยด์จริงๆ
เค้ก : ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร รู้สึกว่าดีใจมากกว่าที่ได้มาร้องเพลง ก็เลยคิดว่าจะทำให้ดีที่สุด
โต๋ : ช่วงแรกที่พี่บอยด์คุยกับพี่นภไว้ แล้วสรุปกันว่าช่วงของเราจะให้เป็นช่วงดึง feel ออกมา คือทั้งคอนเสิร์ต จะเป็น Band และอยากที่จะให้มีช่วงนึงเป็น Acoustics ที่สามารถ Contrast ออกมาว่าช่วงนี้ดึง Feel ออกมาให้เป็นAcoustics เป็นการร้องเพลงพร้อมกับเล่นเปียนโน นั่นคือจุดแรกคืออยากให้ช่วงพักครึ่งเป็นช่วงของ B Five
- พอผลออกมาก็มี Feedback ออกมาถามว่าศิลปินกลุ่มนี่คือใคร แต่ละคนรู้สึกอย่างไรกันบ้างจาก Feedback ที่ได้
โต๋ : รุ้สึกดีใจที่เค้าฟังเพลงรอบเดียวแล้วเค้าชอบ
เบน : เหมือนกับว่างานมันสำเร็จแล้วก็ได้ผลมากกว่าที่เราคาดหวังกันเอาไว้
มาเรียม : รู้สึกดีตั้งแต่ที่เราได้ขึ้นไปร้อง แล้วได้ยินเสียงคนร้องตาม
โต๋ : ตอนแรกเกร็งครับ เพราะตอนแรกโต๋ต้องขึ้นไปคนเดียว ก็จะมีเนื้อเพลงมาก่อน เราก็เกร็งเพราะครั้งแรกไม่รุ้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พอเบนขึ้นมาร้องเก็บเพลงรักนี้ พอคนกรี๊ด แค่นั้นแหละที่รู้สึกว่าเกร็งก็หมดไป
- แนวเพลงแต่ละคนจะมีสไตล์ ยกเว้นคิวเพราะแนวเพลงของฟลัวจะเป็นแนวเพลงหนักๆคิวมีปัญหาบ้างไหมในการเปลี่ยน feel ในการร้องเพลง
คิว : สำหรับตัวผมเองไม่มีปัญหา เพราะตราบใดที่ผมได้ร้องเพลงอยู่ผมก็มีความสุขอยู่แล้ว
- มันยากไหมคะที่ต้องปรับสไตล์การร้อง
คิว : ไม่ยากครับเพราะตัวผมเองก็ชอบร้องเพลงที่เบาๆ อยู่แล้ว แต่บางครั้งก็ต้องมีอีกอารมณ์ที่เป็นความเกรี้ยวกราดอยู่ในใจบ้าง
- หลังจากผลพวงของคอนเสิร์ตในครั้งนั้นคนดูมี Feedback ที่ดีแต่ละคิดกันไว้หรือเปล่าว่าจะค้องมีอัลบั้มส่วนตัว
โต๋ : ก่อนหน้าที่จะมารวมตัวกันก็มีการคุยกันไว้ก่อนแล้วครับ
เบน : คือคุยกันไว้แล้วก่อนที่อัลบั้มนี่จะเสร็จ ว่าพออัลบั้มนี่ออกมาเราก็แยกย้ายกันไป
- เป็นเพราะแต่ละคนมีเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้วหรือเปล่า
เบน : แต่ก็ไม่แน่ พวกเราอาจจะกลับมารวมตัวกันอีก เพราะเราก็อยู่ในค่ายเดียวกัน ถ้าเกิดมีเสียงเรียกร้องกลับมาดี เราก็อาจจะกลับมารวมตัวกันอีก
มาเรียม : ยังไงพวกเราก็ยังเป็น B Five อยู่เพียงแต่ว่า B Five เหมือนโปรเจ็ค
