กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ซิลเวอร์ไทร์ อินเตอร์
ลุยตลาดยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดินหน้าเปิดตัวยางรุ่นใหม่H432 Ventus S1 noble ท้าพิสูจน์สมรรถนะและคุณภาพระดับ เวิล์ดคลาส ชูนวัตกรรมเพื่อที่สุดแห่งการขับขี่ที่นุ่มนวล เชื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดได้อย่างลงตัว มั่นใจตลาดยางรถยนต์ทดแทนโดยรวมปีนี้คึกคักทะลุ 8 ล้านเส้น
นายคงศักดิ์ เกษมสุภาพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซิลเวอร์ไทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายยางรถยนต์ Hankook ยางรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายอันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลีที่ผ่านการพัฒนา ทดสอบ และผลิตด้วยเทคโนโลยีคุณภาพสูง
ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า Hankook รุ่น “H432 Ventus S1 noble & XQ OptimoNova” เป็นยางเงียบ นุ่ม สมรรถนะสูงพิเศษจาก Hankook ที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 75.7% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ในปี 2011 ที่ผ่านมาในประเทศเกาหลี
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย คำนึงถึงสมรรถนะ และประสิทธิภาพในการขับขี่เป็นสำคัญ จนเป็นที่ยอมรับว่ายางรถยนต์ Hankook คือยางรถยนต์ที่ผู้ขับขี่ให้ความไว้วางใจที่สุดในประเทศเกาหลีโดย ยาง Hankook รุ่น “H432 Ventus S1 noble & XQ Optimo Nova” นี้เป็นยางที่พัฒนาขึ้นภายใต้เงXอนไขที่ต้องการให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงการขับขี่ที่มีสมรรถนะที่เหนือกว่ารวมไปถึงความรู้สึกที่ นุ่มนวลและ นิ่งกว่า พร้อมทั้งให้สัมผัสความเงียบระดับเวิล์ดคลาสซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในยางรถยนต์ทั่วไปที่มักจะต้องเลือกระหว่างความนุ่มนวลหรือประสิทธิภาพในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีการผลิต SCCT : Stiffness Control ContourTechnology ที่ได้รับสิทธิบัตรพิเศษเฉพาะจากประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ทำให้ H432 VentusS1 noble & XQ Optimo Nova มีสมรรถนะสูงเป็นพิเศษ ด้วยความนุ่มนวลสูงสุด ความเงียบสูงสุด และประสิทธิภาพในการขับขี่สูงสุด ที่ผ่านการทดสอบถึง 3 ระดับ ในระดับคอมพิวเตอร์ ระดับเครื่องจักร และการทดสอบในสนามจริง ทำให้ Hankook มั่นใจอย่างยิ่งว่า ที่ H432 Ventus S1 noble จะสามารถตอบโจทย์ของยางระดับพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดี
ด้วย 5 คุณสมบัติเด่นของยาง H432 Ventus S1 noble คือ
1. ลายดอกยางที่ละเอียดแบบไม่สมมาตร มีร่องยางหลักถึง 4 ร่อง ช่วยในการเกาะยึดพื้นผิวถนน
2. โครงยางย่อยแบบละเอียดที่ช่วยให้การขับขี่เงียบสนิท
3. หน้ายางสัมผัสด้านในที่กว้างกว่า เพื่อควบคุมและเสริมสมรรถนะของยางให้ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น
4. ร่องยางแนวขวางแบบพิเศษเพื่อการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นได้ดีขึ้น
5. องศาร่องยางแบบกว้างพิเศษเพื่อช่วยเพิ่มความสมดุลขณะเข้าโค้ง
นายคงศักดิ์กล่าวต่อว่า “Hankook เรายังถือว่าใหม่ถ้าเทียบกับแบรนด์หลักๆในตลาดยางรถยนต์ของไทย เพราะแบรนด์อื่นอยู่ในตลาดมากว่า 40 ปี แม้เราเพิ่งมาทำตลาดของยางรถยนต์ในแบรนด์ Hankook ได้แค่ประมาณ 3 ปีเท่านั้น แต่เราก็เล็งเห็นถึงศักยภาพความเติบโตของแบรนด์ Hankook ได้เป็นอย่างดีจากยอดขายและผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ได้ใช้ยางของ Hankook และประทับใจถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของแบรนด์, ผลิตภัณฑ์รวมถึงความคุ้มค่าที่ได้รับมากกว่าแบรนด์ทั่วไปในท้องตลาด”
“โดยในปีนี้เราจะรุกทำกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวยางรถยนต์รุ่นใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง อย่างเช่นH432 Ventus S1 noble& XQ Optimo Nova ของเราที่ให้ความนิ่ง เงียบนุ่มนวล ระดับ
พรีเมี่ยม จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Hankook ระดับเวิล์ดคลาสที่กำลังเติบโตในทุกๆประเทศทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางเรายังมีสื่อต่างๆ เช่น บิลบอร์ด นิตยสาร วิทยุ รวมถึงกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต เช่นการแข่งขัน ดริฟท์ ที่จะสามารถบ่งบอกถึงภาพลักษณ์และ
คุณภาพของแบรนด์เราได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สื่อที่ทางบริษัทแม่ในต่างประเทศก็ได้ทำการตลาดทั่วโลก จะมีผลกับตลาดประเทศไทยอีกด้วย เช่นการสนับสนุนทีมฟุตบอลในลีกชั้นนำเช่น พรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ลาลีกาของสเปน บุนเดสลีกาของเยอรมัน หรือการสนับสนุน
การแข่งขันรถชั้นนำของโลกต่างๆ เช่น การแข่งขัน DTM ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นสื่อที่กลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยบริโภคกันอยู่แล้ว ทำให้กลุ่มเป้าหมายเราได้เห็นและรู้จักแบรนด์ Hankook มากขึ้นเรื่อยๆ”
“สำหรับช่องทางการจำหน่าย Hankook เน้นสร้างพันธมิตรที่เข้าใจภาพลักษณ์ของแบรนด์และพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในลักษณะพาร์ทเนอร์ ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน Hankook จำหน่ายในร้านยางรถยนต์ชั้นนำทั่วประเทศ
รวมไปถึง โมเดิร์นเทรด เช่น บีควิก ออโต้แบค ทุกสาขา”
ปัจจุบัน Hankook ได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์ในอินโดนิเชียด้วยเม็ดเงินกว่า 1.1 พันล้านเหรียญ ที่จะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงปลายปี 2012 นี้ ซึ่งจะทำให้โรงงานของ Hankook เป็นโรงงานที่ทันสมัยด้วยกระบวนการผลิตและเครื่องจักรที่ดีที่สุดสามารถผลิตยางรถยนต์ป้อนตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กในเมืองไทยได้มากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดยางรถยนต์ที่มีสัดส่วนสูงถึง 50% ของตลาดรถยนต์ในเมืองไทย และรวมไปถึงความเป็นไปได้สูงที่จะนำยาง Hankook มาเป็นยางติดรถยนต์มาตรฐานจากโรงงานรถยนต์ที่ถูก
ผลิตขึ้นในประเทศไทยหลังจากประสบความเสร็จมาแล้วในการติดเป็นอุปกรณ์ยางรถยนต์มาตรฐานของรถยนต์ชื่อดังในทวีปยุโรป ซึ่งเมื่อมารวมกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของHankook อยู่แล้ว ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ในทุกๆไลฟ์สไตล์ที่
แตกต่างกัน
โดย Hankook ตั้งเป้าเติบโตในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอีก 30% จากปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดยางรถยนต์ถือว่าอยู่ในภาวะที่มีอัตราการเติบโตเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะเจอวิกฤติน้ำท่วม แต่กลับส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ รวมถึง
ตลาดยางทดแทนด้วย
Hankook ถือว่าเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดโดยครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้ จีน และยังได้การยอมรับเพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ บีเอ็มดับเบิ้ลยู มินิคูเปอร์ ออดี้ โฟล์คสวาเก้น เลือกใช้ Hankook เป็นยางที่ติดรถจากโรงงาน อีกด้วย