กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส
HARRY POTTER AND THE PRISONER OF AZKABAN
~ Preliminary Production Information ~
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเพื่อนๆ - รอนและเฮอร์ไมโอนี่ กลับมาเรียนในปีสามที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทย์มนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ที่ซึ่งเด็กวัยรุ่นทั้งสามถูกบังคับให้เผชิญกับความกลัวที่เร้นลับที่สุดของพวกเขา ในขณะที่ต้องรับมือกับนักโทษแหกคุกที่เป็นอันตราย และบรรดาผู้คุมวิญญานที่น่ากลัวพอๆ กัน ซึ่งถูกส่งไปที่นั่นเพื่อคุ้มกันพวกเขา
แฮร์รี่ พอตเตอร์ หนุ่มน้อยวัย 13 ต้องใช้เวลาช่วงปิดภาคฤดูร้อนอย่างไม่เต็มใจอีกครั้งหนึ่งกับครอบครัวเดอร์สลีย์ ญาติที่แสนน่าเบื่อของเขา ด้วยความเหนื่อยหน่ายที่เขาจะต้อง "ประพฤติตัวให้ดี" และไม่ฝึกฝนการใช้คาถาใดๆ นั่นก็คือจนกระทั่งป้ามาร์จ พี่สาวที่ชอบแสดงอำนาจของลุงเวอร์นอนแวะมาเยี่ยม ป้ามาร์จปฏิบัติต่อแฮร์รี่อย่างร้ายกาจมาโดยตลอด และในคราวนี้เธอได้ทำให้เขาคุมตัวเองไม่อยู่จนกระทั่งทำให้เธอตัวพองเหมือนลูกโป่งและลอยได้ "โดยไม่ได้ตั้งใจ" ด้วยความกลัวว่าตนเองจะถูกลงโทษจากป้าและลุง (และผลสะท้อนที่จะกลับมาจากฮอกวอตส์ และกระทรวงเวทย์มนตร์ ซึ่งห้ามนักเรียนใช้คาถาในโลกที่ไม่มีเวทย์มนตร์โดยเด็ดขาด) แฮร์รี่จึงหลบหนีไปสู่ยามรัตติกาล
เขาได้ถูกรับขึ้นรถไปอย่างทันท่วงทีโดย "รถเมล์อัศวินราตรี" พาหนะมหัศจรรย์สามชั้นสีม่วงที่โฉบตัวเขาเพื่อพาไปส่งไว้ที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว เมื่อไปถึงที่นั่น แฮร์รี่ได้พบกับรัฐมนตรีแห่งกระทรวงเวทย์มนตร์ คอร์นีเลียส ฟัดจ์ ซึ่งไม่มีคำอธิบายได้ถึงการที่เขาไม่ลงโทษแฮร์รี่ในการเป็นพ่อมดพเนจร และกลับยืนยันให้เขาค้างแรมที่ร้านหม้อใหญ่รั่วก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปฮอกวอตส์
เหตุผลของการที่ฟัดจ์ไม่ได้ไล่แฮร์รี่ออกจากโรงเรียนนั้น สืบเนื่องมาจากการที่ ซิเรียส แบล็ก พ่อมดอันตรายและลึกลับ ได้หลบหนีจากคุกแห่งอัซคาบัน และเชื่อกันว่ากำลังตามหาตัวแฮร์รี่ (เล่าลือกันมาว่าแบล็กเป็นผู้รับผิดชอบในการนำลอร์ดโวลเดอมอร์ไปพบกับพ่อแม่ของแฮร์รี่และผลที่ตามมาก็คือการตายของพวกเขา และในตอนนี้เขาตั้งใจจะมาฆ่าแฮร์รี่ด้วย) ดังนั้นสถานที่แห่งเดียวที่ปลอดภัยสำหรับเขาก็คือ ฮอกวอตส์
แต่ที่ทำให้ยิ่งแย่ไปกว่าก็คือ ฮอกวอตส์ต้องต้อนรับบรรดาผู้คุมวิญญาณ ผู้ดูแลจากอัซคาบันที่น่าสพรึงกลัว ซึ่งพยายามจะปกป้องแฮร์รี่และโรงเรียนจากแบล็ก โดยพวกมันจะดูดเอาวิญญาณจากเหยื่อ และโชคไม่ดีของแฮร์รี่เพราะพวกมันดูเหมือนจะถูกดึงดูดเข้าหาเขาอย่างอธิบายไม่ได้ การปรากฎตัวอย่างเป็นลางร้ายของพวกมันนั้น ทำให้พ่อมดหนุ่มน้อยรู้สึกเย็นเยียบไปจนถึงกระดูก และทำให้เขาไร้กำลังได้อย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งศาสตราจารย์ลูปิน อาจารย์ผู้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ ได้ฝึกให้แฮร์รี่รู้จักวิธีใช้คาถาผู้พิทักษ์ เพื่อปกป้องตัวเองจากอำนาจของผู้คุมวิญญาณที่มีผลทำให้ไร้ความรู้สึก
ในขณะเดียวกัน ปีที่สามของแฮร์รี่ในฮอกวอตส์ ก็เต็มไปด้วยตัวละครที่น่าตื่นเต้นอีกหลายตัว อย่างเช่น บัคบีค สัตว์วิเศษครึ่งนกครึ่งม้าที่เรียกว่า "ฮิปโปกริฟฟ์"; การพบกับลางบอกเหตุแห่งความตายที่น่าขนหัวลุก รู้จักกันในชื่อ "กริม"; และการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น รวมทั้งการไปเที่ยวหมู่บ้านพ่อมดฮอกส์มี้ดอย่างไม่เปิดเผย การถอดรหัสที่ซุกซ่อนอยู่ในแผนที่ตัวกวน และการเดินทางที่น่าสพรึงกลัวสู่เพิงโหยหวน (สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อว่าผีดุที่สุดในประเทศอังกฤษ) ในเวลาเดียวกัน แฮร์รี่ก็ต้องพยายามหาเหตุผลให้ได้ถึงการปรากฎและหายตัวอย่างเป็นปริศนาของเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยความช่วยเหลือของรอนและแฮกริดร่างยักษ์ ซึ่งได้เข้ารับตำแหน่งใหม่ในฮอกวอตส์ เป็นอาจารย์สอนวิชาการดูแลสัตว์วิเศษ
การเผชิญหน้าระหว่างแฮร์รี่และนักโทษลึกลับ ซิเรียส แบล็ก เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…แต่อะไรคือความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างศาสตราจารย์ลูปินและแบล็ก? ความลับดำมืดอะไรที่ศาสตราจารย์ สเนปอยากจะเปิดเผยเป็นอย่างยิ่ง? และทำไมสแคบเบอร์ หนูที่เป็นสัตว์เลี้ยงของรอนจึงดูตื่นกลัวขนาดหนัก และคอยวิ่งหนีจากการจับต้องตัวของเขา? แฮร์รี่จะต้องใช้ทั้งกำลังใจ เวทย์มนตร์ และแรงสนับสนุน เพื่อที่เขาจะสามารถรวบรวมสิ่งที่จะตอบคำถามเหล่านี้ ที่จะเปิดเผยความจริงซึ่งอยู่เบื้องหลังซิเรียส แบล็ก และสิ่งที่เชื่อมโยงเขากับอดีตที่แสนลึกลับของพ่อมดหนุ่มน้อยผู้มีความสามารถคนนี้
เกี่ยวกับงานสร้าง
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ภูมิใจเสนอผลงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ภาคที่สามของภาพยนตร์หลายภาคซึ่งสร้างจากนิยายที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลของเจ. เค. โรว์ลิ่ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นการถ่ายทำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2003 และกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำที่สตูดิโอลีฟส์เดน เฮิร์ทฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ และในโลเคชั่นที่ได้รับคัดเลือกทั่วประเทศรวมทั้งสก็อตแลนด์
อัลฟองโซ คัวรอน ผู้กำกับฯ ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง (Y Tu Mam? Tambi?n, Great Expectations, A Little Princess) มารับหน้าที่กำกับการแสดงโดยมีเดวิด เฮย์แมน (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Harry Potter and the Chamber of Secrets), คริส โคลัมบัส (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Harry Potter and the Chamber of Secrets, Mrs Doubtfire) และมาร์ค แรดคลิฟฟ์ (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Harry Potter and the Chamber of Secrets, Mrs Doubtfire) เป็นผู้อำนวยการสร้าง และไมเคิล บาร์นาแธน (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Harry Potter and the Chamber of Secrets, Mrs Doubtfire) และคัลลัม แมคดูกัล (Die Another Day) เป็นผู้อำนวยการบริหาร โดยมีสตีฟ โคลฟส์ เป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง
