กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
สยามพิวรรธน์ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ผนึกพลังเนรมิตสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ โครงการสุดยิ่งใหญ่ มูลค่า 35,000 ล้านบาท
โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดที่ภาคเอกชนไทย เคยทำมาในประวัติศาสตร์
ตอกย้ำยกระดับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่เวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ และบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศไทย ประสานพลังรังสรรค์อภิมหาโครงการคุณภาพสุดหรูเลิศอลังการมูลค่า 35,000 ล้านบาท เพื่อถ่ายทอดความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา แหล่งรวมอารยธรรมไทยสู่ใจชาวไทยและชาวโลก พร้อมปั้นกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเป็นแดนสวรรค์ระดับโลกที่คนทุกชาติอยากมาเยี่ยมยลที่สุด
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่และสง่างามที่สุดที่ภาคเอกชนไทยเคยลงทุนมาในประเทศไทย ได้รับการเปิดวิสัยทัศน์การลงทุนอย่างยิ่งใหญ่เพื่อให้เป็น “สัญลักษณ์” แห่งใหม่ ของกรุงเทพฯ ที่จะผสมผสานความเป็นที่สุดของไลฟ์สไตล์ระดับหรู เข้ากับทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามเหนือจินตนาการ
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 40 ไร่ของผืนดินที่งามที่สุดแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมที่จะได้รับการเนรมิตให้เป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของกรุงเทพมหานครโดยผสมผสานความงดงามของเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ความแข็งแกร่งของธุรกิจคนไทยและธุรกิจระดับโลก ถือเป็นนวัตกรรมแห่งการสร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งสำหรับการใช้ชีวิตของคนในศตวรรษที่ 21
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “นี่คือโอกาส ที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในหนึ่งศตวรรษ”
“ไม่มีที่ดินผืนไหนจะสวยงามเท่านี้อีกแล้ว ด้วยทำเลที่ตั้งอันแวดล้อมไปด้วยโรงแรมหรูระดับห้าดาวมากมาย และอยู่ห่างจากศูนย์กลางธุรกิจย่านสีลมและสาทรเพียงห้านาที สามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งโดยรถยนต์ ทางเรือ หรือทางรถไฟฟ้าบีทีเอส พื้นที่นี้กว้างใหญ่ มีแม่น้ำเจ้าพระยา โอบอุ้มด้านหน้าและด้านข้าง มีด้านหน้าทอดยาวเลียบริมแม่น้ำไปอย่างน่าอัศจรรย์รวมแล้วถึง 400 เมตร เท่านั้นยังไม่พอ เรายังมีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ 2 แห่งอยู่ภายในที่ดิน ยิ่งทำให้ทำเลของโครงการมีศักยภาพสูงอย่างสมบูรณ์แบบ” นางชฎาทิพ กล่าว
นางชฎาทิพ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ด้วยปณิธานของผู้ร่วมทุนทั้งสามฝ่าย มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการนี้ให้มีคุณภาพระดับสูง เพื่อนำเสนอศักยภาพของคนไทยด้วยกัน ความแข็งแกร่งของธุรกิจไทย ผนวกกับความยอมรับนับถือจากธุรกิจระดับโลกจากต่างประเทศที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยที่สามารถแข่งขันกับโครงการระดับโลกอื่นๆ ได้อย่างไม่เป็นรองใคร
“โครงการนี้เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งยิ่งใหญ่สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของประเทศไทย นี่คือเทรนด์ใหม่ของโลกที่จะสร้างความแตกต่าง โดยการเริ่มต้นจากที่ดินขนาดใหญ่ที่งดงามและมีคุณค่าทางวัฒนธรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามสะท้อนวิถีแบบไทย และยังมีศักยภาพทางธุรกิจที่สูงมากอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร สามารถครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างขวางที่สุด ไม่ว่าจะเป็น คนไทยที่อาศัยอยู่ตลอดแนวริมน้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ที่สามารถเดินทางมายังโครงการอย่างสะดวกสบายทางเรือ หรือคนไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานและพักอาศัย ในย่านธุรกิจ สีลม สาทร สำเพ็ง นราธิวาสราชนครินทร์ รวมถึงชาวฝั่งธนบุรีจนถึงย่าน ราชพฤกษ์ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากที่เข้าพักบนโรงแรมระดับห้าดาวที่แวดล้อมโครงการ นับว่าเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญมากของกรุงเทพฯ ตะวันตก
“สถานที่ เป็นสิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง และ “คุณค่าของสถานที่” จะเป็นจุดที่ทำให้เราได้เปรียบทางการแข่งขันเพื่อสร้างองค์ประกอบต่างๆ ของโครงการให้สอดคล้องกับความได้เปรียบนี้อย่างที่สุด” นางชฎาทิพ กล่าว
“เรากำลังบุกเบิกยุคใหม่ในการออกแบบโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ในประเทศไทย โดยก้าวผ่านยุคของโครงการที่เรียกว่า Mixed-use เพื่อเข้าสู่ยุคของโครงการที่เราเรียกว่า Magnificent Location”
“ผู้คนที่มาโครงการของเรา จะรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ ไปกับสถานที่ นับแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างมาถึง สถานที่นี้ไม่เพียงแต่จะสวยงามตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังได้ผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นไทย และจิตวิญญาณของแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ากับสถาปัตยกรรมและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าที่สุดแห่งทศวรรษ เพียบพร้อมไปกับความหลากหลายของสรรพสิ่งพร้อมสรรพที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความเป็นเลิศ เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่คนจากทุกมุมโลกปรารถนามาเยี่ยมชมและมาพำนักอาศัยอย่างภาคภูมิใจ ” นางชฎาทิพ กล่าว
เฉกเช่นเดียวกับโครงการยิ่งใหญ่ระดับชาติเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่เป็นการง่ายที่จะสร้างสรรค์ให้สำเร็จได้ โดยผู้ลงทุนทั้งสามฝ่ายในวันนี้เท่านั้น หากแต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากคนไทยทั้งปวง ที่จะช่วยเสนอแนะความคิดที่จะทำให้โครงการนี้เป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทย การสนับสนุน และความร่วมมือจากภาคธุรกิจ และภาคเอกชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้โครงการนี้สง่างามและมีศักดิ์ศรีได้อย่างแท้จริง ซึ่งมีบทพิสูจน์จากการพัฒนาโครงการอื่นๆ ของสยามพิวรรธน์ คือสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่สำเร็จอย่างงดงาม และดำเนินธุรกิจโดยครองความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนาน โครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญยิ่งที่จะแสดงถึงการรวมพลังแห่งศักยภาพของคนไทย และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจนักลงทุนจากต่างประเทศ ให้ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยปรากฎมา ทั้งนี้ทางโครงการกำลังเตรียมเว็บไซต์และบล็อค เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถส่งความคิดและความปรารถนาต่างๆ ที่จะมาปรากฎขึ้นเป็นส่วนสำคัญของโครงการนี้ได้อีกด้วย
“ในวันนี้ สยามพิวรรธน์ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ และ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมแล้ว ที่จะสร้างสรรค์โครงการเพชรเม็ดงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประดับกรุงเทพมหานคร บนแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปรียบเสมือนดั่งมือที่ปกป้องและเชิดชูประเทศไทยตราบชั่วกาลนาน” นางชฎาทิพ กล่าว
นางทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “ที่ดินผืนนี้ตั้งอยู่ใจกลางเส้นเลือดใหญ่ของกรุงเทพฯ เป็นที่ดินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ มาถึงวันนี้ที่ดินผืนนี้กำลังจะทำหน้าที่สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของไทยด้วยความภาคภูมิใจ”
นางทิพาภรณ์ กล่าวต่อว่า ด้วยขนาดและทำเลที่ตั้งของที่ดิน ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่เราตั้งใจทำขึ้นมา จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เมืองหลวงของเราเป็นสถานที่ที่ นักเดินทางจากทุกชาติอยากมาสัมผัสความเป็นไทย ถือได้ว่าเป็นทั้งการเผยแพร่ และสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศเราให้ทุกคนได้ชื่นชม และร่วมดื่มด่ำไปกับความงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา เราเปิดโอกาสให้ทุกคน
“ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว โครงการของเราจะเปิดพื้นที่ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ เพื่อให้ ทุกคนได้มีโอกาสชื่นชม และดื่มด่ำไปกับความงามของแม่น้ำเจ้าพระยาในมิติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน การออกแบบโครงการจะเปิดโอกาสให้คนจำนวนมากได้เข้าถึงความมหัศจรรย์ของลำน้ำเจ้าพระยา ได้อย่างสะดวกสบาย”
