กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--Marriott Thailand
ดูไบพร้อมผงาดเป็นศูนย์กลางธุรกิจของโลก ด้วยการเปิดตัว โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ โรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ด้วยความสูงที่ 335 เมตร หรือ 1,164 ฟุต จึงนับได้ว่าเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นรองตึกเอมไพร์สเตทแห่งมหานครนิวยอร์กเพียงแค่ 26 เมตร
ด้วยปัจจุบันประเทศดูไบยังไม่มีโรงแรมที่สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ดังนั้น ทางโรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ แบรนด์ระดับหรูหรา ของแมริออท อินเตอร์ เนชั่นแนล และด้วยจำนวนห้องพักที่มีถึง 1,608 ห้อง การให้บริการทางด้านร้านอาหารและความบันเทิง ห้องบอลรูม 2 ห้อง 24 ห้องประชุม พื้นที่จัดงานรวม 5,100 ตารางเมตร(54,895 ตารางฟุต) โดยทางโรงแรมฯ จะแบ่งการเปิดให้บริการเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่หนึ่ง จะเปิดให้บริการห้องพักจำนวน 807 ห้อง เลาจน์ และห้องอาหารอีกมากมาย เพื่อมารองรับวัตถุประสงค์หลักอีกข้อหนึ่งของโรงแรมที่ต้องการผลประกอบการที่ดีและเพื่อขยายฐานการตลาดกลุ่มลูกค้าธุรกิจและประชุมสัมมนา
“ทางเรามั่นใจในศักยภาพของโรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ ที่จะสามารถรองรับการเติบโตของสังคมธุรกิจในระดับโลกที่เติบโตขึ้นทุกวัน เราจะเข้ามาเพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดของกลุ่มธุรกิจ การประชุมและการจัดงาน ที่ผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากถึง 1,000 คน สามารถพบปะกันทางธุรกิจ พักผ่อน และรับประทานอาหารได้ภายในสถานที่แห่งเดียว ปัจจุบัน กลุ่มผู้จัดงานขนาดดังกล่าว ได้เลือกสรรเมืองต่างๆ ทั่วโลก แต่มิใช่ประเทศดูไบที่จะสามารถรองรับกลุ่มธุรกิจนี้ได้ จากนี้ไป เราจะริเริ่มให้ดูไบเป็นภูมิทัศน์แห่งธุรกิจตลาดการประชุมระดับโลก ” มร. รูพแพค ควิช ผู้จัดการทั่วไป กล่าว “ภาพรวมทางธุรกิจทั่วไปของดูไบถือว่าสมบูรณ์แบบ และต้องการเป็นที่รองรับการเติบโตทางการตลาด อาทิ จากประเทศอินเดีย ที่มีประชากรหลักพันล้านและใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชั่วโมงบิน และสิ่งสำคัญที่ผู้จัดงานประเภทนี้มองหาและต้องการก็คือ โรงแรมที่มีครบทุกอย่างภายในแห่งเดียว และเรามั่นใจอย่างยิ่งว่า โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ จะเป็นต้นแบบของโรงแรมที่ครบวงจรที่สุดมิใช่เพียงระดับภูมิภาคหากแต่เป็นระดับโลก” มร. ควิช กล่าวเสริม
ข้อมูลด้านร้านอาหาร สิ่งบันเทิง และสารพันด้านสุขภาพ
โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ ให้บริการร้านอาหาร 9 ร้าน 5 เลาจน์ และสถานบันเทิงหลากหลาย ได้แก่ เดอะ วอลท์ เลาจน์ที่ตั้งอยู่บนชั้น 71 และ 72 ที่คุณสามารถชมทิวทัศน์แนวระนาบยาวสุดสายตา สเต็กเฮาส์สไตล์บูติก ไพรม์ 68 ร้านอาหารอินเดียต้นตำรับ อาตู ค็อคฮา รัง มาฮาล เลือกชิมอาหารอิตาเลียนแถบชายฝั่งที่ห้อง พอสิทาโน หรือจะนัดเจอกันที่จุดพบปะสังสรรค์สบายๆ ที่ห้องอาหาร อราบิก และ ลา ฟารีน
ผ่อนคลายร่างกายคลายความเหนื่อยล้าจากงานได้ภายใน สเรย์ สปา ที่มีพื้นที่ถึง 1,500 ตารางเมตร สเรย์ สปา ได้รับแรงบันดาลใจจากขบวนคาราวานแห่งพรหมแดนอะราเบีย มีทรีทเมนท์ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจมากมายให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็น ทรีทเมนท์น้ำนม น้ำผึ้ง กาแฟอะราเบีย ทรีทเมนท์ขัดตัวที่มีส่วนผสมของมะนาวและใบสะระแหน่ ทรีทเมนท์ฟื้นฟูร่างกายจากทับทิม สำหรับผู้ที่หลงใหลในแสงอาทิตย์ ต้องไม่พลาดการอาบแดดริมสระว่ายน้ำที่มีความยาว 32 เมตรทอดตัวบนชั้น 7 ของโรงแรม ห้องแต่งตัวที่ตกแต่งแบบหรูหรา พร้อมด้วยเลาจน์ริมสระน้ำ
เดอะ มาร์คีส์ ได้รับการจดทะเบียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมในเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล นิยามถึงระดับของการบริการ ความสง่างามและที่ตั้งของโรงแรมนั้นๆ โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ดูไบ จะเป็น เดอะ มาร์คีส์ แห่งแรกของแบรนด์ เจดับบลิว ที่ไม่ได้อยู่ในเขตอเมริกาเหนือ นับเป็นลำดับที่ 2 ต่อจากโรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ ไมอามี่ เพื่อสื่อสัญญาณ เจตนารมย์และมุมมองของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลที่มีต่อดูไบว่าเป็นประเทศที่มีอิทธิพลสำคัญต่อโลกใบนี้เพียงใด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สุชาดา เติมเตชาติพงศ์
โทรศัพท์ +66 2665 8515
อีเมล์ suchada.t@marriotthotels.com