มีเดีย สบช่องพร้อมลุย ดันยอดขายในเอเชียโตอีกเท่าตัว

ข่าวทั่วไป Wednesday March 28, 2012 10:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง มีเดีย ประกาศดันยอดขายเครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนปีนี้ในตลาดเอเชียโตอีกเท่าตัว หลังได้รับความนิยมในตลาดเอเชีย จนติดอันดับ 6 ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่โดดเด่นเมื่อปลายปี 54 เผยมีสินค้าพร้อมรองรับทั้งตลาดไทยและในอีกกว่า 150 ประเทศพันธมิตร ขณะที่รายอื่นยังไม่ฟื้นจากน้ำท่วม ปีนี้ยังคงย้ำแนวคิด “มีเดีย ประหยัดไฟมากกว่า..ที่คุณคิด” พร้อมส่งแอร์ติดผนัง“อาร์ซีรี่” ระบบ พลาสม่า, คาสเซ็ทไทด์ และซีลลิ่ง แอนด์ ฟลอร์ ลงชิงส่วนแบ่งตลาดในไทยปีนี้กว่า 40,000 ชุด นายสมชาย พิศิษฐ์จริง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มีเดีย อีเล็คทริค เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ “มีเดีย” เปิดเผยว่า ปี 2555 “มีเดีย” ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในตลาดเอเชียเพิ่มอีกเท่าตัว เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศทุกรุ่น ภายใต้แนวคิด “มีเดีย ประหยัดไฟมากกว่า..ที่คุณคิด” มียอดขายรวมเมื่อปี 2553 กว่า 17 ล้านดอลลาร์ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 2 แสนคน และมียอดขายเครื่องปรับอากาศมากกว่า 12 ล้านเครื่องต่อปีทุกปี ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ฯลฯ ล่าสุด “มีเดีย” ได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 6 ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในเอเชีย จากผลสำรวจวิจัยทางการตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเขตประเทศเอเชีย เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา โดยบริษัท เฮ มาร์เก็ต มีเดีย จำกัด ปีนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เพิ่มอีกหลากหลายรุ่น เพื่อรองรับแผนการเติบโตอีกเท่าตัวดังกล่าว ได้แก่ แอร์ติดผนัง ในระบบพลาสม่า ที่เน้นประหยัดไฟ ประหยัดราคา และเย็นจริง ส่งเข้าทำตลาดในประเทศไทย ชื่อรุ่น “อาร์ ซีรี่ส์” ในขนาดเครื่อง 9,000 — 24,00 บีทียู ซึ่งเครื่องปรับอากาศทุกรุ่นของมีเดีย เลือกใช้วัสดุคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป โดยเฉพาะใช้คอมเพรสเซอร์ของอเมริกาและญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐาน CE ซึ่งประเทศยุโรปให้ความเชื่อถือ แต่ราคาประหยัดกว่าแบรนด์ดังถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องปรับอากาศติดเพดาน หรือ “คาสเซ็ทไทด์” ใช้วัสดุคุณภาพในระดับมาตรฐานยุโรปเช่นกัน แต่ราคาประหยัดกว่า แบรนด์ดังถึง 40 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และแบบ “ซีลลิ่ง แอนด์ ฟลอร์” ทั้ง 2 ประเภทมีขนาด 12,000 — 24,000 บีทียู นำเข้ามาจำหน่ายในไทยเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องปรับอากาศแบบที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าในทุกกลุ่มตลาด หลังจากที่นำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 2554 เพื่อเจาะกลุ่มดีลเลอร์ กลุ่มงานโครงการโรงพยาบาล โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวสูง สำนักงานบริษัท และลูกค้ารายย่อยทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าทำยอดขายเครื่องปรับอากาศในปีนี้ กว่า 40,000 ชุด เจาะตลาดดีลเลอร์ ที่มีทั่วประเทศ 200 ราย และกำลังจะเพิ่มเป็นกว่า 250 ราย คิดเป็นยอดขายส่วนนี้ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยกลุ่มดีลเลอร์ จะได้รับเงื่อนไขสั่งสินค้าในราคาพิเศษกว่าปกติ 5-10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทำตลาดในช่วงหน้าร้อนนี้ รายละ 10,000 ชุด ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มงานโครงการต่างๆ 30 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มตลาดพลาซ่าจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าอีก 20 เปอร์เซ็นต์ “ปีนี้มีเดีย ยังคงย้ำแนวคิด “มีเดีย ประหยัดไฟมากกว่า..ที่คุณคิด” รับประกันแอร์ทุกรุ่นของ“มีเดีย” ประหยัดไฟจริง ด้วยค่าประสิทธิภาพการทำความเย็น EER สูงถึง 12 BTU/h/w สูงกว่าค่ามาตรฐานประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่กำหนดไว้เพียง 11.6 BTU/h/w และการใช้คอยล์ระบายความร้อนถึง 2 ชั้น ซึ่งยังไม่มีในยี่ห้ออื่น เพราะมันทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่ทำให้ประหยัดไฟมากกว่า เปรียบเทียบขนาดเครื่อง 12,000 บีทียู ใช้ไฟเพียง 4.8 แอมป์ ขณะที่ยี่ห้อทั่วไปใช้ไฟถึง 5 แอมป์ อีกทั้งให้อากาศที่เย็นฉ่ำ จริง ด้วยตัวสลิทฟิน (Slit fin) ทำให้เครื่องเย็นเร็ว เย็นฉ่ำ และตัดไฟเร็ว ทำให้ประหยัดไฟได้มากกว่า 40-50 เปอร์เซ็นต์” นายสมชาย กล่าวต่อไปถึงการแข่งขันของตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ปีนี้จะแข่งขันเรื่องกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากโรงงานผู้ผลิตหลายแห่งประสบภาวะน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ ยังไม่สามารถผลิตได้เต็มกำลัง อีกทั้งอะไหล่ก็ขาดแคลน จึงนับเป็นโอกาสของ “มีเดีย” ที่เรามีโรงงานผลิตอยู่ที่เวียดนาม ทำให้มีสินค้าเพียงพอที่จะรองรับต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย และในประเทศต่างๆ ที่บริษัทฯ มีพันธมิตรอยู่กว่า 150 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคาดว่าปีนี้จะเป็นปีทองของตลาดเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากปรากฏการณ์ “ลานีญา” ที่ทำให้ปีนี้ร้อนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา สำหรับในอนาคตคาดว่าเครื่องปรับอากาศอาจจะมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอีก เนื่องจากมาตรการเรียกเก็บค่าภาษีสรรพสามิต ในกลุ่มธุรกิจเครื่องปรับอากาศ ซึ่งรัฐบาลกำลังจะนำมาตรการนี้กลับมาประกาศใช้อีก หลังจากที่เคยมีการยกเลิกไป ด้วยมองว่าสินค้าเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทั้งที่ความจริงเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าจำเป็นต่อประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างประเทศไทย จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนมาตรการดังกล่าวใหม่ ขณะที่การแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีปัจจัยกระทบจากค่าไฟฟ้าสูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มความนิยมในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศของคนเอเชีย มีการปรับเปลี่ยนไปนิยมใช้เครื่องปรับอากาศที่คุ้มค่า ประหยัดพลังงาน และมีระบบพลาสม่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