กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--จีเอชซีเอเซีย
- โรลส์-รอยซ์ร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ซึ่งนับเป็นการเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกของบริษัท
- นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาว (Ghost Extended Wheelbase) ครั้งแรกในประเทศไทย
- พบกับการจัดแสดงรถยนต์รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ (Phantom Drophead Coup?) รถยนต์เปิดประทุนสุดหรูภายในงาน
บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด จัดแสดงรถยนต์ตระกูลโกสต์และแฟนธอมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 เมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555 ภายในงานยังมีการเผยโฉมรถยนต์รุ่นโกสต์ ฐานล้อยาว (Ghost Extended Wheelbase) ครั้งแรกอย่างเป็นทางการอีกด้วย การเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ของบริษัทในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการประกาศแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มกระบวนการผลิตในโรงงานที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2546
มร.เฮอร์ฟรีด ฮัสนัล ผู้จัดการทั่วไปตลาดใหม่ประจำภาคพื้นเอเซีย บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด เปิดเผยว่า “เรามีความยินดีที่ได้แต่งตั้งบริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายรายแรกอย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานครเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา และมั่นใจว่าบริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ (ประเทศไทย) จะเป็นคู่ค้าที่สำคัญในการขยายธุรกิจของเราในประเทศไทย อีกทั้ง บริษัทฯ เล็งเห็นว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะจัดแสดงยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดของเรา ณ งานบางกอก มอเตอร์โชว์ เนื่องจากเป็นมหกรรมแสดงยานยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“เนื่องจากผู้จำหน่ายรายใหม่ของโรลลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์สในกรุงเทพมหานครได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก กอปรกับโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดบริการ รวมถึงการจำหน่ายรถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาว (Ghost Extended Wheelbase) บริษัทฯ คาดว่าจะมีความต้องการในรถยนต์โรลส์-รอยซ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้น” มร.ฮัสนัล กล่าวเสริม
นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “การเข้าร่วมงานบางกอก มอเตอร์ โชว์ อย่างเป็นทางการครั้งนี้ ตอกย้ำพันธสัญญาของโรลส์-รอยซ์ที่มีต่อประเทศไทย โดยการออกแบบ ความใส่ใจในรายละเอียดและงานหัตถศิลป์ล้วนเป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ให้แก่ตลาดยนตรกรรมในประเทศไทย”
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาว (Ghost Extended Wheelbase) ในประเทศไทยรถยนต์ซาลูนสุดหรู รุ่นที่ 6 จากโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยนตรกรรมสำหรับลูกค้าที่ต้องการห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยคงไว้ซึ่งความสมดุลระหว่างสมรรถนะในการขับขี่ที่ปราดเปรียวและสง่างามในแบบฉบับของโกสต์
รถยนต์รุ่นโกสต์ ยนตรกรรม 4 ที่นั่งที่ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย ได้รับความสนใจและเป็นที่ต้องการอย่างมาก นับตั้งแต่เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกช่วงปลายปี 2552 รถยนต์รุ่นโกสต์ออกแบบมาเพื่อเป็นวิสัยทัศน์แห่งความเรียบง่าย เป็นรถยนต์โรลส์-รอยซ์ที่ไม่มีใครเสมอเหมือนทั้งด้านการขับขี่และการโดยสาร รถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาวพัฒนาองค์ประกอบพื้นฐานนี้ขึ้นไปอีกระดับ โดยออกแบบมาเพื่อขับขี่เองหรือเพื่อให้มีคนขับรถให้
สุดยอดห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์รุ่นโกสต์ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้นในรุ่นฐานล้อยาว โดยการเพิ่มความกว้างฐานล้อขึ้น 170 มม. ที่ไม่ส่งผลกระทบความสมดุลและดีไซน์อันร่วมสมัยของรถยนต์รุ่นนี้ รถยนต์รุ่นฐานล้อยาวมีช่วงวางขาที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีช่วงเข่าที่กว้างขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับรถยนต์โกสต์รุ่นมาตรฐาน
