กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,662 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,663 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.82 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,200 บาท กับ 24,300 บาท และกลับมาปิดที่ 24,200 บาท กับ 24,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,563 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,206 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 62 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 1% GFJ12 ปิดที่ 24,510 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,710 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,510 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,710 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 17 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1671.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 49.2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.48 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.62 ตัน ( คงเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 24 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 103.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 66.22 จุด ปิดที่ระดับ 13,212.04 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.47 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- นักลงทุนมีการถือสัญญาประกอบกันระหว่าง fresh long buying และการทำ short covering ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 มีนาคม เนื่องจากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,650 เหรียญ สถานะ long เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านออนซ์ ในขณะที่สถานะ short ลดลงเท่ากัน 1.1 ล้านออนซ์ ผลก็คือ net long position เพิ่มขึ้น 2.21 ล้านออนซ์สู่ระดับ 17.796 ล้านออนซ์ Open interest ลดลง 48,826 สัญญา สู่ระดับ 626,687 สัญญา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้
- ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกในการเริ่มต้นการซื้อขายประจำไตรมาสที่ 2 โดยได้รับแรงสนับสนุนมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากตัวเลขภาคการผลิตของจีนได้ขยายความกังวลในเรื่อง Hard Landing และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของสหรัฐอเมริกาก็ได้เพิ่มความหวังที่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัว
- ราคาทองคำแท่งปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,672.59 เหรียญ/ออนซ์ ณ เวลา 07.05 น. ถือว่าเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 6.6% ในไตรมาสแรกของปีนี้
ราคาทองคำสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,674.40 เหรียญ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน ซึ่งประกอบด้วย hedge funds และนักเก็งกำไรรายใหญ่อื่นๆ เพิ่มปริมาณการลงทุนในทองคำในมุมมองทิศทางขาขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ เนื่องจากราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ใกล้ระดับ 1,700 เหรียญ/ออนซ์
- กลุ่มผู้ค้าทองในอินเดียยังคงประท้วงติดต่อกันเป็นวันที่ 13 เนื่องจากที่รัฐบาลมีการเพิ่มภาษีการนำเข้าทองคำขึ้นเป็นสองเท่าตัว ส่งผลให้ความต้องการทองคำในประเทศมาอยู่ที่ระดับ 933.4 ตันในปี 2011 โดยอินเดียยังคงเป็นผู้บริโภคทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- รัฐบาลของแอฟริกาใต้ใส่เงินมูลค่า 420 ล้านดอลลาร์เข้าสู่ public-private platinum venture ในทรัพยากร Pallinghurst ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคคลที่ลงทุนนอกตลาด หรือ private equity โดยรัฐบาลแอฟริกาใต้มีความพยายามที่จะเป็นผู้ผลิตโลหะมีค่าที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลก
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐพุ่งสูงเกินคาดในเดือนมี.ค. และทำสถิติขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เนื่องจากภาคครัวเรือได้รอดพ้นจากการราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์มีการปรับทบทวนการคาดการณ์ในไตรมาสแรกให้สูงขึ้น เนื่องจากชาวอเมริกันมีมุมมองในแง่บวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
- รัฐมนตรีคลังยูโรโซนมีมติตกลงกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่จะเพิ่มทุนทรัพย์เข้าสู่กองทุน ESM มูลค่า 7 แสนล้านยูโร เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ยูโรโซน ทำให้เกิดการตอบสนองเบื้องต้นที่ดีขึ้นจากกลุ่มประเทศ G20 และตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนวันศุกร์
-Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.6% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.8%
-Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 64.0 จุด คาดการณ์ว่าจะลดลงที่ระดับ 63.2 จุดตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 62.2
-Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 74.3 จุด คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 74.9 จุด ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76.2
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 52.4 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 53.3
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำมีการแกว่งตัวทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้งที่บริเวณ 1645 เหรียญ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ราคาทองคำสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1670 เหรียญ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากสิ้นเดือนมีนาคมมีแรงเทขายจากการหมดอายุของการส่งมอบโกล์ดฟิวเจอร์ในต่างประเทศ ภาพรวมโดยทั่วไปดูค่อนข้างดีขึ้น แนวโน้มทองคำน่าจะแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ทองคำจะมีแนวรับขยับขึ้นมาที่ระดับ 1650 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1695 เหรียญ ถ้าราคาทะลุด้านบนได้ ก็จะเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นในระดับภาพรวม
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,650 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,630 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,830 บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในทิศทางการแกว่งตัว คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปในทิศทาง Sideway up โดยที่ราคาน่าจะแกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 1660-1675 เหรียญ ให้ทำการซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ปรับพอร์ทเป็น 20%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเช่นเดียวกัน
สรุปได้ว่า ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway up น่าจะเริ่มหยุดตกได้
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง