กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
พลิกภูมิหลัง กับความสำเร็จของตระกูล เวอร์ซาเช่
ผู้ยังคงอยู่กับวงการแฟชั่นโลก
นำเสนอผ่านรายการ จอโลก
16 พฤษภาคม 47 ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี
"เวอร์ซาเช่" (VERSACE) คือ สีสันสดใส พลัง และดนตรี โลโก้สัญลักษณ์เวอร์ซาเช่ คือ "เมดูซ่า" ตามตำนาน ใครก็ตามที่จ้องตาเมดูซ่าจะถูกสาบให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และเป็นหินในที่สุด เช่นกันใครก็ตามที่ซื้อเสื้อผ้าของเวอร์ซาเช่ก็จะต้องมนต์นี้ และกลับมาซื้อเสื้อผ้าเวอร์ซาเช่ ตลอดกาล โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกสวมใส่ชุดของเวอร์ซาเช่ อาทิ เจ้าหญิงไดอาน่า , มาดอนน่า, อลิซาเบธ เฮอลี่, เจนนิเฟอร์ โลเปซ,บองโจวี่ และเอลตั้น จอห์น เป็นต้น รายการจอโลก BIOGRAPHY จึงจะได้พาคุณเจาะลึกตำนานของ 3 พี่น้องตระกูลเวอร์ซาเช่ ซานโต้…จิอานนี่ และดอนน่าเทลล่า ผู้เขย่าวงการแฟชั่นโลกด้วยการเป็นรายแรกที่ให้สตรีสวมใส่ชุดสดใส เซ็กซี่ นำสมัย เพื่อดึงดูดความสนใจ นำเสนอสู่สายตาคุณในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม ศกนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 11.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ซึ่งฉายให้ชมพร้อมกับผู้ชมทางแถบยุโรป และอเมริกา
จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1946 ในเมืองท่าทางตอนใต้ของอิตาลี ชื่อ เรจจิโอ คาลาเบรีย เมืองแห่งตำนานของเทพเจ้ากรีกและโรมัน จิอานนี่ เวอร์ซาเช่เป็นบุตรคนที่ 2 ของตระกูล โดยมีพี่ชาย ซานโต้ และน้องสาว ดอนน่าเทลล่า แม่ของเวอร์ซาเช่…ฟรานเชสก้า เป็นช่างตัดเสื้อผ้าตามแฟชั่นของปารีส จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ฉายแววด้านแฟชั่นตั้งแต่วัยเด็ก เขาหลงรักในแฟชั่น เขาชอบศิลปะและดนตรี วาดรูปผู้หญิงเพื่อออกแบบเสื้อผ้า และตามพ่อไปดูละครโอเปร่า และละครเวที เวลาว่างเขามักจะช่วยแม่เย็บกระดุมเสื้อ พับผ้า และหัดตัดเย็บ เวอร์ซาเช่ ยังได้เรียนรู้เรื่องผ้าด้วยการตามแม่ไปต่างเมืองเพื่อเลือกซื้อผ้าสำหรับตัดเสื้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลกับเขามากในการศึกษาเรื่องออกแบบ เสื้อผ้าชุดแรกของเขาได้ออกแบบเมื่อตอนเขาอายุ 10 ขวบ เป็นเสื้อกำมะหยี่แบบโรมันที่มีสายคล้องไหล่ข้างเดียว เขามักจะให้ดอนน่าเทลล่าน้องสาวเป็น นางแบบเสื้อผ้าที่เขาออกแบบขึ้น
จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ เริ่มก้าวเข้าสู่ถนนสายแฟชั่นเมื่อปี 1972 โดยทำงานที่ร้านเสื้อผ้าชื่อ "ฟลอเรนทีน ฟลาวเวอร์" ในเมืองลุคก้า ทางตอนใต้ของมิลาน ซึ่งเขาได้รับมอบหมายให้ออกแบบเสื้อผ้า ซึ่งในช่วงนั้นอิตาลีกำลังเป็นที่นิยมเสื้อผ้าที่เน้นประโยชน์ใช้สอยดู เรียบ ๆ สีทึม ๆ จำพวก สีเทา และสีเบจ แต่จิอานนี่ เวอร์ซาเช่กลับนำเสนอเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส ดูโดดเด่น สะดุดตา ซึ่งเป็นก้าวแรกในการปฏิวัติเสื้อผ้ากุลสตรี เขาคิดว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียบร้อยเป็นกุลสตรีตลอดเวลา ผู้หญิงอาจดูเซ็กซี่นิดหน่อย ตราบเท่าที่ยังดูเฉลียวฉลาด มีอารมณ์ขัน และดูดี ทำให้เสื้อผ้าใน คอลเลคชั่นแรกของเขาประสพความสำเร็จอย่างสูง จึงกลายเป็นนักออกแบบที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในวงการแฟชั่นอิตาลี จากจุดนี้เขาจึงตัดสินใจเดินทางสู่ศูนย์กลางแฟชั่นของมิลาน โดยเข้าร่วมงานกับบริษัทแฟชั่นยักษ์ใหญ่ จิรอมเบลลี่ ที่นั่นเขาได้มีเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ใหม่เป็นของ ตนเอง "คอมปลิเช่" เป็นเสื้อผ้าที่ดูเป็นวัยรุ่น ดูสนุกสนาน และดูเก๋ไก๋
ต่อมาในปี 1976 จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ ได้ตัดสินใจทำธุรกิจของตนเองโดยชวนซานโต้พี่ชายมาเป็น หุ้นส่วน ซึ่งจุดแข็งของซานโต้คือ การวางแผนธุรกิจ และการวางกลยุทธ์ ต่อมาดอนน่าเทลล่า น้องสาวจึงได้เข้ามามีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ของงานออกแบบให้กับเวอร์ซาเช่ ดอนนาเทลล่า เป็นคนกระฉับกระเฉง ดูทันสมัย บุคลิกของเธอและการมองโลกเป็นสิ่งสำคัญ ดอนนาเทลล่ามักจะแนะนำอะไรสวย ๆ จากมุมมองที่เธอเป็นผู้หญิงเป็นประโยชน์มากสำหรับการออกแบบของจิอานนี่ เวอร์ซ่าเช่ ในปี 1978 พวกเขาได้เปิดร้านเสื้อผ้าร้านแรกที่ เวีย เดลล่า สปิก้า เขตชอปปิ้งที่มี ชื่อเสียงที่สุดของมิลาน และได้จัดแฟชั่นคอลเลคชั่นแรกของเขาซึ่งเป็นการออกแบบที่ผสมผสานศิลปะ และความเซ็กซี่เข้าด้วยกันจนเป็นที่กล่าวขาน เวอร์ซ่าเช่เชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการโปรโมตเสื้อผ้าของเขาก็คือ ให้คนมีชื่อเสียงสวมใส่เวอร์ซาเช่เป็นดีไซเนอร์คนแรกที่มีผู้ชมแถวหน้าสุดเป็นดารา ลูกค้าของเวอร์ซาเช่ที่โด่งดังที่สุดคือ เจ้าหญิงไดอาน่า รวมทั้ง มาดอนน่า, อลิซาเบธ เฮอลี่, บองโจวี่ และเอลตั้น จอห์น
สำหรับการแสดงแฟชั่นโชว์เวอร์ซาเช่นั้นไม่เหมือนใคร เขาได้ปั้นนางแบบบนแคทวอล์คเป็นดาราดังหลายต่อหลายคน อาทิ ลินดา, นาโอมิ แคมเบล, คริสตี้ โดยให้สาว ๆ เดินไปตามจังหวะดนตรีไปหาคนดู และให้พวกเธอคอยเล่นหูเล่นตาเพื่อตรึงคนดูไว้ และนำเสนอจุดเด่นของนางแบบ แต่ละคน สร้างภาพให้เธอดูเซ็กซี่ แสนสวย และมีพลัง
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในวันที่ 15 กรกฎาคม 1997 จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ ได้ถูกยิงที่ ศีรษะเสียชีวิต นำความโศกเศร้ามาให้กับคนทั้งโลก พลังสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลังแฟชั่นชื่อเวอร์ซาเช่ได้จากไปตลอดกาล แต่ดอนนาเทลล่า ไม่ยอมให้ตำนานของพี่ชายต้องเลือนหายไป เธอได้ลุกขึ้นทำงานแทนพี่ชาย โดยเริ่มต้นในการเตรียมมิลาน คอลเลคชั่น ใน 3 เดือนข้างหน้า เธอฝังตัวเองอยู่กับงาน และตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องรักษาสไตล์ของเวอร์ซาเช่เอาไว้ให้ได้ ก่อนหน้านี้จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ และดอนน่าเทลล่า จะเดินออกมาบนเวทีด้วยกันตอนจบของทุก ๆ โชว์ แต่วันนี้ ดอนนาเทลล่าต้องยืนอยู่คนเดียว ซึ่งแฟชั่นโชว์ในครั้งนั้นประสพความสำเร็จอย่างมาก ความ ท้าทายใหม่ของดอนนาเทลล่า เริ่มขึ้นเมื่อเธอต้องออกแบบเสื้อผ้าเวอร์ซาเช่ ด้วยสไตล์ของเธอเอง เธอได้แทนที่ชุดหนังของพี่ชายด้วยเสื้อผ้าดีไซน์สดใสที่ใช้ลายดอกไม้และสีสันที่ดูเป็นผู้หญิง มากขึ้น เสื้อผ้าของเวอร์ซาเช่กลายเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้มากขึ้น และขยายตลาดออกไปกว้างขึ้น ในแบบของความเป็นหญิง ฤดูร้อนปี 2002 ดอนน่าเทลล่าได้จัดแฟชั่นโชว์ ปารีส- โอ๊ต-โคทัว ซึ่งเป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ที่ออกแบบในสไตล์ของดอนน่าเทลล่าเป็นครั้งแรก ซึ่งประสพความสำเร็จอย่างสูง จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำของเวอร์ซาเช่อย่างสมบูรณ์แบบ เธอได้ประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า "ฉันนี่แหละผู้สืบตำนานของเวอร์ซาเช่"
วันนี้ชื่อของเวอร์ซาเช่ได้รับการยอมรับจากทุกมุมโลก และซานโต้ กับ ดอนน่าเทลล่า ก็ยังคง สานต่อตำนานแฟชั่นของจิอานนี่ผู้ล่วงลับต่อไป ไม่ใช่นักออกแบบทุกคนที่จะสร้างกระแสให้ผู้หญิงทั้งโลกลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนั้นแบบนี้ได้ จิอานนี่ เวอร์ซาเช่ รู้ดีว่าเขาเป็นใคร ทำอะไร เขากำลังแต่งตัวให้ใคร และเขาไม่หลงทาง นั่นคือความลับของดีไซเนอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ความลับที่ทำให้เขาประสพความสำเร็จ
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, พินิตา--จบ--
-นท-