“แม่น้ำเจ้าพระยายังคงมีมนต์ขลังที่สะกดจิตวิญญาณของความเป็นคนไทยมาตลอดนับตั้งแต่เป็น สยามประเทศ เป็นดั่งสายน้ำที่หล่อหลอมคนไทยเข้าด้วยกันอย่างมั่นคง เป็นแหล่งกำเนิดของความ มั่งคั่งร่ำรวย เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับแผ่นดิน แม่น้ำเจ้าพระยายังเป็นจุดบรรจบของอารยธรรมที่ไหลรินมาจากทั่วทุกภาคลงสู่ใจกลางมหานครอันยิ่งใหญ่ ผูกมัด เชื่อมโยง สานสัมพันธ์ผู้คนบนผืนแผ่นดินไทยเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างกลมกลืนจนแยกจากกันไม่ได้ โครงการนี้จะช่วยให้คนไทยได้กลับไปสัมผัสและภาคภูมิใจกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่งดงามอีกครั้งหนึ่ง”
“และในช่วงที่ประเทศกำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะเติมชีวิตให้กับที่ดินผืนนี้ ช่วยเสริมมนต์เสน่ห์ของกรุงเทพฯ ให้ดึงดูด เป็นจุดหมายที่ชนทุกชาติอยากมา ไม่ว่าจะเป็นการมาเที่ยวชมสัมผัสความงามของแม่น้ำเจ้าพระยาและมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของเรา รวมถึงการเป็นศูนย์รวมธุรกิจในทุกด้าน ที่มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย” นางทิพาภรณ์ กล่าว
นางทิพาภรณ์ กล่าวว่า “เราอยากจะสร้างสัญลักษณ์ทางสถานที่ ที่ไม่ใช่เพียงสิ่งก่อสร้างอีกแห่งหนึ่ง หรือการลงทุนทางการค้าอีกโครงการหนึ่งที่แสดงออกถึงความเจริญทางเศรษฐกิจแต่ยังเป็นการสร้างสถานที่ที่แสดงถึงจิตใจและวัฒนธรรมอันดีงาม ที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ สำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยส่งเสริมเกียรติภูมิของกรุงเทพฯ ให้เป็น ที่จดจำ และกล่าวขานมากยิ่งขึ้นในระดับโลก
นอกจากนี้ สิ่งที่เราสังเกตได้อย่างหนึ่งคือ เมืองที่อยู่ริมแม่น้ำ เมื่อมีการสร้างสัญลักษณ์ทางสถานที่ ณ พื้นที่ริมแม่น้ำ จะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมของชนชาตินั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นที่ ปารีส ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ หรือซิดนีย์ เป็นต้น”
“โครงการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสและเสริมให้กรุงเทพฯ แข็งแกร่ง เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและธุรกิจของภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้น” นางทิพาภรณ์ กล่าว
นางทิพาภรณ์ กล่าวว่า บริษัท แมกโนเลียฯ ให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งหลัก ในการพัฒนาโครงการ ทุกโครงการของเรา นั่นคือ การออกแบบ ที่นำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ คนทุกช่วงอายุ สอง การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมไม่ก่อมลพิษให้กับผู้อยู่อาศัยทั้งภายในและภายนอกโครงการ และสุดท้าย การสร้างชุนชนที่มีคุณภาพ และ การช่วยเสริมชุมชนรอบข้างให้ดียิ่งขึ้น โดยโครงการใหม่นี้ เราเริ่มด้วยการให้ความร่วมมืออนุรักษ์แม่น้ำและคลองต่างๆ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และองค์กรต่างๆ เพื่อในบริเวณยังมีแหล่งน้ำที่สะอาด รวมถึงระบบการไหลถ่ายเทน้ำที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้น ผู้ร่วมลงทุนทุกคนคาดหวังให้โครงการนี้ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย โดยแสดงให้เห็นความเชื่อมั่นที่คนไทยมีต่อศักยภาพในอนาคตของประเทศ ผ่านโครงการลงทุนขนาดใหญ่นี้
“โครงการนี้เป็นโครงการประวัติศาสตร์ของประเทศ ด้วยเงินลงทุนถึง 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเสริมชื่อเสียงเกียรติภูมิของวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และคาดว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานถึง 350,000 ตำแหน่ง จากปีนี้ไปถึงภายในเวลา 4 ปี” นางทิพาภรณ์ กล่าวในตอนท้าย
สำหรับรายละเอียดของโครงการคาดว่าจะสมบูรณ์พร้อมที่จะเปิดการขายพื้นที่ในสิ้นปี 2555 และ การก่อสร้างมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2558
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด คุณสิรีธร นิยมเสน โทรศัพท์ 02-658 1000 ต่อ 234
บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด คุณไพโรจน์ ภาชนะปรีดา โทรศัพท์ 02-664 9500 ต่อ 115