ห้องโดยสารที่กว้างขึ้นในส่วนผู้โดยสารด้านหลัง และหลังคารับแสงแบบพาโนรามา (panoramic sunroof) สร้างมาตรฐานใหม่ของบรรยากาศและแสงภายในห้องโดยสาร การขึ้นลงรถที่สะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร ช่วยตอกย้ำความเป็นสุดยอดผู้นำในตลาดสินค้าหรูของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
รถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาว ใช้เครื่องยนต์วี12 เทอร์โบคู่ ขนาด 6.6 ลิตร แบบที่ใช้ในรถยนต์โรลส์-รอยซ์ โกสต์รุ่นมาตรฐาน ซึ่งให้กำลัง 563 แรงม้า และแรงบิด 780 นิวตัน-เมตร ที่ความเร็วรอบ 1,500 รอบ/นาที รถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาวมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5 วินาที ระบบช่วงล่างอัจฉริยะ 4 มุมช่วยคงประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการขับขี่
มร. ฮัสนัล เปิดเผยเกี่ยวกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ว่า “ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอยนตรกรรมร่วมสมัยที่มีความ โดดเด่นคันนี้สู่ตลาดในประเทศไทย รถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาวมอบประสบการณ์สุดยอดแห่งความหรูหรา ปราดเปรียวและสง่างาม ที่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ลูกค้ารถยนต์รุ่นโกสต์ รวมถึงความเป็นผู้นำในด้านห้องโดยสารที่กว้างขวาง นับเป็นยนตรกรรมที่ดีที่สุดทั้งในการขับเองและการโดยสาร”
จัดแสดงรถยนต์รุ่นโกสต์ (Ghost) และรุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ (Phantom Drophead Coupe)
ภายในงานที่บูธของโรลส์-รอยซ์ ได้จัดแสดงรถยนต์โกสต์ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย 2 รุ่น คือ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นฐานล้อยาว พร้อมกับรถยนต์รุ่นแฟนธอมดรอปเฮด คูเป้ ที่สง่างาม
รถยนต์รุ่นโกสต์ (Ghost) เป็นยนตรกรรมซาลูนสุดหรู 4 ประตู ที่ทำให้ลูกค้ารุ่นใหม่ได้รู้จักกับแบรนด์โรลส์-รอยซ์ รถยนต์รุ่นนี้มีขนาดเล็กกว่าและมีสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์รุ่นก่อนๆ มีเอกลักษณ์ความเป็นโรลส์-รอยซ์อย่างชัดเจน และยังคงไว้ซึ่งความหรูหราของแบรนด์ รถยนต์รุ่นโกสต์ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับรถยนต์รุ่นโกสต์ฐานล้อยาว มีระบบช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ ขับขี่มากมาย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Cruise Control) ระบบกล้องส่องเพื่อช่วยในการขับขี่ยามค่ำคืน (Night Vision) และจอแสดงผลระบบสายตา (Head-up display) ซึ่งทำให้รถยนต์คันนี้เป็นยนตรกรรมที่เน้นในรายละเอียดในส่วนของผู้ขับขี่มากที่สุดของโรลส์-รอยซ์
รถยนต์รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ (Phantom Drophead Coup?) มอบประสบการณ์ยนตรกรรมเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง ที่ไม่เหมือนใคร โดยรวมเอาความสามารถในการขับขี่ที่เร้าใจ เข้ากับความเป็นเลิศด้านวิศกรรม เทคโนโลยีและดีไซน์ รถยนต์คันนี้ประกอบด้วยมือโดยใช้วัสดุที่ดีที่สุด เพื่อคุณภาพที่ดีเยี่ยม โดยมีกระโปรงท้ายแบบ picnic boot ซึ่งมีในยนตรกรรมเปิดประทุน สุดหรูคันนี้เท่านั้น ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถสามารถเข้าถึงส่วนบรรจุสัมภาระได้ง่ายและยังสามารถใช้เป็นที่นั่งกลางแจ้งสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนได้อีกด้วย บานพับที่แข็งแรงรองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม / 330 ปอนด์ ภายในห้องเก็บสัมภาระมีความจุ 315 ลิตร / 11.1 ลูกบาศก์ฟุต ใหญ่พอสำหรับเก็บถุงไม้กอล์ฟได้ 3 ถุง และที่สำคัญห้องเก็บสัมภาระด้านหลังนี้ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใดในระหว่างเปิดหรือปิดประทุน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเพิ่ม 2 ตัวเลือกในการแต่งรถรุ่นนี้ให้โดดเด่นสวยงาม ด้วยการใช้ไม้สักตกแต่งในส่วน hood cover ด้านหลัง และฝากระโปรงหน้ากับเสาเอทำจาก brushed steel องค์ประกอบเหล่านี้เป็นจุดเด่นในภาพลักษณ์ของรถยนต์รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ การขัดเกลาฝากระโปรงและเสา A-pillar ตามแบบอย่างของแฟนธอมรุ่นคลาสสิกในยุคปี ’20 และ ’30 แต่พลิกแพลงด้วยความทันสมัยในแบบฉบับของศตวรรษที่ 21 โครงสร้างแชสซีที่ทำให้รถยนต์รุ่นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ อาจเป็นยนตรกรรมเปิดประทุนที่แข็งแรงที่สุดในตลาดปัจจุบัน
