กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานไทเป
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานไทเป (ททท.ไทเป) ได้จัดงานแต่งงานริมชายหาด ณ เกาะสมุยขึ้น ภายใต้โครงการ “ไป่เหนียนห่าวเหอ” หมายถึงการครองรักยาวนานนับ 100 ปี โดยครั้งนี้มีคู่แต่งงานมาร่วมพิธี 15 คู่ โดยมีคู่ดารายอดนิยมจากไต้หวัน “วินนี่ เหอ” (เหอ หยี เหวิน) ในวัย 35 ปี ครูสอนโยคะกับแฟนหนุ่ม บินมาร่วมด้วย ซึ่งทั้งคู่มีกำหนดการแต่งงานจริงในเดือนมิถุนายนนี้ที่ประเทศบ้านเกิด
งานสมรสหมู่คู่บ่าวสาวชาวไต้หวันในครั้งนี้ ใช้สถานที่ของศูนย์วัฒนธรรมดุสิตเทวาจัดทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ เริ่มต้นด้วยขบวนขันหมากแบบไทยๆ และเพื่อให้คงกลิ่นอายของความเป็นสมุย ขบวนขันหมากเลือกใช้บ้านไม้โบราณอายุกว่า 100 ปี ซึ่งถือเป็นที่พักอาศัยที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะสมุย เป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าบ่าวชาวไต้หวันแห่ขบวนขันหมาก พร้อมเหล่าชาวบ้านบนเกาะช่วยกันร้องรำหน้าขบวนกลองยาวผ่านสองข้างทางที่รายล้อมไปด้วยสวนมะพร้าว แต่ละคนสวมผ้าถุงปาเต๊ะผืนใหม่กับเสื้อลูกไม้สีขาวชุดพื้นถิ่นซึ่งสาวชาวเกาะนิยมใส่ในงานบุญและงานพิธีสำคัญขณะเดียวกันคู่บ่าวสาวชาวไต้หวันได้แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมไทยแบบไทยประยุกต์
พิธีที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นเมื่อคู่บ่าวสาวได้ฟังพระสวดให้ศีลให้พร เสร็จแล้วจึงมารับน้ำสังข์พร้อมสวมมงคลจากผู้ใหญ่บนเกาะสมุย อาทิ จำนงค์ จุณณปิยะ ผอ.ททท.ภาคเอเชียตะวันออก, สุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ที่ปรึกษา 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), พสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ไทเป, ประเสริฐ จิตมุ่ง นายอำเภอเกาะสมุย และวัลวลี ตันติกาญจน์ นายกสมาคมสปาสมุย เป็นต้น พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ประกอบไปด้วยเมนูพื้นบ้านที่แฝงไปด้วยความเป็นมงคล อาทิ หมี่ผัด กาละแม ขนมหวานรวมมิตร รวมทั้งมังคุดและลางสาดซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นของสมุย โดยมังคุดดูจะเป็นอาหารที่เหล่าคู่บ่าวสาวชื่นชอบและประทับใจมากที่สุด
หลังจากรับประทานอาหารอย่างอิ่มอร่อยแล้ว เหล่าคู่แต่งงานได้ร่วมปลูกต้นมะพร้าวบริเวณชายหาดในโครงการปลูกต้นมะพร้าวแถวแรก ทั้งนี้เนื่องจากต้นมะพร้าวบนเกาะสมุย ถือว่าเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะสมุย และยังมีความหมายโดยนัยว่าเป็นต้นไม้แห่งความรักความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยจัดพิธีมงคงสมรสบนเกาะสมุย ดินแดนที่เต็มไปด้วยมะพร้าว
ทั้งนี้ วินนี่ เหอ และแฟนหนุ่ม เล่าว่า ก่อนหน้านี้ คู่ของตนได้พบรักกันที่เมืองไทย การได้มีโอกาสมาร่วมพิธีแต่งงานที่เมืองไทยถือว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง พิธีต่างๆ ในการแต่งงานของประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ประทับใจเมืองไทยมากเพราะเป็นสถานที่ที่ได้มาพบรักและสานต่อจนมาได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และยังประทับใจความมีน้ำใจของคนไทย ส่วนสถานที่ของเกาะสมุยที่ประทับใจเป็นพิเศษคือความสวยงามของชายหาด หลังแต่งงานแล้ววางแผนจะมาฮันนีมูนที่สมุยและกระบี่ต่อไป
ด้าน พสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ไทเป กล่าวว่า “กิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวแต่งงาน-ฮันนีมูน เป็นนโยบายการทำงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาชาวไต้หวันมีค่านิยมไปแต่งงานนอกสถานที่เพื่อหาประสบการณ์ และนิยมแต่งงานแบบฝรั่ง ประกอบกับปีนี้เป็นปีมังกรทอง คนเชื้อสายจีนเชื่อว่าเป็นปีที่ดี เพราะในรอบ 1,200 ปีจะเกิดขึ้นสักครั้ง ททท.ไทเปจึงเชิญชวนหันมาแต่งงานแบบไทยบ้าง โดยบอกเล่าว่าประเพณีแต่งงานละภาคของไทยมีศิลปวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่ล้วนเป็นมงคลกับชีวิตคู่ทั้งสิ้น ที่ผ่านมาได้จัดงานแต่งงานแบบบะบ๋ายะหยาที่จ.ภูเก็ต และการแต่งงานแบบล้านนาที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งคู่แต่งงานที่กลับไปต่างบอกว่าประทับใจในความมีน้ำใจของคนไทย โดยเฉพาะที่จ.เชียงใหม่หลังจากจัดงานแต่งงานไปแล้ว ยังมีคู่รักสอบถามมามากมาย
สมุยนั้นมีจุดเด่นที่มีชายหาดสวยงาม ตลอดจนการแต่งกาย การแสดงมโนราห์ ชาวไต้หวันชอบทะเล แม้ที่ไต้หวันบ้านเกิดของเขาจะมีทะเล แต่เล่นน้ำไม่ได้ ประเพณีแต่งงานครั้งนี้เป็นแบบภาคใต้กึ่งภาคกลาง และยังมีขนมมงคลคือ กาละแม อันเป็นสัญลักษณ์แทนถึงความรักที่เหนียวหนึบ ซึ่งได้จัดทำเป็นของที่ระลึกให้กับคู่บ่าวสาวด้วย”
อย่างไรก็ตาม แม้คู่แต่งงานครั้งนี้จะน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ผู้อำนวยการสำนักงานททท.ไทเป ให้เหตุผลว่า ช่วงนี้ของสมุยถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่น ตั๋วเครื่องบินเต็ม รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่การที่จะเลื่อนวันแต่งงานไปในช่วงอื่นก็ไม่เหมาะสมเพราะวันเวลาดังกล่าวเป็นวันดี อีกทั้งในช่วงเดือนมีนาคมอากาศที่สมุยจะร้อนมาก อาจจะสร้างความหงุดหงิดให้กับชาวไต้หวันที่คุ้นชินกับอากาศที่หนาวเย็น จนทำให้งานแต่งงานไม่น่ารื่นรมย์ก็เป็นได้ ทั้งนี้ ททท.วางเป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวสมุยสำหรับชาวไต้หวัน โดยเน้นตลาดบนเป็นแบบมินิกรุ๊ป ระหว่าง 4 - 10 คน ขณะนี้ เกาะสมุยกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทอล์คออฟเดอะทาวน์ในไต้หวัน เนื่องด้วยส่วนใหญ่ชาวไต้หวันจะนิยมมาเที่ยวกรุงเทพ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นต้น สำหรับการจัดงานแต่งงานหมู่ครั้งนี้ คาดว่ามีเงินสะพัด 1,500,000 บาท โดยการจัดงานครั้งนี้ร่วมกับบริษัททัวร์ในไต้หวันและบริษัทการบินไทย จัดทำแพคเกจทัวร์ราคาพิเศษ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศไต้หวันมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วยในงานแต่งงานหมู่ครั้งนี้ด้วย
สุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ที่ปรึกษา 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมว่าการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวแต่งงาน-ฮันนีมูน ก่อให้เกิดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เป็นกิจกรรมที่สร้างความทรงจำด้านการท่องเที่ยวที่ดี ใครที่มาประกอบพิธีมงคลสมรสสักครั้งหนึ่ง ณ สถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะนำไปสู่การบอกเล่าสู่ลูกหลานถึงประเพณีวัฒนธรรม ในอนาคตจะก่อให้เกิดกิจกรรมการมาเยือนสถานที่แห่งความทรงจำ ตรงกับแคมเปญการท่องเที่ยวที่ว่า “เที่ยวหัวใจใหม่เมืองไทยยั่งยืน” ทำให้แหล่งท่องเที่ยวนั้นมีความยั่งยืนและถ่ายทอดไปถึงคนอื่นได้
“กิจกรรมที่เพิ่มคือการปลูกมะพร้าว อันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสมุย ทำให้คู่บ่าวสาวรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เป็นประสบการณ์ชีวิต สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นกระแสด้านการท่องเที่ยว ที่แต่ละสำนักงานท่องเที่ยวแต่ละแห่งต้องศึกษาด้านมานุษยวิทยา ความเชื่อ ตลอดจนความรู้สึกของผู้คนในภูมิภาคนั้นๆ แล้วจึงจัดกิจกรรมที่เหมาะสมให้”
ในปีที่ผ่านมาชาวไต้หวันมาเยือนเมืองไทยปีละ 450,753 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยปีละ 9.2 ล้านบาท โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่เมืองไทยราว 1 สัปดาห์ ใช้จ่ายเงินวันละประมาณ 4,200 บาท กิจกรรมท่องเที่ยวแต่งงาน-ฮันนีมูนจะเป็นตัวช่วยอีกแรงที่จะเชิญชวนให้คนไต้หวันมาเยือนเมืองไทยมากขึ้นและเป็นโอกาสสำคัญที่จะเผยแพร่ประเพณีไทยไปสู่ชาวต่างชาติอีกด้วย
ติดต่อ:
สายสัมพันธ์ คงถาวร (เผยแพร่ในนามของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานไทเป)
e-mail : saisumpan@yahoo.com