สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 4, 2012 10:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,677 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,671 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.84 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,400 บาท กับ 24,500 บาท และกลับมาปิดที่ 24,350 บาท กับ 24,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,076 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,478 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 56 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.96% แบบ 10 บาท ลดลง 2.23% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.76% GFJ12 ปิดที่ 24,620 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,820 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,620 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,820 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 7.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1672 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 16.7 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.26 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.62 ตัน ( คงเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.22 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 104.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 64.94 จุด ปิดที่ระดับ 13,199.55 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50.27 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ รอยเตอร์ -ราคาทองคำมีการรีบาวน์กลับเล็กน้อยในเช้าวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงเกือบ 2% เนื่องจากการประชุม FOMC เมื่อค่ำคืนวานไม่ได้ส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม -ราคาทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 1,646.96 เหรียญ ณ เวลา 07.08 น. หลังจากปรับตัวลดลงมากที่สุดตลอดทั้งวันในรอบ 3 สัปดาห์ -ราคาทองคำสหรัฐปรับตัวลดลง 1.4% ที่ระดับ 1,648.50 เหรียญ ดำเนินรอยตามราคาทองคำแท่งที่ปรับตัวลดลง -ผู้กำหนดนโยบายของเฟดถอยออกจากความต้องการที่จะมีมาตรการ QE เพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อยๆ ดีขึ้น แม้ว่าพวกเขายังคงมีความกังวลในเรื่องภาพเศรษฐกิจโดยรวมก็ตาม -กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐฯ หรือ Factory Orders เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 1.3% รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5% แต่ก็เป็นการยืนยันให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่บนแนวทางของการฟื้นตัว - วันนี้ตลาดในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ปิดเนื่องในวันเชงเม้ง TheBullionDesk - เมื่อวานนี้สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงเนื่องจากการรายงานผลการประชุมประจำเดือนมีนาคมของ FOMC เผยว่า จะมีการใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจหดตัวลง - สัญญาส่งมอบทองคำเดือนมิถุนายนของตลาด COMEX ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1,645.10 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยลดลงประมาณ 27 เหรียญจากเวลาปิดในตลาดนิวยอร์ก - แถลงการณ์ในการประชุมวันที่ 13 มี.ค.ระบุว่า สภาวะทางการเงินของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัว โดยการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนและการลงทุนในภาคธุรกิจยังคงมีการขยายตัว แต่ตลาดที่อยู่อาศัยยังอยู่ในภาวะซบเซา และนักลงทุนดูเหมือนจะได้รับความเสี่ยงที่น้อยลงจากสถานการณ์ในยุโรป นอกจากนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจอาจเป็นเรื่องที่สำคัญหากเศรษฐกิจสูญเสียความเชื่อมั่น หรือหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ใต้ระดับ 2% ในระยะกลาง - เฟดระบุว่า ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินได้ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ อาจจะหนุนเงินเฟ้อให้สูงขึ้นชั่วคราว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เฟดคาดว่าเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับหรือต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในวันข้างหน้า ผลกระทบต่อราคาทองคำเกิดขึ้นทันที เนื่องจากเทรดเดอร์หลายรายได้สร้างสมมติฐานว่าเฟดจะเตรียมออกมาตรการ QE3 ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า เทรดเดอร์ทองคำของสหรัฐฯ กล่าวว่า การคาดหวังถึง QE3 ทำให้ราคาทองคำเกิดการเปลี่ยนแปลง 75 เหรียญเมื่อเบน เบอร์นันเกได้ให้ความหมายโดยนัยว่าอาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเหมือนการเปิดสวิทช์ให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบถึงระดับ 1,700 เหรียญ แต่ในทางกลับกัน ก็เกิดการปิดสวิทช์ไฟเมื่อการประชุม FOMC แถลงว่าเศรษฐกิจกำลังได้รับการเยียวยา และการเพิ่มสภาพคล่องจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย อีกทั้งดูเหมือนว่าราคาทองคำจะลงไปทดสอบที่ระดับ 1,625 เหรียญอีกครั้ง ซึ่งเป็นเส้นแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนวันอังคาร - Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.0% คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.5% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 1.3% ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ADP Non — Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 216K คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 205K - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 57.3 คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 56.9 - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.1M คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.1 M - การประชุม ECB ( ECB Press Conference) วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำกลับมาร่วงลงหลังจากการประชุมของFEDได้เสร็จสิ้น โดยประเด็นสำคัญคือคาดว่า อาจจะไม่มี QE3 เข้ามาในระบบ โดยดูว่าสภาพการเงินยังอยู่ในสภาพที่เจริญเติบโตได้พอสมควร เป็นประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำเมื่อคืนตกลงในช่วงปิดตลาด Comex และมีแรงเทขายอย่างหนาแน่นในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1660 เหรียญ และ 1650 เหรียญลงมา และไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1638 เหรียญโดยประมาณโดยเช้านี้มีลักษณะการเด้งรีบราวขึ้นมาเล็กน้อยมายืนอยู่ที่ ระดับ 1646 เหรียญ สรุปได้ว่าราคาทองคำเคลื่นตัวในทิศทาง Sideway กรอบใหญ่ๆ และดูจะกดดันในทิศทางขาลงอีกครั้งหนึ่ง กรอบการเคลื่อนไหวยังอยู่ในระดับ 1630-1660 เหรียญ โดยมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้งหนึ่งที่บริเวณ 1630 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ ภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นและระยะกลางกลับมาสู่ภาพในทิศทางขาลงอีกครั้ง หนึ่ง โดยเป็นการเคลื่อนแบบไร้ทิศทางค่อนข้างมาก เนื่องจากราคาทองคำในช่วง 2 เดือนนี้เป็นการคาดหวังจาก sentiment ที่ออกมามากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจ ราคาทองคำยังถูกกดดันในทิศทางขาลง ในขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวจะมีTechnical Rebound เล็กๆ ที่ระดับแนวต้าน 1660 เหรียญ ในขณะที่SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 1,286.62 ตัน Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,450 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,650 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในทิศทางการแกว่งตัวตามกรอบ โดยมีแนวรับที่ระดับ 1630 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1660 เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) รอเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับที่ระดับ 1630 เหรียญ ยังคงพอร์ทที่ระดับ 20% ดังกล่าว นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับที่ระดับ 1640 เหรียญและ 1630 เหรียญโดยประมาณ สรุปได้ว่า ราคาทองคำค่อนข้างขึ้นลงตาม Sentiment ขึ้นลงเร็วและแรง ควรบริหารพอร์ทให้เหมาะสม แนะนำนักลงทุนควรเล่นรายวันน่าจะดีกว่า เพราะสภาพตลาดเคลื่อนไหวค่อนข้างสับสน อาจจะมี Technical Rebound เล็กๆ โดยที่มีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1660 เหรียญ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