บริการบีสโปก (Bespoke) ของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
“เราพร้อมเนรมิตให้รถยนต์โรลส์-รอยซ์ของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เฉกเช่นตัวคุณ เพียงคุณบอกมา เราจะทำให้เป็นจริง” โทมัส เจฟเฟอร์สัน (ที.เจ.) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์บริการบีสโป็ก บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด
เมื่อลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ซื้อรถยนต์แฟนธอมพวกเขาต้องการมากกว่าคุณสมบัติและตัวเลือกมาตรฐาน การตอบสนองความต้องการเหล่านี้เป็นได้ด้วยบริการสั่งทำรถยนต์ ‘Bespoke’ ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการขาย ร่วมกันรังรรค์สุดยอดยนตรกรรมที่ตรงกับความปรารถนาส่วนตัวของลูกค้าแต่ละราย บริการนี้เป็นสุดยอดบริการ ‘สั่งทำรถยนต์’ (automotive tailoring) คำว่า ‘บีสโปก’ (bespoke) มีต้นกำเนิดมาจากการตัดชุดสูทตามสั่งของย่านซาวีล โรว์ (Savile Row) ซึ่งใช้คำนี้อธิบายบริการที่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการผลิตสินค้า ในด้านของโรลส์-รอยซ์ นี่เป็นโอกาสที่จะพัฒนารถยนต์ของเราในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติเล็กๆ ไปจนถึงงานดีไซน์ที่อลังการที่สุด ทุกชิ้นส่วนของรถยนต์แต่ละคันจะได้รับการเซ็นรับรองจากหัตถกรผู้รับผิดชอบในการสร้างสรรค์ชิ้นส่วนนั้นๆ
บริการบีสโปกของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ โดยในปี 2554 ร้อยละ 56 ของรถยนต์ รุ่นโกสต์และโกสต์ฐานล้อยาวทั้งหมดที่ขายทั่วโลกเข้ารับบริการบีสโปก และสัดส่วนรถยนต์ในตระกูลแฟนธอมในเอเชียแปซิฟิคที่เข้ารับบริการบีสโปกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 79
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด เป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์หรู และบริการผลิตรถยนต์ตามสั่ง (Bespoke)
รถยนต์โรลส์-รอยซ์ทุกคัน ได้รับการผลิตด้วยมือโดยสุดยอดช่างผู้ชำนาญงานในด้านต่างๆ ที่ต้นกำเนิดของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ ในเมืองกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ
รถยนต์โรลส์-รอยซ์แต่ละคัน ผ่านมือช่างผู้ชำนาญงานกว่า 60 คู่ และใช้เวลากว่า 1-6 เดือนในการผลิต ด้วยความอุตสาหะเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ ตามคำกล่าวอันโด่งดังของเซอร์ เฮนรี รอยซ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งกล่าวไว้ว่า “จงดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งที่ตนทำ จงดึงเอาด้านที่ดีที่สุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมาแล้วทำให้ดียิ่งขึ้น ถ้าสิ่งนั้นไม่มีอยู่ จงสร้างมันขึ้นมา”
เมื่อเร็วๆ นี้ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดเผยสถิติการขายในปีพ.ศ. 2554 โดยมีการขายรถยนต์ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 3,538 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากยอดขายทั้งสิ้น 2,711 คัน ในปีพ.ศ.2553 ตัวเลขนี้เป็นยอดขายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทตลอด 107 ปีที่ผ่านมา โดยสถิติยอดขายสูงสุดก่อนหน้านี้อยู่ที่ 3,347 คัน ในปีพ.ศ.2521 ในยุคของรถยนต์รุ่นซิลเวอร์ แชโดว์ II (Silver Shadow II)
การเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกนั้น แบ่งเป็นภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 47) อเมริกาเหนือ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17) และตะวันออกกลาง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23) ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา นับเป็นสองตลาดหลักที่สำคัญที่สุดของโรลส์-รอยซ์