เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที (BENTLEY CONTINENTAL GT) ใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8

ข่าวยานยนต์ Wednesday March 28, 2012 09:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส - เปิดตัวคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) และจีทีซี (GTC) รุ่นเครื่องยนต์ V8 อย่างเป็นทางการที่งาน North American International Auto Show ดีทร้อยต์ (มกราคม 2012) - อัตราส่วนของพละกำลังต่ออัตราส่วนของการปล่อยมลพิษนั้นเหนือชั้น เครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตรแบบ twin-turbo V8 คงไว้ซึ่งความทรงพลังตามรูปแบบคลาสสิคของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ - ระบบขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอีกด้วยเช่นกัน - เทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ ได้ถูกรวบรวมไว้ในรถคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงอย่างระบบ direct injection, ระบบจัดการลูกสูบแบบแปรผันอย่าง Variable Displacement และระบบส่งกำลังใหม่ล่าสุดแบบ 8 จังหวะ พร้อมด้วยการขับเคลื่อนสี่ล้อ - คอนติเนนทัล (Continental) แบบเครื่องยนต์ V8 คันนี้ออกมาเคียงข้างรุ่น 6.0 ลิตร เครื่องยนต์ W12 GT และ GTC เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ North American International Auto Show ในเมืองดีทรอยต์ วันที่ 9 มกราคม 2012 ที่ผ่านมา ทั้งคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) คูเป้ และ จีทีซี (GTC) เปิดประทุนมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร twin turbocharged V8 และมีความสมดุลระหว่างพละกำลังเครื่องยนต์ต่อมลพิษที่เหนือชั้นในคลาสรถสปอร์ตชั้นหรูระดับพรีเมี่ยมอีกด้วย เครื่องยนต์ V8 จากเบนท์ลี่ย์ใหม่ล่าสุดนี้มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 500 แรงม้า (507PS/373 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 660 นิวตันเมตร (487 lb ft) ที่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 1,700 ถึง 5,000 รอบ/นาที ถือได้ว่าเป็นรถที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและมีพละกำลังที่เหนือชั้นตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์ทุกประการ เสริมด้วยระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้รถคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงสุดที่ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย ในขณะเดียวกัน คอนติเนนทัล (Continental) เครื่องยนต์ V8 คันนี้มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม และยังมีการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำลงอีกด้วย หากเปรียบเทียบกับรถคันอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังรถเบนท์ลี่ย์เครื่องยนต์ V8 คันนี้จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับข้อมูลและอัตราต่างๆ จะถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการต่อไป ด้วยเครื่องยนต์ในรูปแบบ V8 ใหม่ล่าสุดนี้เองที่ทำให้คอนติเนนทัล (Continental) คันนี้สร้างระบบขับเคลื่อนใหม่และมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังลดการปล่อยมลพิษหรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 40% เลยทีเดียว ระบบที่ซับซ้อนแต่โดดเด่นของเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้คือ ระบบการจัดการลูกสูบแปรผัน (Variable displacement) ที่จะเปลี่ยนการทำงานจากเครื่องยนต์ 8 สูบ ไปเป็นการทำงานแบบ 4 สูบขณะที่มีการขับขี่แบบไม่ต้องการความเร็วหรือใช้กำลังของเครื่องยนต์น้อยเพื่อการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย ความสามารถนี้ได้มาจากการจัดการของระบบการจัดการเครื่องยนต์ที่มีความสลับซับซ้อนและพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียด นอกจากนั้นการเปลี่ยนการทำงานระหว่าง 2 โหมดจะเป็นไปอย่างนุ่มนวลโดยที่ผู้ขับและผู้โดยสารจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงข้ามโหมดการทำงานนี้ได้เลย เครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงแบบเครื่องยนต์ V8 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรงหรือ Direct Injection แบบแรงดันสูง (high pressure) อีกทั้งยังมีแบริ่งที่มีแรงเสียดทานต่ำ ระบบการจัดการอุณหภูมิ (Thermal Management) และระบบนำพลังงานมาใช้ใหม่ (Energy recuperation) ยิ่งกว่านั้นรถคันนี้ยังมีการติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมชั้นเยี่ยมเข้าไปเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เสียงของเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มออกมาจะแสดงให้รู้ได้ทันทีว่านี่คือเบนท์ลี่ย์ เครื่องยนต์ 4.0 ลิตร V8 ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย เครื่องยนต์แบบ V8 ใหม่ล่าสุดได้รับการติดตั้งในรถยนต์ 2 รุ่นคือ คอนติเนนทัล จีที (Continental GT) และคอนติเนนทัล จีทีซี (Continental GTC) เพื่อเน้นให้เห็นถึงพละกำลังเครื่องยนต์และรูปทรงที่แข็งแกร่ง รถทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบตาข่ายสีดำวาวที่มีกรอบและแถบกลางแนวตั้งสีโครเมี่ยม อีกทั้งยังมีโลโก้เบนท์ลี่ย์แบบตัวอักษร “B” สีแดงประทับอยู่เพื่อเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยเช่นกัน ทางด้านหลังมีความโดดเด่นด้วยท่อไอเสียที่มีปลายท่อแบบ ‘figure eight’ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับด้านท้ายและส่วนล่างของรถอีกด้วย อีกทั้งยังมีโลโก้ ‘B’ สีแดงประทับอยู่บนฝากระโปรงเพื่อเน้นให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตที่ร่วมสมัยและเป็นเอกลักษณ์ให้กับเครื่องยนต์ V8s ใหม่ล่าสุดคันนี้ ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือสามารถเลือกติดตั้งล้อขนาด 21 นิ้ว 6 ก้านแบบ Diamond Black (สำหรับรุ่น Continental V8) หรือ Diamond Silver ได้ ภายในห้องโดยสารมีความโดดเด่นด้วยวัสดุต่างๆ ระดับพรีเมี่ยมตามแบบฉบับของเบนท์ลี่ย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ลายไม้ที่ร่วมสมัยที่สุดอย่างเนื้อไม้ Dark Fiddleback Eucalyptus หรือสามารถเลือกติดตั้งเบาะหนังแท้แบบ 2 สีหรือ 2 โทนสีที่ตัดกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีคอนโซลกลางที่โดดเด่นตามรูปแบบสปอร์ตอีกด้วย ลูกค้ายังสามารถเลือกคอนติเนนทัล (Continental) แบบเครื่องยนต์ 6 ลิตร 12 สูบที่ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ Flagship จากเบนท์ลี่ย์ได้ และเครื่องยนต์ชนิดนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ twin-turbocharged W12 ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 631 แรงม้าเลยทีเดียว ทั้ง 2 รุ่นต่างมีเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งกำลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมกับเฟืองท้ายของ Torsen และมีอัตราการกระจายแรงบิดหน้า-หลังที่ 40:60 ส่งผลให้รถมีความคล่องตัวสูงแบบรถสปอร์ตและเกาะถนนในทุกๆ สภาวะการขับขี่อีกด้วย เบนท์ลี่ย์ได้รับความสำเร็จอย่างถล่มทลายด้วยยอดขายที่พุ่งกระฉูดตั้งแต่เปิดตัวรุ่นจีทีไปในปี 2003 ด้วยเครื่องยนต์แบบ W12 ที่โกยยอดขายไปได้ทั่วโลกกว่า 50,000 คัน และด้วยยอดขายที่ร้อนแรงนี้เองที่ทำให้เบนท์ลี่ย์ได้กลายเป็นค่ายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการผลิตเครื่องยนต์แบบ 12 สูบอีกด้วย และเป็นที่แน่นอนว่าเครื่องยนต์แบบ W12 นี้ก็กลายเป็นจุดเด่นของวิศวกรรมยานยนต์ของเบนท์ลี่ย์ด้วยเช่นกัน Wolfgang Durheimer ประธานกรรมการ กล่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวคอนติเนนทัลเครื่องยนต์ V8 นี้ไว้ว่า: “เราได้เพิ่มเสน่ห์ให้กับคอนติเนนทัล (Continental) รุ่นล่าสุดด้วยการผลิตเครื่องยนต์แบบ V8 4.0 ลิตรรุ่นใหม่นี้ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้สามารถให้ได้ทั้งสมรรถนะและความสุนทรีย์ในการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมตามที่คุณต้องการและคาดหวังไว้กับรถเครื่องยนต์ V8 ทุกประการ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกเติมเต็มมากขึ้นด้วยนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนที่ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” คอนติเนนทัล (Continental) ในรูปแบบเครื่องยนต์ V8 รูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ - กระจังหน้าแบบตาข่ายสีดำวาวมาพร้อมกับกรอบและแถบกลางแนวตั้งที่โดดเด่น - กันชนด้านล่างแบบ 3 ส่วนมาพร้อมกับช่องดักอากาศสีดำและลายสีสันที่ตัดกันเพิ่มความโดดเด่น - ท่อไอเดียที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยปลายท่อคู่แบบ ‘figure eight’ - โลโก้ ‘B’ จาก Bentley สีแดงได้รับการประดับอยู่บนตะแกรงทางด้านหน้าและฝากระโปรงทางด้านหลัง รวมถึงดุมล้ออีกด้วย - สีภายนอกมีให้เลือกถึง 7 สี สปอร์ต และห้องโดยสารภายในที่ร่วมสมัย - ลายไม้คุณภาพสูงใหม่ล่าสุด Dark Fiddleback Eucalyptus ออกมาเฉพาะสำหรับรุ่น V8 นี้เท่านั้น - ผ้าบุหลังคาแบบ Eliade ที่ละเมียดละไม - คอนโซลกลางที่กระทัดรัดมากขึ้น - สี hide colours แบบมาตรฐานมีให้เลือกถึง 4 สี - หนังภายในแบบทูโทนหรือ 2 สีที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร - สีหลังคามีให้เลือกถึง 3 สี (สำหรับรุ่นคอนติเนนทัล จีทีซี) เครื่องยนต์ที่คล่องตัวและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ขนาด 4 ลิตร V8 - อัตราส่วนของพละกำลังเครื่องยนต์ต่อการปล่อยมลพิษที่ลงตัวและแสดงให้เห็นถึงเครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้น - ระบบการจัดการลูกสูบแปรผันหรือ Variable displacement (เทคโนโลยีชั้นนำที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่นมูซาน) และการลดเครื่องยนต์ลง 4 สูบ - เครื่องยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำเพื่อประสิทธิภาพและศักยภาพของเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น - ระบบส่งกำลังหรือระบบเกียร์ 8 จังหวะใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับอัตราการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้นอีกถึง 6% - ตัว Turbochargers ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องยนต์ ‘V’ เพื่อประสิทธิภาพและการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่รวดเร็วมากขึ้น - สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 ไมล์ (800 กิโลเมตร) เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง - เครื่องยนต์แบบ V8 - ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และมีการกระจายแรงบิดที่ 40:60 เน้นทางด้านหลัง ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล V8 (Continental V8) ใหม่ล่าสุดนี้ได้ในรูปแบบวีดีโอที่ www.youtube.com/bentleymotors สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที V8 ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการรถเบนท์ลี่ย์ของท่าน และซื้อรถยนต์เบนท์ลี่ย์จากทางเอเอเอสฯ เท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานเบนท์ลี่ย์ประเทศอังกฤษ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยรถยนต์ เบนท์ลี่ย์ที่ซื้อจากทางเอเอเอสฯ เท่านั้น ที่จะสามารถเข้ารับบริการจากศูนย์บริการของทางเอเอเอสฯ ได้ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ โทร. 02-522-6703 หรือ02-610-9911 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.bentleymotors.com ข้อมูลเกี่ยวกับเบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ (Bentley Motors) เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ คือบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศอังกฤษที่เปิดทำการมานานและเป็นอันดับสามที่มีอัตราการลงทุนเพื่อการพัฒนา บริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คนที่เมือง Crewe ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของบริษัท มีทั้งแผนกออกแบบ แผนกวิจัยและพัฒนา วิศวกร และโรงงานผลิต เกือบทุกชิ้นส่วนของรถทำจากงานฝีมือของช่างที่มีความเชี่ยวชาญมาหลายยุคหลายสมัย และรถทุกคันยังได้รับการพัฒนาขึ้นจากวิศวกรยานยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและแตกต่างจากโรงงานผลิตรถยนต์หรูค่ายอื่นๆ อีกทั้งรถยนต์จากเบนท์ลี่ย์คือรถยนต์จากอังกฤษที่มีคุณค่าสูง และมีการส่งออกที่มีมูลค่ากว่า 500 ล้านปอนด์ ในแต่ละปีเพื่อสร้างฐานตลาดให้มากขึ้นเหมือนในสหรัฐอเมริกา เช่น เจาะตลาดในประเทศจีน และประเทศทางอเมริกาใต้เพิ่มขึ้น ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์เบนท์ลี่ย์ ได้ที่ แผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ โทร. 02 522 6655 ต่อ 448 บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลี่ย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หมายเหตุ : นักข่าวสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อดาวน์โหลดภาพและข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ที่ www.bentleymedia.com
แท็ก 2012  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