กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,652 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,637 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,050 บาท กับ 24,150 บาท และกลับมาปิดที่ 23,850 บาท กับ 23,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,096 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,788 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 3 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5.44% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6.48% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.91% GFJ12 ปิดที่ 24,120 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,330บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,110 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,320 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 7.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1642.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 88.2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 31.345 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,282.69 ตัน (ขายออก 7.55 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 105.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 78.48 จุด ปิดที่ระดับ 13,046.14 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.4 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- มาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานผลสำรวจว่า ภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนในเดือนมีนาคมหดตัวมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่อ่อนแอลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการประเมินเบื้องต้นของมาร์กิตนั้น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมในภาคการผลิตและภาคบริการ ร่วงลงสู่ระดับ 48.7 ในเดือนมีนาคม จาก 49.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตัวเลขต่ำกว่าระดับ 50 ถือว่าอยู่ในภาวะหดตัว สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนที่หดตัวลงนั้น เป็นผลมาจากผลผลิตภาคโรงงานของประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรปอย่างเยอรมนีและฝรั่งเศสที่หดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมาย โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี ร่วงลงแตะ 48.1 จากระดับ 50.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในปีนี้ ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของฝรั่งเศสร่วงลงสู่ระดับ 47.6 ในเดือนมีนาคม จาก 50.0 ในเดือนกุมภาพันธ์
- สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนหดตัวลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะฉุดรั้งอุปสงค์พลังงานให้อ่อนแอลงด้วย โดยเมื่อวานนี้เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนร่วงลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับระดับ 49.6 ของเดือนก.พ. ซึ่งป็นการหดตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน และสัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากนายเอริค เบส์ซง รมว.อุตสาหกรรมของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศคู่ค้ากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉิน
- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและยูโรโซนหดตัวลง ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.18% แตะที่ 1.3187 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3211 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.35% แตะที่ 1.5814 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5870 ดอลลาร์สหรัฐ
- สำนักงานสถิติกลางรายงานว่า จีดีพีไอร์แลนด์หดตัวลง 0.2% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่หดตัวลง 1.1% ในไตรมาสก่อนหน้านั้น รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญหลายรายคาดการณ์ว่า อัตราขยายตัวของไอร์แลนด์จะอยู่ที่ 0.5% ในปี 2555 แต่ก็เตือนว่า ไอร์แลนด์มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศนอกกลุ่มยูโรโซนอย่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของไอร์แลนด์
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 348,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 ตอกย้ำให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จำนวนดังกล่าวลดลงจากระดับ 353,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 351K คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 353K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงที่ระดับ 348K
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้
- New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 321K คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 326K
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงเย็นและเมื่อคืนวาน โดยที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1640 เหรียญลงมา และยังทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 1628 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะของเศรษฐกิจยูโรโซนที่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยตัวเลขดัชนีชี้วัดเกี่ยวกับผลผลิต (Purchasing Managers Index — PMI) จากเดิมที่ระดับ 50.2% ล่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 48.1% ทำให้ค่าเงินยูโรหลุด 1.3200 ดอลลาร์/ยูโร อีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ตัวเลขภาคเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาดีขึ้น คือตัวเลขคนว่างงานน้อยลง 5,000 ตำแหน่งโดยประมาณ กดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง โดยราคาทองมาดีดตัวขึ้นปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1,642 เหรียญและเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับประมาณ 1,647 เหรียญ ณ ขณะนี้ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,647 เหรียญเช่นกัน โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลงโดยที่ยังทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน จึงขอให้นักลงทุนระมัดระวังหรือปรับพอร์ตให้เหมาะกับภาวะตลาด นักลงทุนที่ถือ Long ควรลดสถานะลง หรือบริหารให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่แต่ละท่านรับได้ ควรที่จะขายทำกำไรเป็นรอบๆ รายวันหรืออาจจะเก็งกำไรในทิศทางขาลง ขึ้นกับสภาพการวิเคราะห์ตามแนวโน้มของแต่ละท่าน
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,220 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,500 บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวะการณ์แกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยจะมีแนวต้านที่ระดับ 1650 เหรียญ แนวรับที่ระดับ 1630 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ยังเป็นลักษณะของการลด Port เหลือ 0% ตามที่ได้กล่าวเมื่อวาน หรือทำสถานะ Short บ้างประมาณ 5 — 10 % ของ Port เพื่อเป็นการทำกำไรในระยะสั้น
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการรอจังหวะช้อนซื้อ ยังไม่เข้าซื้อ ณ ขณะนี้ คงPortที่ 5 — 10 %
สรุปได้ว่า ภาพใหญ่ของราคาทองคำแนวโน้มในระยะ Day และ Weekly Chart เป็นแนวโน้มขาลง ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีจุดต่ำสุดอยู่บริเวณใด นักลงทุนควรบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม นักลงทุนที่ถนัดเข้าเร็วออกเร็วในการเก็งกำไรอาจพิจารณาทำ Short Position ในระยะสั้นได้