- ส่วนของฟลัวนี่ออกอัลบั้มในช่วงไหน
คิว : ประมาณปลายเดือนธันวา ก่อนหน้าคอนเสิร์ตพี่บอยด์ ประมาณ2ปี
เบน : คอนเสิร์ตมีเดือนกรกฎา แต่ฟลัวออกมาก่อนเมื่อตอนต้นปี
- เป้าหมายของ B Five เป็นการโชว์ศิลปินหน้าใหม่ของ bakery หรือเปล่า
เบน : ใช่ครับเป้าหมายคือตรงนั้น
- ร้สึกอย่างไรบ้างที่มีคนมาจับตามองในฐานะศิลปินหน้าใหม่ เพราะผลงานของ 10ปีBakery ที่ผ่านมาก็เป็นที่ค่อนข้างเป็นที่พอใจของแฟนเพลงอยู่แล้วในฐานะศิลปินหน้าใหม่ ที่ต้องมาสานต่อกับพวกพี่ๆศิลปินในค่ายมีความรู้สึกกดดัน ในการทำงานบ้างไหม
เบน : ผมว่าเป็นความภูมิใจมากกว่า เพราะผมเป็นแฟนเพลงของ Bakery มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แล้ววันนึงได้มีโอกาสมาร่วมงานกับทาง Bakery คิดว่าพี่บอยด์เชื่อใจ เราก็เชื่อใจทีมงานทุกคน
มาเรียม : ถ้าพี่บอยด์เลือกเราแล้ว แสดงว่าเราต้องทำได้ แต่บางครั้งมาเรียมก็มีท้อบ้าง ตอนนั้นมาเรียมโทรหาพี่บอยด์จากเมืองนอก พี่บอยด์บอกว่ามาเรียมทำได้ คำนั้นคำเดียวเท่านั้น กำลังใจมันมาจากไหนไม่รู้
- ในอัลบั้ม B Five ตอนถึงตอนที่อัลบั้มจะวางแผน แต่ละคนมีส่วนร่วมในการทำงานยังไงบ้าง
เบน : พวกเรามีส่วนร่วมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกเพลงที่ตัวเองชอบมาแล้วก็มาคุยกัน ว่าเราจะทำอะไรกันบ้าง เราอยากร้องแบบไหน แต่จะมีพี่ไก่ สุธีร กับพี่บอยด์ มีหน้าที่คอยติ คอยเก็บเอาความคิดของแต่ละคนออกมาทำให้เป็นรูปเป็นร่าง โดยให้แต่ละคนเลือกเพลงที่ตัวเองอยากจะร้อง
โต๋ : ก็จะมีการเสนอ ใครชอบอะไรก็พูดไป ตอนแรกมี 20 เพลงคิดว่าจะทำเป็น แผ่นคู่แต่เวลาไม่พอ
มาเรียม : ถ้ามีเวลาเยอะคิดว่าจะทำซัก 20 เพลง
- ในอัลบั้ม B Five นี้มีกี่เพลง
เค้ก : 12 เพลง
โต๋ : บวกกับเซอร์ไพร์สเล็กๆ
มาเรียม : ไม่บอกต้องหาเจอเองนะคะ
- 12 เพลงนี้จะเป็นเพลงฮิตหรือว่ายังไง
เบน : เลือกเพลงที่ตัวเองชอบ
มาเรียม : เป็นเพลงที่ตัวเองชอบ
โต๋ : ไม่ได้เลือกว่าเพลงนี้ของ Pause นะเพลงนี้ของคริสติน ไม่ได้เลือกอย่างนั้น เลือกจากที่ชอบเพลงอะไรมากกว่า
มาเรียม : ตอนแรกที่ลิส รายชื่อเพลงออกมาก็จะมานั่งคุยกันแล้วก็มาพูดชื่อวง แบบวง Pause แล้วก็มาดูว่าเราชอบเพลงนี้ มากกว่าที่จะมาเลือก Pause เพลงนึง Modendog เพลงนึง