เรื่องราวยังได้นำ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (The Tailor of Panama, David Copperfield ทาง BBC TV), รูเพิร์ท กรินท์ และเอ็มม่า วัตสัน มาพบกันในเรื่องที่สามนี้ กับบท แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ แน่นอนว่าทั้งหมดต้องร่วมกันเผชิญหน้ากับ ทอม เฟลตัน (Anna and the King, The Borrowers) ซึ่งรับบท เดรโก มัลฟอย ซึ่งยังคงความเป็นคู่ปรับมาอย่างยาวนานของแฮร์รี่
ผู้ที่มาร่วมทีมนักแสดงนั้น ได้แก่ แกรี่ โอลด์แมน (Hannibal, The Professional, Bram Stoker's Dracula) ซึ่งรับบท ซิเรียส แบล็ก ผู้เป็นลางรัาย, เดวิด ธิวลิส (Timeline, Naked, The Big Lebowski) เป็นลูปิน ซึ่งจะมารับตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่, ทิโมธี สปอล (Nicholas Nickleby, Vanilla Sky, The Sheltering Sky) รับบท ปีเตอร์ เพตติกรูว์ และ ไมเคิล แกมบอน (Sleepy Hollow, Gosford Park, BBC TV's The Singing Detective) เป็น อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ที่น่านับถือของฮอกวอตส์ และบรรดาผู้ที่มาร่วมทีมเป็นครั้งแรก ได้แก่ จูลี่ คริสตี้ (Hamlet, Dragonheart) รับบทมาดาม โรสเมอร์ทา เจ้าของร้านเหล้าจิตใจดี, แพม เฟอร์ริส (Matilda, BBC TV's The Darling Buds of May) รับบท ป้ามาร์จ ป้าของแฮร์รี่ผู้แสนร้ายกาจ, ดอว์น เฟรนช์ (The Vicar of Dibley ทาง BBC TV, French and Saunders) รับบท สุภาพสตรีอ้วนในภาพวาด และ พอล ไวท์เฮาส์ (ดาราแห่ง BBC - The Fast Show) รับบท เซอร์ คาโดแกน อัศวินวางท่าที่แสนภูมิใจในตัวเองผู้อยู่ในภาพวาด
ผู้ที่ร่วมแสดงกับทีมดาราหน้าใหม่คือ ดามแม็กกี้ สมิธ (Tea With Mussolini, Divine Secrets of the Ya Ya Sisterhood, The Prime of Miss Jean Brodie) ซึ่งรับบทเป็น ศาสตราจารย์ มักกอนนากัล ผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์ของดัมเบิลดอร์อีกครั้งหนึ่ง; อลัน ริคแมน (Truly Madly Deeply, Sense and Sensibility, Die Hard) เป็นศาสตราจารย์สอนวิชาปรุงยา สเนป ที่แสนลึกลับ และร็อบบี้ โคลเทรน (Nuns of the Run, GoldenEye, The World is Not Enough) รับบท แฮกริด ยักษ์ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก (บทที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA และรางวัล London Film Critics Circle Award สาขา Best Supporting Actor รวมทั้งรางวัล Scottish Screen สาขา Best Actor จากเรื่อง Harry Potter and the Sorcerer's Stone) จูลี่ วอเตอร์ส (Billy Elliot, Educating Rita, Personal Services) กลับมาเป็นนางวีสลีย์ คู่กับ มาร์ค วิลเลียมส์(Shakespeare in Love, The Borrowers, 101 Dalmatians) ซึ่งรับบทพ่อของรอน - อาเธอร์ วีสลีย์ และ บทของลุงเวอร์นอน และป้าเพตทูเนีย จะได้ ริชาร์ด กริฟฟิธส์ (Sleepy Hollow, Naked Gun 2, King Ralph) และฟีโอน่า ชอว์ (My Left Food, The Butcher Boy, Jane Eyre ของฟรังโก้ เซฟฟิเรลลี่)
นอกเหนือจากบรรดาดาราเอก ทางทีมงานยังได้ให้การต้อนรับไมเคิล เซเรซิน ผู้กำกับภาพ Michael Seresin (Midnight Express, Birdy, Angela's Ashes), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เจนี่ เทไมม์ (High Heels Low Lifes, House of America, Antonia's Line), ผู้ลำดับภาพ สตีเวน ไวส์เบิร์ก (Men in Black 2, Great Expectations, A Little Princess) และการกลับมาร่วมงานของผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็ค โรเจอร์ กีแย็ท (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Saving Private Ryan)
อีกครั้งที่ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์ เจ้าของสามรางวัลตุ๊กตาทอง สจ๊วต เครก (The English Patient, Dangerous Liaisons, Ghandi) ได้สร้างสรรค์โลกแห่งเวทย์มนตร์แห่งฮอกวอตส์ ฉากที่สร้างแรงจูงใจของเขาในเรื่อง Harry Potter and the Sorcerer's Stone ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง, รางวัล BAFTA และ Evening Standard Award พรสววรค์ในการสร้างสรรค์งานครีเอทีฟของเขานั้น ยังได้รับการยอมรับอีกครั้งในเรื่อง Harry Potter and the Chamber of Secrets และยังนำไปสู่การเข้าชิงรางวัล BAFTA อีกครั้ง
สถานที่ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตเครื่องบินโรลส์รอยซ์ ในปัจจุบันรู้จักกันในนาม ลีฟส์เดน ฟิล์ม สตูดิโอ (Leavesden Film Studios) ได้เป็นที่รองรับงานสร้างอีกครั้งหนึ่ง และฉากที่น่าตะลึงของเครกอีกเป็นจำนวนมากยังคงอยู่ที่นั่นสำหรับงานเรื่องที่สามนี้ รวมทั้งห้องโถงใหญ่, ห้องนั่งเล่นของบ้านกริฟฟินดอร์, บันไดหินอ่อน และ บ้านเลขที่ 4 ถนนพรีเว็ท ไดรฟ์ - หรืออีกนัยหนึ่งบ้านของพวกเดอร์สลีย์ ฉากใหม่ๆ ได้แก่ เพิงโหยหวน, ห้องเรียนของลูปิน, หอนาฬิกา และร้านเหล้าไม้กวาดสามอัน นอกเหนือจากการถ่ายทำในโลเคชั่นที่สก็อตแลนด์ และการถ่ายทำที่สตูดิโอ เชพเพอตัน รวมทั้งบนถนนหลายสายของเมืองลอนดอน ที่ทำชาวลอนดอนหลายคนต้องถึงกับงงเมื่อได้เห็นรถเมล์สามชั้นแล่นหวือผ่านไป!
นิค ดัดแมน (Star Wars episode 1: The Phantom Menace, The Mummy, The Mummy Returns) ผู้ออกแบบเอ็ฟเฟ็คสัตว์วิเศษและงานเมคอัพ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA จากผลงานของเขาในเรื่อง Harry Potter and the Chamber of Secrets ได้รับหน้าที่ในการสร้างบรรดาสัตว์แห่งเวทย์มนตร์ ซึ่งอาศัยอยู่ในโลกของมนตร์คาถา โดยทำงานเคียงคู่กับผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็ค โรเจอร์ กีแย็ท (Harry Potter and the Sorcerer's Stone, Saving Private Ryan, Timeline) เพื่อสร้างสรรค์สัตว์แห่งเวทย์มนตร์อย่าง บัคบีค ฮิปโปกริฟฟ์ และมนุษย์หมาป่า
Harry Potter and the Prisoner of Azkaban จัดจำหน่ายโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ในกลุ่มบริษัทวอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในช่วงซัมเมอร์ ปี 2004
นักแสดงเด็ก
แดเนียล แรดคลิฟฟ์ - แฮร์รี่ พอตเตอร์:
แดเนียล แรดคลิฟฟ์ วัย14 ปี กลับมาอีกครั้งในบทหนุ่มน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งเป็นบทบาทที่เขาได้แสดงเอาไว้ด้วยตนเองในเรื่อง Harry Potter and the Sorcerer's Stone และ Harry Potter and the Chamber of Secrets
การรับบทเป็นหนุ่มน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำให้แดเนียลได้รับการชื่นชมไปทั่วโลก และรางวัล Variety Club of Great Britain's Best Newcomer Award ที่ได้มอบให้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 ในเดือนเมษายนปี 2002 และเขายังได้รับเกียรติจากรางวัล David Di Donatello Award จาก Ente David Di Donatello ของประเทศอิตาลี - จากการถ่ายทอดบทแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม และสำหรับการอุทิศตนให้กับอนาคตของวงการภาพยนตร์
