ทรูยืนยันสิทธิ์อันชอบธรรมในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน เลิกการผูกขาดผลักดันการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม

ข่าวทั่วไป Friday May 7, 2004 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--ทรู คอร์ปอเรชั่น
ทรูยืนยันติดตั้งโครงข่ายและการให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นไปตามสิทธิ์ ภายใต้สัญญาสัมปทานโครงการโทรศัพท์พื้นฐาน 2.6 ล้านหมายเลข ระบุการได้สิทธิ์ติดตั้งหรือให้บริการใดๆ ไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจาก ทศท. ย้ำหมดยุคการผูกขาด สู่การแข่งขันเสรีและเป็นธรรมตามที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ทรูไม่มีสิทธิ์ในการเข้าไปดำเนินการติดตั้งโครงข่ายสื่อสัญญาณใยแก้วนำแสง และให้บริการภายในรถไฟฟ้าใต้ดินของบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (บีเอ็มซีแอล) นั้น เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนสับสนหรือเกิดความเข้าใจผิด นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทรู สามารถทำได้ภายใต้สิทธิ์ของสัญญาสัมปทาน 2.6 ล้านหมายเลข ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ทรูได้สัมปทานจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันคือ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งสามารถทำได้ทั้ง Voice, Non Voice และ Data
ดังนั้น การเข้าไปดำเนินการติดตั้งและให้บริการดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจาก ทศท. แต่อย่างใด เพราะทรูมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการหรือประมูลโครงการต่างๆ เช่นเดียวกับการให้บริการในโครงการต่างๆที่ทรูได้ทำอยู่แล้ว
"ทรูสามารถให้บริการโครงข่ายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามสัญญาสัมปทานอยู่แล้ว และการให้บริการโครงข่ายดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ สวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่เข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน" นายศุภชัย กล่าว
นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารด้าน Corporate Solution , Wholesales & Data บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเข้าไปดำเนินงานในครั้งนี้เหมือนกับการเข้าไปดำเนินงานในโครงการอื่นๆ เช่น การวางโครงข่ายสื่อสารในหมู่บ้านจัดสรร การให้บริการในโครงการอุตสาหกรรมหรือโครงการธุรกิจใหญ่ๆ โดยไม่ต้องขออนุมัติหรือแจ้งให้ ทศท. ทราบ เพราะเจ้าของโครงการหรือผู้ประกอบการเป็นผู้ตัดสินใจที่จะเลือกให้เอกชนรายใดเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินก็เช่นกัน ทรูได้รับเลือกให้เป็นผู้ติดตั้งและให้บริการในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
ปัจจุบันการให้บริการ ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน จะต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งลูกค้าย่อมต้องการสิ่งใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการให้บริการที่รวดเร็วสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ตรงใจ
อย่างไรก็ตาม การเข้าไปให้บริการในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินครั้งนี้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสื่อสาร และการให้บริการ ซึ่งการที่มีโครงข่ายให้บริการที่ครอบคลุม จะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลาและทุกโอกาส
"เดี๋ยวนี้ตลาดมีการแข่งขันมากขึ้น การที่เราจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า เราต้องพิสูจน์กันด้วยฝีมือ ด้วยวิสัยทัศน์ และประสบการณ์การให้บริการ ซึ่งทรูเชื่อว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 11 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยมาให้บริการแก่ลูกค้า เป็นจุดเด่นที่ทำให้เจ้าของธุรกิจ หรือโครงการใหญ่ตัดสินใจเลือกใช้บริการของทรู"
นายทรงธรรม ยังกล่าวอีกว่า สังคมมีทางเลือกมากขึ้นจึงไม่ควรปิดกั้นลูกค้าในการเลือกสินค้า หรือบริการใดๆที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นทั่วโลกให้การยอมรับการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเปิดเสรีโทรคมนาคม เพราะจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการให้ภาคเอกชนหลายๆรายเข้ามาแข่งขันกันมากขึ้น มีการลงทุนมากขึ้น เพื่อให้สังคมมีการพัฒนาด้านการสื่อสารก้าวทันกระแสโลก และผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากแข่งขันเสรีและเป็นธรรมก็คือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ยุติธรรม การบริการทั่วถึงทุกพื้นที่ การเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัย รวมทั้งการพัฒนาสินค้าและการให้บริการที่มีคุณภาพและหลากหลายมากขึ้น และที่สำคัญคือ ประชาชนมีทางเลือก
"หมดยุคของการผูกขาด รวมทั้งการกีดกันทางการค้าแล้ว ขอให้เลิกการผูกขาด เลิกการกีดกัน ขอให้เป็นการแข่งขันในตลาดที่เสรีมากขึ้น ที่ผ่านมา ทรูทำธุรกิจด้วยความโปร่งใสมาโดยตลอด และไม่เคยทำผิดสัญญา และหากเห็นว่าทรูไม่มีสิทธิ์ในการดำเนินก็ขอให้ระบุว่าไม่มีสิทธิ์อย่างไร และผิดสัญญาขอใด ซึ่งเรายินดีรับฟังทั้งหมด " นายทรงธรรม กล่าวในที่สุด
อนึ่ง ศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำพิพากษาที่ ฟ. 26/2546 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 กันยายน 2543 ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ ทศท. โดยให้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานราชการใช้บริการโทรศัพท์ของ ทศท. ก่อนผู้ประกอบการรายอื่น เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นการลดสิทธิหรือจำกัดสิทธิของ ทรู ซึ่งขณะนั้นมีชื่อว่า บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีอยู่ตามสัญญาสัมปทาน และเป็นการออกกฎที่ไม่สอดคล้องหรือขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ และยังมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอีกด้วย
ขอมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อุไรรัตน์ อภิวัฒนกุล /โปรดปราน เสริญวงสัตย์
โทรศัพท์ 0-2643-0367 กด 5/0-2643-0367 กด 4
ประภาส จรสรัมย์ /จิตฤทัย ทัดเสรีวิบูลย์
โทรศัพท์ 0-664-0484,0-1827-7354--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