กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--กระทรวงอุตสาหกรรม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยผลการจัดสัมมนาชักจูงการลงทุนกลุ่มนักธุรกิจเกาหลีใต้ได้รับการตอบรับเกินคาด ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มรายเก่าและรายใหม่ยืนยันเดินหน้าลงทุนในไทย คาดภายใน 1-2 ปีนี้ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท พร้อมให้ความมั่นใจ แอลจี ซัมซุง ถึงแนวนโยบายเดินหน้าอำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ ด้านบริษัทผลิตไฟฟ้าจากขยะของเกาหลี ตัดสินใจขยายลงทุนในไทยคาดสรุปความชัดเจนเร็ว ๆ นี้
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานสัมมนา “Unbeatable Thailand, Unparalleled Opportunities : Business Environment and Investment Policies” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของการเดินทางไปชักจูงการลงทุน ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ว่า นักธุรกิจเกาหลีใต้ให้ความสนใจและร่วมเข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนี้กว่า 500 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 400 คน โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานครอบคลุมทั้งกลุ่มที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว และบางส่วนที่ยังไม่ได้เข้ามาลงทุนในไทยแต่ได้แสดงความสนใจสอบถามข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในอนาคต
ทั้งนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สนใจสอบถามถึงความชัดเจนต่อแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของไทย โดยเฉพาะการให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ศักยภาพของประเทศ การลดขั้นตอนการขออนุญาตต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจต่างชาติ รวมถึงการเตรียมพร้อมและการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค
นอกจากนี้ยังต้องการความชัดเจนถึงแผนการบริหารจัดการน้ำในอนาคต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ชี้แจงให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นต่อแผนการบริหารจัดการต่างๆ ของรัฐบาลที่เริ่มดำเนินการแล้วทั้งแผนระยะสั้น ด้วยการก่อสร้างคันกั้นน้ำในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และแผนระยะยาว ในการวางแผนสำหรับบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป รวมถึงรัฐบาลได้มีแผนลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกในการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น
“นักธุรกิจจากเกาหลีใต้ ลงทุนในประเทศไทยแล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยการมาจัดสัมมนา และพบปะกับนักธุรกิจครั้งนี้ มั่นใจว่าจะยิ่งสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนของแนวทางส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยต่อนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น โดยเบื้องต้นนักธุรกิจบางส่วนที่เป็นกลุ่มที่ลงทุนในไทยแล้ว และนักธุรกิจรายใหม่ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เหล็ก แปรรูปเกษตร ยืนยันว่าในช่วง 1-2 ปีจากนี้ จะมีการขยายการลงทุนในประเทศไทย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ” ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ กล่าว
ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมการหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว เช่น แอลจี ซัมซุง เป็นต้น ซึ่งสนใจสอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสำหรับโครงการขยายการลงทุนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมได้ชี้แจงว่าโครงการขยายสามารถขอรับการส่งเสริมได้ นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงถึงศักยภาพของตลาดสินค้าหลากหลายชนิดที่สามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อป้อนให้กับตลาดในภูมิภาค รวมถึงการเดินหน้านโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่พร้อมอำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นต่อความจริงใจในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในประเทศไทยอย่างแท้จริง
นอกจากนี้คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงกำจัดขยะที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงโซล โดยโรงงานดังกล่าวจะเป็นต้นแบบสำหรับโครงการที่นักลงทุนเกาหลีได้เข้ามาลงทุนในไทยในกิจการโรงไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอแล้ว ตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี และคาดว่าจะมีการขยายลงทุนเพิ่มในอนาคต