กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“ธนาพัฒน์ฯ” เห็นพ้อง คลังปรับเกณฑ์การปล่อยกู้บ้านหลังแรกผ่านแบงกรัฐธอส.เชื่อเพิ่มฐานผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างกระตุ้นตลาดคึกคัก แต่ยอมรับว่าธุรกิจยังเสี่ยงสูงเพิ่มความระมัดระวังเหตุราคาค่าก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้น ตีปีกโครงการ SYM. วิภา-ลาดพร้าว รับอานิสงค์
นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรมว.คลังและรองนายกรัฐมนตรี มีแผนที่จะปรับปรุงกฎเกณฑ์ในการปล่อยสินเชื่อภายใต้นโยบายบ้านหลังแรกหลังจากที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้อนุมัติสินเชื่อไปในช่วงก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ประกาศใช้นโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือนตุลาคม 2554 และจะหมดอายุลงในสิ้นปี 2555 แต่เท่าที่ทราบยอดปล่อยสินเชื่อของธอส.ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นเชื่อว่าแผนการปรับแก้ไขกฎเกณฑ์นี้น่าจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้ประกอบการโดยเฉพาะบริษัทที่มีส่วนแบ่งในตลาดระดับกลาง-ล่างค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ ส่วนตัวเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มราคาที่อยู่อาศัยบ้านหลังแรกภายใต้เกณฑ์อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปีจากเกณฑ์เดิมที่ราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ล้านบาทเป็น 2 ล้านบาทและยังได้สิทธิสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการขยายฐานตลาด และช่วยกระตุ้นในภาวการณ์ซื้อ-ขายกลับมาคึกคัก โดยส่วนใหญ่เป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ประกอบกับบ้านระดับราคาต่ำล้านบาทนั้นในปัจจุบันทำได้ค่อนข้างยาก ยกเว้นพื้นที่ในต่างจังหวัด และที่สำคัญภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดีภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลังจากนี้ไปจะได้รับแรงกดดันจากภาวะราคาค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม
“มองว่าแรงกดดันต่างๆที่จะเกิดขึ้นทุกคนต้องเผชิญหมด รวมถึงผู้บริโภคที่จะต้องแบกรับกับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น บวกกับราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นนั้นจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง ซึ่งมีผลต่อค่าครองชีพผู้บริโภคโดยตรงในส่วนนี้ก็อาจส่งผลดีต่อที่อยู่อาศัยในเมืองประเภทคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดหรือใกล้รถไฟฟ้า
พร้อมกันนี้ผู้บริหารของธนาพัฒน์ฯ ยังเชื่อมั่นว่าภายใต้เศรษฐกิจที่เปราะบางและมีปัจจัยลบรุมเร้าเช่นนี้รัฐบาลคงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตผ่านเรียลเซกเตอร์ และอสังหาริมทรัพย์ ที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นเซกเตอร์ที่มีบทบาทในฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเดี่ยวที่เกือบ 100 % พึ่งพาวัตถุดิบภายในประเทศ แต่ด้วยธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีความเสี่ยงอยู่มากจึงเชื่อว่านักลงทุนและผู้ประกอบการคงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ในฝั่งของผู้บริโภคเองก็อาจชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน
นายดลพิวัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับบริษัทในปีนี้ คาดจะมีผลประกอบการที่เติบโตในทิศทางที่ดีโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/2555 เนื่องจากจะริ่มทยอยโอนโครงการ SYM. วิภา-ลาดพร้าวบางส่วนจากยอดขายที่มีกว่า 80-90% แล้ว และในวันที่ 31 มีนาคมถึง 1 เมษายนนี้ บริษัทฯจะจัด Grand Opening เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ โดยมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อห้องชุดหลังจากนี้ไม่ต้องมีการผ่อนดาว์น
“โครงการ SYM. วิภา-ลาดพร้าว ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก ในงาน Grand Opening นี้ จะมีการเปิดชั้นสูงวิวดีให้ได้จับจองกัน แถมมีโอกาสได้รับผลบวกจากมาตรรัฐที่ทยอยออกมา รวมถึงยังอยู่ในทำเลทองห้าแยกลาดพร้าว ทำให้มีลูกค้าให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น”