กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--ไทยเบฟเวอเรจ
หลังจากแถลงข่าวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โครงการประกวดสารคดีสั้น “เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” ในหัวข้อ “พระราชกรณียกิจด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ” ซึ่งจัดโดย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ไทยทีวีโกลเบิลเน็ตเวิร์ค และ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา และเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งร่วมถ่ายทอดเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้คนไทยทั่วโลกได้รับรู้ เยาวชนที่สมัครเข้าประกวดจะต้องส่งสารคดีสั้น ความยาวไม่เกิน 5 นาที เข้าประกวด ซึ่งมีนิสิต นักศึกษาให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึง 166 ทีมจาก 13 สถาบัน
หลังจากปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 15 มีนาคม ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และ ไทยทีวีโกลเบิลเน็ตเวิร์ค ก็ได้มีการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้น้องๆนักศึกษาที่กำลังจะส่งผลงานเข้าประกวด ทราบถึงกติกาอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งจัดช่วงเวลาพิเศษโดยการให้แต่ละทีม ได้พูดคุยกับคณะกรรมการแบบตัวต่อตัว สามารถปรึกษา ซักถามข้อสงสัยได้อย่างละเอียดอีกด้วย สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีนักศึกษาที่สมัครประกวดมาเข้ารับการอบรมจากทั่วประเทศ อย่าง น.ส.พรธิดา ดวงแก้ว คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ (วิทยาเขตสงขลา) ได้เล่าถึงโครงการนี้ว่า “ พวกเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการนี้ เพราะเป็นโครงการที่ดีเปิดโอกาสให้นิสิตได้เข้าร่วมโครงการ ได้แสดงฝีมือ และที่สำคัญที่สุดคือได้ถ่ายทอดเรื่องราวพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพ่อของแผ่นดิน ด้านอัจฉริยภาพการจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ ให้มีความเป็นอยู่ที่อุดมสมบูรณ์ใต้ร่วมพระบารมีค่ะ” และน้องๆตัวแทนจาก คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ก็ได้พูดถึงโครงการนี้ว่า “โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ เปิดโอกาสให้พวกเราได้ถ่ายทอดความซาบซึ้งที่มีต่อในหลวง ให้คนไทยได้รับรู้ถึงความรักความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อข้าพระบาทชาวไทย”
สำหรับโครงการประกวดสารคดีสั้น “เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” หัวข้อ “พระราชกรณียกิจด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ” มีกำหนดให้ความยาวไม่เกิน 5 นาที ชิงทุนการศึกษา 100,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร สำหรับรางวัลชนะเลิศ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ได้รับทุนการศึกษา 50,000 บาท และ 30,000 บาท พร้อมโล่และเกียรติบัตร และรางวัลชมเชย 7 รางวัลๆละ 10,000 บาท ซึ่งได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ นางสุชาดี มณีวงศ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตรายการ “กระจกหกด้าน” รับหน้าที่บรรยาย และคัดสรรข้อมูลที่นำมาผลิต ซึ่ง “กระจกหกด้าน” เป็นรายการที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 30ปี และ นายชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์ทำรายได้ของได้เรื่อง Suck seed เป็นผู้ตัดสินในรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย