กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--มายด์ พีอาร์
อัลไลด์ เทเลซิส ประกาศรุกตลาดเน็ตเวิร์คในไทยเต็มรูปแบบ ยกระดับจากสำนักงานตัวแทนเป็นบริษัท จำกัด พร้อมเปิดสำนักงานแห่งใหม่ และตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีแห่งแรกในอาเซียน ตั้งเป้าโตไม่น้อยกว่า 30%
นายคาซึอากิ โอยา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส โฮลดิ้ง และผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้านระบบเครือข่ายของโลก เริ่มก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2530 มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น มีส่วนแบ่งตลาดติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้นำด้านระบบเครือข่ายของโลก มียอดรายได้รวมทั่วโลกประมาณ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กระจายอยู่ทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐอมริกา นิวซีแลนด์ อิตาลี สิงคโปร์ และจีน
“ส่วนทางด้านเอเชีย ในปีที่ผ่านมา บริษัท อัลไลด์ เทเลซิสมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5% จากตลาดทั่วโลก ดังนั้นในปีนี้ทางสำนักงานใหญ่และผู้บริหารจึงมีนโยบายที่จะผลักดันตลาดระบบเครือข่ายในภูมิเอเชีย รวมถึงประเทศไทยให้มีการเติบโตมากขึ้น ด้วยการยกระดับจากสำนักงานตัวแทนเป็นบริษัท จำกัด พร้อมกับเปิดสำนักงานแห่งใหม่ และตั้งศูนย์สาธิตเทคโนโลยีในไทย และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนด้วยงบการลงทุนกว่า 10 ล้านบาท”
ด้านนายธีรยุทธ หงษ์คณะนุเคราะห์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ในภูมิภาคอาเซียนมีการยกฐานะจากการเป็นสำนักงานตัวแทนเป็นบริษัท จำกัด ซึ่งจะทำให้การทำงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการบริการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังพาร์ทเนอร์และลูกค้า ที่สามารถมาสัมผัสการทำงานจริงของระบบเน็ตเวิร์คได้จากศูนย์สาธิตเทคโนโลยีและยังได้รับการฝึกอบรมอย่างใกล้ชิดในประเทศไทย
สำหรับนโนยบายการทำตลาดของ อัลไลด์ เทเลซิสในไทยในปีนี้ จะเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มโรงพยาบาลหรือเฮลแคร์ 2. กลุ่มบริษัท ญี่ปุ่น 3. หน่วยงานราชการ 4. ผู้ให้บริการ หรือเซอร์วิส โพร ไวเดอร์ และ 5. กลุ่มโรงแรม โดยเฉพาะในสองกลุ่มตลาดแรก บริษัทฯ จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากทางบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น เห็นถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย เพื่อให้บริการกับลูกค้าในประเทศไทยให้ได้รับบริการเช่นเดียวกับในประเทศญี่ปุ่น และตลาดทางด้านโรงพยาบาลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา จึงมีความมุ่งมั่นที่จะนำโซลูชั่นทางด้านนี้มาพัฒนาและขยายธุรกิจในไทย อีกทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ Core Switch, Access Switch และ Wireless ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับ Business Application ของระบบเน็คเวิร์คของลูกค้าเป็นหลัก เช่น ระบบ Network Resiliency ที่ทำให้ทุกการเชื่อมต่อและการเข้าถึงข้อมูลเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในกรณีที่มีการสะดุดหรือหยุดชะงักในระบบเน็ตเวิร์ค อุปกรณ์ของ Allied Telesis ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ประมาณ 80% และ จากลุ่มรีเทล ประมาณ 20% โดยมียอดขายเติบโตมากกว่า 40% และมีส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของสวิตซ์เป็นอันดับ 3 ในประเทศไทย และตั้งเป้ายอดขายโตไม่น้อยกว่า 30% โดยคาดว่าภาพรวมตลาดระบบเครือข่ายในไทยน่าจะมีอัตราเติบโตประมาณ 10% และมีมูลค่าประมาณ 110 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,300 ล้านบาท
“ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่า ด้วยความพร้อมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีระบบเครือข่าย ผนวกกับการมีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจรครอบคลุมทุกระดับการใช้งาน ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับบนในราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุนกับทุกตลาด และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้บริษัท สามารถเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดและยอดขายของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน”
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีดิสตริบิวเตอร์ 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอแวนท์กาด จำกัด และบริษัท ไนน์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด
เกี่ยวกับ บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส
บริษัท อัลไลด์ เทเลซิส เป็นผู้นำการพัฒนาและผลิตอุปกรณ์เครือข่ายจากประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยีระบบการเชื่อมต่อและระบบเครือข่าย Ethernet/IP ที่สามารถทำงานร่วมกันและมีความยืดหยุ่น บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และปัจจุบันมีสำนักงานทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะค้นคว้าวิจัย และออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงแต่ราคาคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยผลิตภัณฑ์ของอัลไลด์ เทเลซิส สามารถให้บริการโซลูชั่นระบบเครือข่ายทั้งข้อมูล เสียง และภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มลูกค้าองค์กร หน่วยงานราชการ/รัฐบาล โรงพยาบาล หน่วยงานความมั่นคง สถาบันการศึกษา ค้าปลีก โรงแรมและรีสอร์ท รวมไปถึงผู้ให้บริการระบบเครือข่าย
อัลไลด์ เทเลซิส มุ่งมั่นสร้างสรรค์ในการบริการและแอพพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มมูลค่าและลดต้นทุนการดำเนินงาน และยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าและบริษัทคู่ค้าอย่างใกล้ชิด ต้องการทราบข้อมูลเพิ่ม ได้ที่ www.alliedtelesis.co.th