กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระดมพลังหน่วยงานทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมป้องกันและลดผลกระทบจากภัยแล้งและอุทกภัย โดยดำเนินโครงการประชาร่วมใจ ป้องกันภัยน้ำท่วมในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รวมถึงทำให้น้ำไหลผ่านสะดวก ส่งผลให้การผลักดันและการระบายน้ำลงสู่ทะเลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี พ.ศ. 2554 ได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศไทยอย่างมหาศาล เป็นมูลค่าถึง 1.4 ล้านล้านบาท นับเป็นภัยพิบัติที่สร้างความสูญเสียเป็นอันดับ 4 ของโลก การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัด ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้การบริหารจัดการอุทกภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้จัดโครงการประชาร่วมใจ ป้องกันภัยน้ำท่วม ในพื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ในรูปแบบการรวมพลังหน่วยงานทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการอุทกภัย วางแนวทางป้องกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและผลักดันน้ำออกสู่ทะเลซึ่งจะเชื่อมโยงเครือข่ายการระบายน้ำของจังหวัดกับพื้นที่ใกล้เคียงที่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ โดยดำเนินการทำความสะอาดขุดลอกคู คลองแหล่งน้ำธรรมชาติที่ตื้นเขิน กำจัดผักตบชวา วัชพืชทางน้ำ และสิ่งปฏิกูลในน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รวมถึงทำให้น้ำไหลผ่านสะดวก ส่งผลให้การผลักดันและการระบายน้ำลงสู่ทะเลในช่วงที่เกิดอุทกภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปถึงการดำเนินโครงการประชาร่วมใจ ป้องกันภัยน้ำท่วม ว่า จะเริ่มดำเนินการครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี บริเวณคลองลากค้อน ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2555 ครั้งที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร บริเวณคลองตาขำ ตำบลชัยมงคล อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ในระหว่างวันที่ 23 ? 24 มีนาคม 2555 ในการนี้ ขอเชิญชวนหน่วยงานทุกภาคส่วน และประชาชนในพื้นที่ร่วมโครงการฯ ดังกล่าว โดยร่วมกันทำความสะอาด ขุดลอกคูคลอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำและผลักดันน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งจะช่วยปกป้องพื้นที่ที่อยู่อาศัยมิให้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนนี้