กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--กบข.
เลขาธิการ ก.พ.ในฐานะบอร์ด กบข. ย้ำไม่มีแนวคิดเสนอให้ยุบ กบข. และให้กลับไปใช้บำนาญสูตรเดิม ระบุเป็นเรื่องระดับนโยบาย เกี่ยวโยงกับงบประมาณแผ่นดิน ทุกฝ่ายต้องหารือกันอย่างรอบครอบ เพื่อหาออกร่วมกัน สำหรับผลตอบแทนการลงทุนของ กบข.เฉลี่ยที่ 7% ถือเป็นระดับที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของ กบข.
จากกรณีที่หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันพุธที่ 28 มีนาคม 2555 นำเสนอข่าวว่า นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ระบุว่า สำนักงาน ก.พ.จะเสนอให้มีการยกเลิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกลับไปจ่ายเงินบำนาญแบบเดิมนั้น
นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในฐานะคณะกรรมการกบข. และประธานคณะอนุกรรมการสมาชิกสัมพันธ์ กบข. กล่าวว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการนำเสนอข่าว เนื่องจาก สำนักงาน ก.พ. ไม่มีแนวคิดที่จะเสนอให้มีการยกเลิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกลับไปจ่ายเงินบำนาญแบบเดิมแต่อย่างใด เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระดับนโยบาย ปัจจุบันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างหารือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยว พ.ร.บ. กบข. ดังกล่าวแล้ว
?ตนเองและสำนักงาน ก.พ. ไม่มีแนวคิดที่จะเสนอให้ยกเลิก กบข.และนำบำนาญสูตรเดิมมาใช้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระดับนโยบาย เกี่ยวโยงกับงบประมาณแผ่นดิน จำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องหารืออย่างรอบคอบและรอบด้าน ตนเองในฐานะกรรมการ กบข. เข้าใจดีถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการปฏิรูประบบบำนาญ และจัดตั้ง กบข.ขึ้นมาเมื่อ 15 ปีก่อน ก็เพื่อแบ่งเบาภาระของภาครัฐ การจะยกเลิกกองทุน กบข. หรือนำระบบบำนาญเดิมกลับมาใช้กระทบต่องบประมาณของประเทศหลายแสนล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดจะดำเนินการก็สามารถทำได้ทันที? นายนนทิกรกล่าว
อย่างไรก็ดี สำหรับการลงทุนของ กบข. นั้นมีเป้าหมายการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ที่ผ่านมาผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน( ปี 2540 ? 2554 ) ที่ 7% ถือเป็นระดับที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ 2.97% ท่ามกลางสถานการณ์ลงทุนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากอดีตค่อนข้างมาก