- นอกจากเลือกลิสเพลง แล้วทำอะไรกันอีก
โต๋ : มาคิดว่าจะเล่นเปียนโน ยังไง
เบน : ก็มีโต๋ คอยคิดว่าจะOrig เพลงนี้ยังไง
โต๋ : ตอนแรกเหมือนกับว่าเพลงฮิตก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ปัจจัยแรกคือความลงตัว ของการร้อง พี่บอยด์จะดูจากความลงตัวว่าคนนี้ร้องคนนี้เข้าเราก็จะมาแจมกัน เหมือนกับคอนเสิร์ต ใครอยากจะร้องยังไงจะเล่นยังไงเราก็จะมาคุยกันแล้วก็จะกลับไปคิด อยากจะร้องในสไตล์ ของตัวเอง โต๋ก็จะกลับไปเรียบเรียงดนตรี เครื่องดนตรีจะใช้เปียนโนอย่างเดียว แต่คุยกับพี่บอยด์ไว้แล้ว ตกลงกันว่าจะใช้เปียนโนอย่างเดียว เพราะเหมือนกับว่ามันแสดถึงความเป็น B Five เราก็เลยคงเอกลักษณ์การร้องประสานเสียงไว้
เค้ก : ตอนแรกคิดว่าจะทำใน CD กับร้องสดออกมาให้เหมือนกัน ไม่ใช่ทำ CD ออกมาแบบนี้ ร้องสดอีกแบบคิดว่าอยากทำทั้ง2อย่างให้มีคุณภาพเท่ากัน เลยไม่อยากใช้เสียงสังเคราะห์เข้ามาเพราะไม่สามารถทำสดๆตรงนั้นไม่ได้แต่ก็จะมีลิตเติ้ลบ๊อค ในเพลงอยากจะขอของมาเรียม
- การร้องเสียงประสานยากไหม 4 คนนี้มีพื้นฐานของการร้องเสียงประสานมาบ้างหรือเปล่า
มาเรียม : มาเรียมเคยร้องเพลงประสานเสียงตอนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์จอห์นตั้งแต่ ป.4- ม.3 แล้วก็ร้องมาตลอด
เค้ก : เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของอเมริกา ก็เข้าในวงประสานเสียงของโรงเรียนอยู่ประมาณ10 เดือน
เบน : ตอนเด็กๆ ถ้าฟังเพลงๆนึงก็จะฟังเป็นสิบๆรอบ จนร้องลายที่นักร้องเค้าร้องได้เลยเราร้องจนเบื่อ เราเลยไปร้องลายประสานเสียงดู จนมีสกิลในระดับนึง แล้วพอได้เข้าหมาวิทยาลัย ก็ได้เรียนเอกร้อง แล้วก็ได้มีคลาสที่ต้องร้องเพลงประสานเสียงกับเพื่อน ก็ถือเป็นการพัฒนาไปอีกขั้น
คิว : จริงๆ แล้วของผมก็คล้ายกับเบน คือฟังไปเรื่อยๆแล้วก็ร้อง จากนั้นก็เริ่มที่จะติดอย่ในหัว
- แต่เบนก็จะมีอาคาเดมี่ ทางด้านการร้องเพลง มีอะไรจะแนะนำเพื่อนๆบางหรือเปล่า
มาเรียม : ก็ไม่ค่อยมี
เบน : เพราะแต่ละคนจะมีความสามารถในการร้องประสานเสียง
โต๋ : เหมือนกับ B Five คนจะนึกว่าต้องร้องเป็นเสียงประสาน อะแคปเปล่า เปียนโน ตัวโต๋เองว่า B Five คือเสียงร้อง 4 เสียงมากกว่า ไม่ใช่เสียงประสาน คือเสียงร้องนำ4 เสียง ที่ไม่เหมือนกัน แต่จะมีเพลงนึงที่เป็น เมโลดี้ แต่อีก 3 คนจะร้องประสานเสียงให้ จะไม่ใช่กลุ่ม อะเเคปเปล่า
เบน : ไม่ใช่ว่าคนนึงจะเป็นเสียงเทรนเนอร์ไปตลอด หรือเสียงเบสก็เสียงเบสไปตลอด แต่จะสลับกันดูที่ความเหมาะสมมากกว่า ทุกคนจะสามารถร้องนำได้หมด และร้องเสียงประสานได้ทุกคน
มาเรียม : พี่ไก่บอกว่าเป็นการประสานเสียงที่ทุกคนเด่นหมด ประสานโดยที่มีตัวเองออกมา เหมือนอย่างที่มาเรียมร้อง บางครั้งมาเรียมทำตัวเป็นครอรัสมากเกินไป พี่ไก่ก็จะคอยบอกว่าไม่ได้นะต้องให้ฟังแล้วรู้ว่าเป็นมาเรียม
เบน : จะแตกต่างจากอะแคปเปล่าทั่วไป คืออะแคปเปล่าทั่วไปจะทำยังไงให้ฟังแล้วเป็นหนึ่งเดียว แต่ว่าของเราจะแปลกตรงที่ว่าจะทำยังไงแล้วให้รู้ว่ามีเสียงของแต่ละคน
โต๋ : ว่าคนไหนร้องเสียงยังไง จะฟังแล้วรู้เลยว่าใครร้องเสียงอะไร
เบน : จะแบ่งเลยนะครับว่าคนนี้เสียงอยู่ซ้ายหรืออยู่ขวา
โต๋ : ถ้าฟังในหูฟังจะรู้เลยครับว่าเสียงคนนี้อยู่ด้านซ้าย เสียงคนนี้อยู่ด้านขวาและในอัลบั้มนี้ จะมีเปียนโน สตริง มีออแกนเพื่อสร้างสีสัน - มีเครื่องดนตรีอะไรบ้างนอกจากเปียนโน
โต๋ : มีออแกน มีสตริง มีเสียงลิตเติ้ลบ๊อคทุกสิ่งทุกอย่างมาจากธรรมชาติ ไม่ใช้เสียงสังเคราะห์มา แต่จะเป็นอะคูสติค หมดไม่มี อิเล็คทรอนิคเข้ามา
- ในอัลบั้มโต๋มีเพลงที่โต๋ร้องบ้างหรือเปล่า นอกเหนือจากการเล่นเปียนโน
โต๋ : โต๋จะร้องเพลง คนไม่พิเศษ
เค้ก : แต่ละคนจะแบ่งเพลงกันร้อง คือจะมีเพลงที่ต้องร้องเป็นกลุ่ม ทั้งหมด3 เพลง จะมี 1 บางสิ่ง 2 ที่ว่าง 3 ตัดสินใจ นอกจากนั้นก็จะแบ่งกันไปร้องคนละ 2 เพลง ส่วนโต๋จะมีร้องนำ 1 เพลง
- ดูจากชื่อเพลงในอัลบั้มนี้ดูจะเป็นเพลงช้าทั้งหมด
มาเรียม : แต่ไม่น่าเบื่อนะคะ
โต๋ : ชื่อเพลงจะฟังดูแล้วเป็นเพลงช้า แต่เรามาทำเป็นบางเพลงไม่ให้เป็นเพลงช้า
เบน : เพลงช้ามีหลายแบบ ไม่ใช่ว่าเป็นแค่บรัสลาสกับแจ็ส เพลงช้าก็มี
เค้ก : ก็พยายามทำเพลงที่ฟังแล้วไม่จำเจ
- มีวิธีการเลือกเพลงให้เข้ากับบุคลิกหรือน้ำเสียง
เบน : เบนจะเลือกเพลงที่เบนชอบมาร้องให้ทุกคนฟัง แล้วก็จะมีพี่บอยด์กับไก่ คอยบอกว่าเพลงนี้เหมาะกับเราหรือเปล่า และก็ดูให้เหมาะกับบุคลิกและน้ำเสียงของเบนด้วย และต้องดูความเหมาะสมว่าถ้ามารวมกับเพลงคนอื่นๆในอัลบั้มแล้วจะเข้ากันได้หรือเปล่า
- แต่ละคนมีศิลปินที่มี Interrelation ต่องานตัวเองบ้างหรือเปล่า
มาเรียม : ที่ชอบมากๆคือ สตริง ซึ่งเนื้อเพลงดีมาก แล้วก็จะมีโซล มีแจ็ส แบบเก่าๆหน่อย
โต๋ : โต๋จะชอบ เดวิส บอสเตอร์ แบบ Arrange เพลงเขียนลายสตริง เค้าทำให้กับชิคคาโก้กับ เซลินดิออน
เค้ก : เค้กจะฟังหลายแนวมีร๊อค อาร์แอนด์บี แต่ที่ชอบที่สุดจะเป็นสตีดี้ วันเดอร์ จ๊อสไมเคิล ส่วนใหญ่จะฟังเหมือนเบน เพราะโตมาด้วยกัน ศิลปินเก่าๆก็จะมี ดิคาเพ็นเตอร์ ส่วนการแต่งเพลงที่ชอบ อาลานิช มอริเสด , ลอลีนฮิลส์
คิว : ผมฟังได้เกือบทุกแนว
เบน : ชอบจ๊อส ไมเคิล , สตีวี่วันเดอร์
- แต่ละคนร้องเพลงอะไรกันบ้าง มีจังหวะเป็นอย่างไร
โต๋ :เพลงคนไม่พิเศษ เรามาทำให้มีเสียงประสาน มีลายเปียนโน ออกแนวกลางๆไม่ช้าไม่เร็ว
มาเรียม : ของมาเรียมจะเป็นเพลงดาว ออกจะเศร้าๆ กับเพลงอยากจะขอ เป็นเพลงใสๆ
เบน : เพลงคืนนี้ขอหอมจะออกแนวแจ๊สกับเพลงรักคุณเข้าแล้ว แต่เพลงรักคุณเข้าแล้วจะเป็นเพลงโรแมนติคและจะพิเศษกว่าแต่ก่อนเพราะพี่บอยด์ได้แต่งเนื้อเข้าไปจนครบทั้งเพลง
คิว : เพลงปล่อยไปตามหัวใจ กับเพลงขอให้ผม แต่เพลงปล่อยไปตามหัวใจ เวอร์ชั่นเดิมจะเป็นร๊อคแต่ตอนนี้เวอร์ชั่น นี้จะใช้เปียนโนตัวเดียว และจังหวะช้าลง
- ประสบการณ์ สนุกในห้องอัด
โต๋ : ถ้าฟังในอัลบั้มเราจะ อัดบรรยากาศในห้องอัดที่สนุกๆไว้ เหมือนกำลังปาร์ตี้กันอยู่
- ก่อนที่แต่ละคนจะได้เข้ามาที่ Bakery ทุกคนชื่นชอบ Bakery อยู่แล้วหรือเปล่า
มาเรียม : ชอบมาก ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงของBakery จะเป็นค่ายที่ฉีกออกมาจากค่ายอื่น และในตอนนั้นจะไม่มีค่ายไหนทำเพลงอย่างนี้
โต๋ : โต๋ไม่ค่อยได้ฟังเพลงเยอะ โต๋รู้จักแต่พี่บอยด์ เพลงแรกที่ได้ฟังคือเพลงห่างไกลเหลือเกิน
เค้ก : เพลงแรกที่ได้ฟังคือเพลงรักคุณเข้าแล้ว รู้สึกว่า Bakery มีสไตร์เป็นของตัวเอง และ Bakery รู้จักหาอะไรแปลกใหม่ในตอนนั้น
เบน : เพื่อนเอาซิงเกิ้ลรักคุณเข้าแล้วมาให้ฟัง เราเป็นคนชอบเพลงที่เน้นการร้อง ตอนนั้นพี่บอยด์จะเน้น ให้พี่ป๊อดออกมาเด่นมาก เราร้องแต่เพลงฝรั่งพอมาเจอเพลงพี่บอยด์รู้สึกว่าเพลงนี้เจ๋งดีเนอะ และหลังจากนั้นก็มี Moderndog ออกมาก็ฮิตกันทั้งเมืองเราเลยกลายเป็นสาวกของ Bakery ตั้งแต่นั้นมา
