บริติช เคานซิล สนับสนุนไทยก้าวสู่เวทีอาเซียนอย่างมั่นใจ จัดทำโครงการ ?Skills for the Future?

ข่าวทั่วไป Thursday March 29, 2012 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--อเกต คอมมิวนิเคชั่น บริติช เคานซิล สนับสนุนไทยก้าวสู่เวทีอาเซียนอย่างมั่นใจจัดทำโครงการ ?Skills for the Future? เน้นส่งเสริมความเป็นเลิศทางทักษะด้านภาษาอังกฤษ และพัฒนาหลักคิดด้านวิทยาศาสตร์ เมื่อประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอาเซียนอีก 10 ประเทศ กำลังจะก้าวสู่การเปิดเสรีอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 อันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการค้า, การบริการ, การลงทุน, แรงงานฝีมือ และเงินทุน อย่างแน่นอน ซึ่งแต่ละประเทศได้ต่างต้องมีการเตรียมตัว และการปรับตัว สำหรับประเทศไทย สิ่งหนึ่งในการเตรียมความพร้อม คือ การพัฒนาทักษะความคิดเชิงเหตุผล และทักษะด้านภาษาอังกฤษซึ่งจะเป็นภาษากลางในการสื่อสารของประเทศในภูมิภาคนี้ ด้วยตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว ทางบริติช เคานซิล ซึ่งเป็นองค์การที่ให้ความร่วมมือระหว่างประเทศสหราชอาณาจักรและนานาประเทศ เพื่อส่งเสริมการศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาการต่าง ๆ ได้จุดประกายริเริ่มจัดทำโครงการ Skills for the Future: British Council and the Ministry of Education Response to ASEAN? ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลักในสรรหาบุคลากรเข้าไปช่วยสนับสนุน โดยเน้นการพัฒนาทักษะ 2 ด้าน คือ ด้านวิทยาศาสตร์ อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาความอยากรู้อยากเห็น ค้นคว้าทดลองให้เด็กไทย ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริง และอีกด้านหนึ่ง คือ ทักษะด้านภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยยืนอยู่ในเวทีอาเซียนด้วยความมั่นใจ จากความสำคัญของโครงการ Skills for the Future: British Council and the Ministry of Education Response to ASEAN? ดังกล่าว มร.มาร์ติน เดวิซั่น ประธานผู้บริหารบริติช เคานซิล กล่าวว่า ?ความตั้งใจใฝ่รู้ของเด็กจะพัฒนาได้ดีที่สุดผ่านวิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนการส่งเสริมให้เด็กไทยมีความมั่นใจในภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น จะทำให้ไทยโดดเด่นในเวทีอาเซียน ซึ่งทั้ง 2 ทักษะ ทางบริติช เคานซิล ได้สนับสนุนโดยจัดหาผู้ที่มีความรู้มาช่วยในการพัฒนาหลักสูตร และยังได้เตรียมสถานที่ในการฝึกอบรมไว้ให้ด้วย ซึ่งโครงการนี้นอกจากเป็นโครงการเตรียมความพร้อมให้กับครู อาจารย์ และเด็กไทยแล้ว ยังแฝงลึกไปถึงการกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่มีมาอย่างยาวนานของทั้งประเทศไทย และสหราชอาณาจักรอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นสิ่งที่ทางบริติช เคานซิลรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก? ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) และอาจารย์ที่เข้าร่วมอบรมทักษะภาษาอังกฤษในโครงการมาร่วมงานด้วยเป็นจำนวนมาก โดยทาง ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ?ทาง สพฐ. ได้ตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อต้องการขับเคลื่อนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้ก้าวหน้า เพราะพิจารณาเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่สำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าของประเทศต่อไปในอนาคต ซึ่งการที่บริติช เคานซิล ได้จัดทำโครงการ Inspiring Science ขึ้นนั้น สามารถช่วย สพฐ. ได้เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากมาช่วยในการพัฒนาสื่อการสอน การเปิดกว้างให้ครูไทยได้พบกับครูฝรั่ง อันเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเรา สร้างแรงบันดาลใจให้ครูไทยได้คิดทำสื่อการสอนใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้กับเด็กได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เด็กไทยได้เรียนรู้ และเห็นโลกกว้างขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณทางบริติช เคานซิลไว้ ณ ที่นี้ด้วย? มร. มาร์ค วินเดล Business Development Director, Centre of Science Education, Sheffield Hallam University ในฐานะที่เคยจัดทำโครงการ Inspiring Science ที่สหราชอาณาจักรมาก่อน ได้มีความเห็นเกี่ยวกับการนำโครงการนี้มาช่วยส่งเสริมทางรัฐบาลไทยว่า ?สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ทางเราเคยจัดทำมาก่อน แม้ว่าบริบททางการศึกษาของไทย และอังกฤษจะไม่เหมือนกันเท่าไรนัก แต่ว่าการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์จากสื่อ และการทดลองแปลกๆ ใหม่ๆ ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับพวกเขาได้นั้นเป็นสากลที่ทุกประเทศทำได้เหมือนๆ กัน การพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ จะทำให้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก้าวไกลไปได้ยิ่งขึ้น? ทางด้านนายเฉกชนก สุนทรศารทูล PCA Manager, บริษัท บีจี เอเชีย แปซิฟิค พีทีอี ลิมิเต็ด (British Gas) ในฐานะหน่วยงานเอกชนที่ให้การสนับสนุน โครงการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า ?วิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันทั้งยังนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่การเรียนวิทยาศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งจำเป็นต้องมีสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม บริติช ก๊าซเป็นองค์กรด้านพลังงานจึงทำให้เราเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญขององค์ความรู้วิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเข้ามาสนับสนุนโครงการ Inspiring Science ในครั้งนี้? ดร.กานจุลี ปัญญาอินทร์ นักวิชาการศึกษาชำนาญการ สถาบันวิทยาศาสตร์ สำนักวิชาการมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ให้ความเห็นเกี่ยวกับโครงการ Inspiring Science ว่า ?สำหรับโครงการ Inspiring Science โครงการที่ช่วยพัฒนาการสอนด้านวิทยาศาสตร์ของคุณครูไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง คือ ครูได้พัฒนาแผนการสอนใหม่ๆ ได้วิธีการสอนแบบใหม่ๆ รวมถึงได้สื่อการสอนใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพียงในตำราเท่านั้น ศึ่งการพัฒนาครูทางด้านวิทยาศาสตร์ จะส่งผลกระทบไปยังตัวนักเรียนให้มีความรักในการเรียนวิทยาศาสตร์ และสามารถทำให้เด็กได้รู้สึกว่าวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งใกล้ตัวมากยิ่งขึ้น และเมื่อประเทศไทยมีเด็กที่ชอบ และเข้าใจวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ประเทศสามารถพัฒนาได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง อีกทั้งโครงการนี้เป็นโครงการที่ทางมหาวิทยาลัย Sheffield Hallam ได้ส่งบุคลากรเข้ามาช่วยในการให้ความรู้ ดังนั้น ครูที่เข้ามาอบรมก็จะได้พัฒนาภาษาอังกฤษไปได้ในตัวด้วย? ในส่วนของโครงการเสริมสร้างความเป็นนานาชาติในวิทยาลัยอาชีวศึกษา (English Program for Office of Vocational Education) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการภายใต้ Skills for the Future นั้น เป็นส่วนงานความรับผิดชอบของทาง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งนายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้กล่าว ?ทางการอาชีวะตระหนักดีกว่านักเรียนอาชีวะ ส่วนหนึ่งคือ กลุ่มที่ไม่ชอบเรียนในวิชาสายสามัญ จึงหันมาเรียนสายอาชีพ ดังนั้น เราจะทำอย่างไรให้อาชีพของเขามั่นคงได้ในวันข้างหน้าเมื่อโลกเปลี่ยนไป เราจึงหันมาให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักเรียนกลุ่มนี้ได้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ได้รับค่าตอบแทนในการทำงานที่สูงขึ้น โดยเราได้รับการสนับสนุนจากทางบริติช เคานซิล ที่ช่วยส่งคนมาสอนภาษาอังกฤษแล้ว และเข้ามาช่วยพัฒนาหลักสูตร วางแผนหลักสูตร ซึ่งช่วยทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าเราจะสามารถก้าวสู่ปี 2555 ได้อย่างมั่นใจ? ?Skills for the Future: British Council and the Ministry of Education Response to ASEAN? เป็นโครงการหนึ่งที่จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้วงการการศึกษาไทยตื่นตัวและสร้างแนวทางที่ดีในการปรับตัว เพราะการพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์ที่ดีทำให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ เช่น การแพทย์ และวิศวกรรม ในขณะที่การมุ่งพัฒนาภาษาอังกฤษให้แก่ผู้จบศึกษาสาขาอาชีพมีทักษะความรู้ทางภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่เวทีการทำงานในบริบทแห่งความเป็นสากลได้ ความร่วมมือร่วมใจจากหลายๆ ฝ่าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้อีก 3 ปี ข้างหน้าของไทยก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ประเทศของเราจะก้าวไปได้อย่างมั่นใจ และมั่นคงมากยิ่งขึ้น? มร.มาร์ติน เดวิซั่น ประธานผู้บริหารบริติช เคานซิล กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