แดเนียลปรากฎตัวทางโทรทัศน์อังกฤษเมื่อเดือนธันวาคม 1999 เมื่อเขาได้รับบท เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์วัยเด็ก ทางรายการยอดฮิตของ BBC David Copperfield ดราม่าที่ได้กำกับฯ โดย ไซมอน เคอร์ติส และร่วมแสดงโดย ดาม แมกกี้ สมิธ ซึ่งในตอนนี้ร่วมแสดงกับเขาในบท ศาสตราจารย์ มักกอนนากัล
ก่อนทำงานในภาพยนตร์ Harry Potter เรื่องแรก เขาได้แสดงในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในบทลูกชายของเจมี่ ลี เคอร์ติส และเจฟฟรีย์ รัช ในหนังของจอห์น บัวร์แมน เรื่อง The Tailor of Panama
ระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปี 2002 เขาได้เป็น "แขกรับเชิญที่ไม่คาดฝัน" ในหลายรอบของคอมเมดี้ที่ได้รับรางวัล Olivier Award เรื่อง THE PLAY WHAT I WROTE กำกับการแสดงโดย เคนเนธ บรานัคที่โรงละคร Wyndhams Theatre ในเวสท์เอนด์ ลอนดอน
รูเพิร์ท กรินท์ - รอน วีสลีย์:
รูเพิร์ท กรินท์ รับบทเป็นน้องชายคนเล็กสุดของครอบครัววีสลีย์ และเพื่อนรักของแฮร์รี่ พอตเตอร์ อีกครั้ง ถึงแม้ว่าเรื่อง Harry Potter and the Sorcerer's Stone จะเป็นการกระโจนเข้าสู่โลกของอาชีพการแสดงของรูเพิร์ทครั้งแรกก็ตาม แต่พรสวรรค์โดยธรรมชาติของเขาก็ทำให้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล British Critic's Circle สาขา Best Newcomer
ต่อจากการถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter ตอนแรก เขาก็ได้กลายเป็นดาราในการแสดงคู่กับไซมอน คอลโลว์ และสตีเฟน ฟราย ในบทศาสตราจารย์น้อยที่ไม่ค่อยยั้งคิด ในหนังของปีเตอร์ โฮวิท เรื่อง Thunderpants และเน่นอนว่าล่าสุดรับบท รอน วีสลีย์ อีกครั้งในเรื่อง Harry Potter and the Chamber of Secrets รูเพิร์ทอายุ 15 ปี และเป็นลูกคนโตของพี่น้องห้าคน ก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกให้เป็น รอน วีสลีย์ เขาเคยแสดงละครโรงเรียน และคณะละครท้องถิ่น โดยเคยรับบทเป็นหัวหน้าแกงค์ในเรื่อง Annie และละครเรื่อง Peter Pan และnd Rumplestiltskin in the Grimm Tales
เอ็มม่า วัตสัน - เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์:
เอ็มม่า วัตสัน วัย 13 ปี กลับมาถ่ายทอดฝีมืออันยอดเยี่ยมของเธอในบทเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ผุ้เป็นหนอนหนังสือ แต่จิตใจงามการเล่นเป็นเฮอรืไมโอนี่ เกรนเจอร์ ในภาพยนตร์เรื่องแรก นับเป็นการเข้าสู่โลกของอาชีพการแสดงของเอ็มม่า แม้ว่าความสามารถโดยธรรมชาติของเธอจะมีหลักฐานให้เห็นตั้งแต่ครั้งวัยเด็ก กับฝีมือการแสดงในละครโรงเรียนที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก
การแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในบทเฮอร์ไมโอนี่ มีผลอันมหาศาลที่ตามมาทั่วโลก และรางวัล AOL อันทรงเกียรติสาขา Best Supporting Actress จากเรื่อง Harry Potter and the Chamber of Secrets
เอ็มม่ายังคงรักษาสมดุลย์ระหว่างความรักในการแสดงกับการเรียนและกิจกรรมโรงเรียนของเธอ เป็นนักกีฬาที่มีฝีมือทั้งฮอกกี้ เน็ตบอล เทนนิส และราวน์เดอร์ (คล้ายเบสบอล) รวมทั้งกรีฑา เธอยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานศิลป์ และคุยฟุ้งว่ามีห้องแต่งตัวที่มีสีสันและตกแต่งอย่างสร้างสรรค์มากที่สุดในสตูดิโอ!