คิว : ตอนแรกที่ฟังเป็นแผ่นของ Moderndog กับ Joey boy ถือเป็นการเปิดโลกกระทัศนของผมมากขึ้น
- ชื่อชุด EVENT มาจากอะไร
มาเรียม : เป็นการรวมเพลงเก่าของ Bakery และปีนี้เป็นปี10ของ Bakery เพลงที่รวบรวมมา ก็เหมือนเป็น EVENT ต่างๆแล้วพวกเราก็เกิดจากการ EVENT เลยคิดว่าEVENT คือชื่อที่เหมาะสม
- B Five อยากร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คนไหนมากที่สุด
โต๋ : ของโต๋กับเบน คือคอสเตอร์ ชอบที่เค้าทำเพลงให้เซลินดิออนและเค้าเล่นเปียนโน
มาเรียม : อยากได้สตริง เป็นโปรดิวเซอร์นอกจากพี่ไก่แล้วพี่ไก่เก่งมาก
เค้ก : ไม่เฉพาะเจาะจงคิดว่าแต่ละคนก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆเพื่อที่จะได้เรียนรู้จากหลายๆคนพี่ไก่กับพี่บอยด์ก็สอนอะไรมากมายทำให้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น
เบน : อยากร่วมงานกับ จ๊อด ไมเคิล เพราะเค้าเป็นคนที่ทำเพลงเองแต่งเพลงเอง เล่นดนตรีเองเกือบทุกชิ้นถ้าเบนได้ร่วมงานกับเค้าคงได้อะไรมากมาย
คิว : ส่วนตัวผมชอบ ปฐมพรปฐมพร เค้าคือ IDOL ของผม แตุถ้าเลือกได้ผมอยากเป็นโปรดิวเซอร์เอง
โต๋ : แต่ต้องขอบคุณพี่ไก่ด้วยในอัลบั้มนี้ ถ้าไม่ได้พี่ไก่อัลบั้มนี้คงไม่สำเร็จ
- แต่ละคนชอบแนวดนตรีแนวไหนบ้าง
มาเรียม : มาเรียมชอบแจ๊ส ชอบคิวชั่น แต่ที่ชอบที่สุดคือโซล
โต๋ : โต๋เรียนเปียนโนคลาสสิค ส่วนมากจะฟังคลาสสิค แจ๊ส ป๊อป ร๊อค ฟังหมดทุกแนวครับ
คิว : มอสโนว่า คิวเอาท์จะดูว่าอารมณ์นั้น
เบน : ป๊อป อาร์แอนด์บี ลูกทุ่งเพื่อชีวิต ฟังได้หมดครับ แต่เบนจะชอบเพลงที่เน้นการร้อง
- แล้วในอัลบั้มชุดนี้เป็นแนวไหน
เบน : เป็นการร้องที่มีเสียงเปียนโน
เค้ก : จะมีเสียงร้องนำ 4 คนแล้วก็มีเสียงประสาน
- หลังจากอัลบั้ม B Five ออกไปแล้วจะมีอัลบั้มส่วนตัวกันบ้างหรือเปล่า
เบน : หลังจากอัลบั้มนี่เบนจะมี อัลบั้มเดี่ยว เป็นอัลบั้มที่มีเพลงคลาสสิค, ร๊อค, อาร์แอนด์บี , แจ๊ส อยู่ในอัลบั้มเดียวตอนนี้ก็อัดทุกอย่างไว้ครบแล้ว เหลือเพียงอัดลายกีตาร์แล้วเบนเข้าไปร้อง อัลบั้มนี่คงออกไม่เกินกลางปี--จบ--
-นท-

แท็ก ศิลปิน   โทน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