กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯแนะนักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชี้หากออกมาดีกดดันราคาทองปรับตัวลดลง เหตุนักลงทุนถือครองดอลลาร์มากขึ้น ให้กรอบลงทุนสัปดาห์นี้ 1,625-1,700 ดอลล์/ออนซ์ ย้ำ “ทยอยขาย” ก่อนราคาปรับลดลงหากชนแนวต้าน 1,700 ดอลล์/ออนซ์ และตัดขายทุนที่ 1,625 ดอลล์/ออนซ์
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์ทองคำ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ (2-6 เม.ย.55) ยังคงมีปัจจัยที่น่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯที่เชื่อว่าหากมีตัวเลขที่ดีขึ้นจะส่งผลต่อราคาทองคำให้มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐฯแทนการลงทุนในทองคำ ในทางกลับกันหากมีตัวเลขที่ไม่ดีขึ้นตามคาดการณ์ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยประกาศอัตราดอกเบี้ยยูโรโซนและประชุม ECB ในวันพุธที่ 4 เมษายน 55 ตลอดจนการประกาศอัตราดอกเบี้ยอังกฤษและยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 55 รวมถึงยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์ที่ 6 เมษายนนี้อีกด้วย
สำหรับแนวโน้มการลงทุนทองคำในสัปดาห์นี้ GLOBLEX มองกรอบราคาทองคำที่ 1,625-1,700 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือประมาณ 23,750-24,840 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30.86 บาท/ดอลลาร์) โดยแนะนำให้นักลงทุน “ทยอยขาย” หากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านหรือสูงกว่า 1,680 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 24,550 บาท/บาททองคำ และให้รอซื้อที่แนวรับ 1,630-1,640 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 23,820-23,970 บาท/บาท โดยให้ “ตัดขาดทุน” ถ้าราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,625 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือ 23,750 บาท/บาททองคำ
“ราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สำหรับการลงทุนแล้วหากราคาปรับขึ้นนักลงทุนควรมีการทยอยขาย เนื่องจากหากราคาขึ้นไปและไม่ผ่านแนวต้านทางเทคนิคที่ 1,700 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ซึ่งถือเป็นแนวต้านสำคัญราคาทองคำอาจจะมีปการปรับตัวลงมาแรง โดยแนะนำให้ขายตัดขาดทุนที่ 1,625 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์”นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาทองคำอยู่ที่ 1,668.29 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ (ณ วันที่ 30 มีนาคม 24.00 น.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 7 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.43% และทำจุดสูงสุดไว้ที่ 1,696.20 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ และทำจุดต่ำสุดไว้ที่ 1,645.63 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์จากปัจจัยหนุนหลังจากนายเบน เบอร์นันเก้กล่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯแม้ว่ายอดผู้ขอรับสวัสดิการจะปรับตัวลดลงแล้วก็ตาม แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอยู่ห่างไกลจากการขยายตัวทำให้ต้องใช้นโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE3 ออกมาในอนาคต ทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในทองคำซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับผลบวกโดยตรงจากการใช้มาตรการ QE แต่ในวันต่อมาราคาทองคำได้ปรับตัวจากการประกาศผลผลิตมวลรวมอังกฤษที่ลดลง
แต่ในช่วงสุดสัปดาห์ การประชุมของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้เห็นชอบให้ขยายวงเงินเข้ากองทุนคุ้มครองยูโรโซนจาก 5 แสนล้านยูโรเป็น 8 แสนล้านยูโร และนอกจากนี้ดัชนีภาคการผลิตของจีนในเดือนมี.ค.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้โดยออกมาที่ 55.1 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาคการผลิตยังคงขยายตัวอยู่ทำให้ตลาดคลายความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงได้จึงเป็นผลบวกต่อทองคำและทำให้ราคาทองคำสามารถกลับมายืนในแดนบวกช่วงท้ายสัปดาห์ได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ค่าเงินบาทค่อนข้างผันผวนทำให้การเก็งกำไรในราคาทองคำไทยอาจไม่ได้รับผลตอบแทนเท่าที่ควร แต่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะมีการซื้อขาย Currency Futures ซึ่งจะสามารถนำมาช่วยในการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทสำหรับผู้ซื้อราคาทองคำไทย โดยหาก Currency Futures เริ่มการซื้อ/ขายแล้ว นักลงทุนสามารถสอบถามขั้นตอน และรายละเอียดได้ทาง Globlex