งานอดิเรกอื่นๆ ของเธอ ได้แก่: แบรด พิตต์; สังสรรค์กับเพื่อนๆ ; แบรด พิตต์; ฟังเพลงโปรดอย่าง อลานิส มอร์ริเซ็ท และจัสติน ทิมเบอร์เลค; แบรด พิตต์; เต้นรำโมเดิร์น, เต้นบัลเล่ต์ และเต้นแท็ป..และ แบรด พิตต์!
ทอม เฟลตัน - เดรโก มัลฟอย:
ทอม เฟลตัน วัย 15 กลับมาเป็นหัวหน้าฝ่านอริของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กบ้านสลิธีริน - เดรโก มัลฟอย
ทอมทำงานแสดงเป็นอาชีพมาแปดปีแล้ว และได้ออกสู่สายตาผู้ชมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1996 ในตอนที่รับบท พีกรีน ในหนังของปีเตอร์ ฮิววิท เรื่อง The Borrowers ในปี 1999 เขาได้รับบท หลุยส์ ลูกชายของโจดี้ ฟอสเตอร์ในภาพยนตร์ ใน Anna & the King
เขายังได้แสดงในซีรีส์ชั้นนำสองเรื่องของโทรทัศน์อังกฤษ : Bugs รับบทเป็น เจมส์ และ Second Sight แสดงคู่กับคลิฟ โอเวน เป็น โธมัส อิงแฮม เขายังได้แสดงในละครสองเรื่องทาง BBC Radio 4 รับบทเป็น โลธ ในเรื่อง The Wizard of Earthsea และเฮอร์คูล ในเรื่อง Here's to Everyone
ทอมได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1995 เมื่อเขาได้แสดงในงานโฆษณาชั้นนำทางโทรทัศน์หลายชิ้น รวมทั้งการแสดงพรสวรรค์ด้านการแสดงในช่วงแรกเริ่ม เขาคลั่งไคล้การตกปลาคาร์พและรักการตกปลาในทุกโอกาส
แฮร์รี่ เมลลิ่ง - ดัดลีย์ เดอร์สลีย์:
แฮร์รี่ เมลลิ่ง วัย 14 ปี มาร่วมทีมนักแสดงอีกครั้ง เป็น ดัดลีย์ ลูกพี่ลูกน้องมักเกิ้ลที่เสียเด็ก ของแฮร์รี่
การแสดงเป็นดัดลีย์ในภาพยนตร์ Harry Potter เรื่องแรก เป็นการทำงานแสดงเป็นอาชีพครั้งแรกของแฮร์รี่ ถึงแม้ว่าความรักและความสามารถทางการแสดงของเขาเห็นได้ชัดมาตั้งแต่สี่ขวบ เมื่อเขาเริ่มแสดงให้ครบครัวดู พออายุได้ห้าขวบเขาก็สมัครเข้าเรียนเต้น ร้องเพลง และการแสดงในตอนเช้าวันเสาร์ที่ The Sue Nieto Theatre School ตอนเก้าขวบได้กลายเป็นสมาชิกของ Millfield Theatre Youth Drama Group และแสดงในงานมิวสิคัลออริจินัลของโรเบิร์ต ไฮแมน House and Y3K
ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะพูดว่าการแสดงจะเป็นสิ่งที่แฮร์รี่รักที่สุด มันเป็นเรื่องของกรรมพันธ์อย่างแท้จริง คุณตาของเขาคือ แพทริค ทรูตัน ซึ่งมีชื่อเสียงจากบทของเขาที่แสดงเป็น Dr. Who; ลุงของเขา เดวิด ทรูตัน เป็นนักแสดงนำที่ RSC; ลูกพี่ลุกน้องของเขา แซม เป็นนักแสดงที่ National Theatre; และลุงอีกคนของเขาคือ ไมเคิล ทรูตัน ซึ่งมีชื่อเสียงในการรับบท เพียร์ส เฟล็ทเชอร์ เเดอร์วิช ในเรื่อง The New Statesman แม่ของเขาเป็นผู้วาดภาพประกอบในหนังสือเด็ก และพ่อ (นักวาดภาพเช่นกัน) ทำงานให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่น
นอกเหนือจากที่เขารักงานละครและภาพยนตร์ แฮร์รี่ยังชอบตีกลองและสร้างหนังของเขาเอง--จบ--
-นท-