กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--สนพ.
สนพ.เผยการปราบน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจังประสบความสำเร็จ แจงตัวเลขจับกุม 3 หน่วยงานหลัก “ตำรวจ —ศุลกากร-สรรพสามิต”มีจำนวนคดีเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณน้ำมันเถื่อนลดลง
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รายงานผลการดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน
โดยจากการดำเนินมาตรการในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าน้ำมันเถื่อนอย่างเข้มงวดจริงจังและต่อเนื่อง ตลอดจนการมีโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลให้กับชาวประมงในเขตต่อเนื่องได้ส่งผลให้ปริมาณการจับกุมน้ำมันเถื่อนมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ
ทั้งนี้ สนพ.ได้ทำการรวบรวมข้อมูลการจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่ปี 2544 — กุมภาพันธ์ 2547 ยอดการปราบปรามผู้กระทำความผิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตมีการจับกุมเพิ่มขึ้นในแง่ของจำนวนคดีแต่ปริมาณน้ำมันที่จับกุมมีแนวโน้มลดลงกล่าวคือ ในปี 2544 มีการจับกุมได้ 1,797 คดี เป็นปริมาณน้ำมัน 4,732 ล้านลิตร ในปี 2545 จับกุมได้ 1,801 คดี เป็นปริมาณน้ำมัน 4.906 ล้านลิตร และในปี 2546 มีการจับกุม 2,277 คดี คิดเป็นปริมาณน้ำมัน 4.177 ล้านลิตร และในช่วง 2 เดือนแรกของปีมีการจับกุมได้ 307 คดี เป็นปริมาณน้ำมัน 345,000 ลิตร
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มียอดจับกุมในปี 2544 เป็นจำนวน 398 คดี คิดเป็นปริมาณน้ำมัน 4.104 ล้านลิตร และจำนวนคดีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 869 คดี แต่มีปริมาณน้ำมันลดลงเหลือ 2.483 ล้านลิตรในปี 2546 ส่วนกรมศุลกากรนั้นในปี 2544 มียอดจับกุม 450 คดี คิดเป็นปริมาณน้ำมัน 801,000 ลิตร และลดลงเหลือ 127 คดี ด้วยปริมาณน้ำมัน 122,000 ลิตร และกรมสรรพสามิต มียอดจับกุมในปี 2544 เป็นจำนวน 949 คดี คิดเป็นปริมาณน้ำมัน 1.222 ล้านลิตร และในปี 2546 จำนวนคดีและปริมาณน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,281 คดี เป็นปริมาณน้ำมัน 1.572 ล้านลิตร
ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มของผู้กระทำความผิดในปัจจุบัน มีแนวโน้มเป็นผู้ค้ารายเล็กที่มีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนในปริมาณไม่มากนัก ซึ่งแตกต่างจากช่วงที่ปัญหารุนแรงเช่นในปี 2539 ที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดมีจำนวนคดี 267 คดี ปริมาณน้ำมันมากถึง 14 ล้านลิตรในปัจจุบันนี้การค้าน้ำมันเถื่อนในทะเลหมดสิ้นไป หลังจากที่รัฐมีโครงการน้ำมันเขียวออกไปขายสู้กับน้ำมันเถื่อน
สำหรับข้อมูลที่ สนพ.รวบรวมขึ้นนี้จะทำให้ภาครัฐสามารถทราบสถานการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบันมากขึ้นและจะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อกำหนดนโยบายตลอดจนมาตรการในการป้องปันและปราบปรามผู้กระทำความผิดได้อย่างเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ต่อไป--จบ--
-นห-