สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 5, 2012 10:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,642 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,614 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.05 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,100 บาท กับ 24,200 บาท และกลับมาปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,520 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 14,618 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.83% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.11% Silver Futures ลดลง 0.4% GFJ12 ปิดที่ 23,960 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,200 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 23,970 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,180 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 57.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1614 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 2.221 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 31.04 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.62 ตัน ( คงเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 2.54 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 101.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 124.80 จุด ปิดที่ระดับ 13,074.75 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - ราคาทองคำขยับตัวขึ้นในเช้านี้ หลังจากที่ความหวังในการที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากเฟดถูกบดบังลง และการที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าก็ส่งผลให้ทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อวานนี้ ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,621.89 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 7.27 น. โดยเมื่อวานลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 1,611.80 เหรียญราคาทองคำสหรัฐรีบาวน์กลับมามากกว่า 0.5% ที่ระดับ 1,623.30 เหรียญ โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงติดต่อกันสองวันหลังจากการรายงานประชุม FOMC ประจำเดือนมีนาคม ที่กลุ่มผู้กำหนดนโยบายแทบจะไม่ส่งสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัว - ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงก็คือ การที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากผลการประมูลพันธบัตรของสเปนออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ โดยมีความต้องการพันธบัตรลดลง นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวหลังการประชุมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีความเสี่ยงในช่วงขาลง ขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะกลางมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าที่จะลดลงในปีนี้ อีซีบีได้ตั้งเป้าเงินเฟ้อไว้ต่ำกว่า 2% แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่แท้จริงได้พุ่งสูงกว่าเป้าอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า รัฐบาลอินเดียจะขึ้นภาษีการนำเข้าทองคำเป็น 2 เท่า - ส่วนสเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้ 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้ยิ่งจุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สินของสเปน หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งเปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีกในปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพุ่งขึ้น นอกจากนี้สกุลเงินยูโรยังถูกกดดัน หลังจากอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ 1% ตามคาดเมื่อวานนี้ โดยมีความระมัดระวังเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจในลักษณะ downside risk และอีซีบีเพิกเฉยต่อการที่ผู้นำเยอรมนีมีการกระตุ้นธนาคารให้เริ่มการวางแผนที่จะล่าถอยจากการต่อสู่วิกฤตอย่างเร่งด่วน - ในวันนี้ Shanghai Gold Exchange จะกลับมาเปิดตลาดอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไป 3 วัน ในขณะที่ตลาดปิดทำการไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำแท่งยืดเวลาสัญญาปิดตลาดที่ระดับ 339.13 หยวน/กรัม หรือ 1,674 ดอลลาร์/ออนซ์ - กองทุนทองคำ SPDR ยังคงทองคำปริมาณเดิมที่ระดับ 1,286.621 ตันเมื่อวานนี้ แต่การถือครองของ Gold ETF เพิ่มขึ้น 44,761 ออนซ์ สู่ระดับ 70.4 ล้านออนซ์ หรือ 2,190 ตัน จาก TheBullionDesk - ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาด ส่งผลให้เฟดจะไม่ออกมาตรการ QE3 ในระยะอันใกล้ -โดยตลาดทั่วโลกเมื่อวานนี้ปรับตัวติดลบกันถ้วนหน้า หลังจากการประชุม FOMC เปิดเผยว่าจะไม่มีการออกมาตรการ QE3 เข้าสู่ระบบการเงิน หากเศรษฐกิจไม่สูญเสียกำลัง หรือหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% - London-based broker Triland Metals กล่าวว่า ทองคำปรับตัวลดลงหลุดแนวรับที่ระดับ 1,627 เหรียญลงมา และเป็นการเร่งให้เกิดการทำ stop loss selling มากขึ้น ซึ่งการดีดกลับมีเพียงเล็กน้อยเนื่องจากมีระดับทางจิตวิทยาที่ 1,600 เหรียญเป็นตัวกดดันการขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ แนวรับสำคัญถัดไปหากหลุด 1,600 เหรียญลงมา อาจเห็นที่ระดับ 1,523 เหรียญ - MKS Finance SA กล่าวว่า ทองคำไม่สามารถยืนอยู่เหนือ Trend-line ได้ เนื่องจากการที่เฟดไม่ส่งผลการอัดฉีดสภาพคล่อง ทำให้ทองคำได้รับความเสี่ยงสู่การปรับฐานที่ลึกขึ้นเมื่อวานนี้ก่อนเทศกาล Easter อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำที่ปรับตัวลงอาจมีสิ่งจูงใจจากการเข้าซื้อทองคำแท่งในอินเดียสิ้นเดือนนี้ ในขณะที่ข้อมูลจาก ETF แสดงให้เห็นถึงนักลงทุนยังคงไม่ได้ทำอะไรกับการถือครองสถานะตนเอง นอกจากนี้การประมูลพันธบัตรของสเปนครั้งใหม่อาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนวันพุธ - ADP Non — Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 216K คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 205K ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 209K - ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 57.3 คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 56.9 ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ 56.0 - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.1M คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.1 M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 9.0M ปัจจัยที่ต้องติดตาม - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 359K คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 355K วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังได้รับผลต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากความผิดหวังที่คาดว่าจะไม่มี QE3 โดยราคาเมื่อวานนี้ก็ยังร่วงหลุดแนวรับที่ระดับ 1640 เหรียญลงมา ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1613 เหรียญ โดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด Comex ที่ระดับ 1614 เหรียญ ในเชิงเทคนิคราคาทองคำอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มขาลง อย่างไรก็ดีจากการที่ราคาทองคำตกลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ยังมีแรงซื้อกลับทางจิตวิทยาค่อนข้างสูงบริเวณ 1610 เหรียญ ทั้งนี้คงต้องขึ้นกับค่าเงินยูโรดอลล่าร์ด้วยว่าจะยังตกหลุดระดับ 1.3100 ดอลลาร์/ยูโร ลงไปหรือไม่ อย่างไร ถ้าค่าเงินยูโรดอลล่าร์ยังมีอาการตกลงไป ในขณะที่ US Dollar Index ยังคงปรับตัวสูงขึ้น ก็คงเป็นแรงกดดันที่จะทำให้ราคาทองคำอาจร่วงหลุดระดับ 1600 เหรียญได้ อันจะเห็นได้ว่าโดยส่วนใหญ่ขณะนี้ราคาทองคำค่อนข้างเกาะติดกับค่าเงินดอลลาร์ต่อยูโร ในขณะที่ Economic Data ADP Non-Farm Employment Change ออกมาดีกว่าที่คาดประมาณ 4,000 ตำแหน่ง และคืนนี้จะมีเรื่องของ Unemployment Claims คือคาดว่าจะดีขึ้น คนตกงานน้อยลง และ SPDR ยังคงไม่ทำอะไรถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 1,286.62 ตัน Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,200 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1615-1630 เหรียญ ให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทำกำไรระยะสั้นเป็นรายวัน นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ปรับพอร์ทเพิ่มขึ้น โดยให้ทยอยเข้าซื้อบริเวณนี้โดยตลอด เพิ่มพอร์ทเป็น 40% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง แนะนำให้เข้าช้อนซื้อเช่นเดียวกัน ปรับพอร์ทเป็น 30% เนื่องจากราคาลงมาบริเวณแนวรับสำคัญของนักลงทุนระยะยาว จึงแนะนำให้เข้าซื้อตลอด ในระดับที่ต่ำกว่า 1630 เหรียญ นักลงทุนระยะยาวควรเข้าช้อนซื้อทีละ 10% เป้าหมายของพอร์ทดึงขึ้นไปให้ได้ที่ 80% สรุป MTS Gold วิเคราะห์ว่าการตกครั้งนี้น่าจะใกล้สิ้นสุด ดูลักษณะคล้ายกับ Wave ที่ 5 ในขาลงครั้งสุดท้ายของ Elliott Wave มีความเป็นไปได้ที่ Wave นี้จะจบที่ระดับ 1,610 เหรียญ หรือถ้าหลุดลงไปคาดว่าระดับ 1580 เหรียญจะรับอยู่ อย่างไรก็ดี ขอให้วาง Stop Loss เอาไว้ที่บริเวณ 1604 เหรียญ หมายความว่า เราจะเริ่มเข้าช้อนซื้อในบริเวณนี้ ถ้าราคาหลุดให้ยอมหนีอีกครั้ง เพื่อไปช้อนซื้อบริเวณ 1,585 เหรียญ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว หมายความว่าการตกน่าจะตกได้อีกไม่มาก ไม่แนะนำให้ทำการ short position เพื่อหนีบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ถือพอร์ทมากกว่า 1,660 เหรียญขึ้นไป อันนี้ก็มีความจำเป็นที่จะต้องลดพอร์ทเพื่อบริหารความเสี่ยง หรือไม่ก็จะต้องมีทุนสำรองในภาวะความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นต้องเข้าใจว่าในภาวะความผันผวนอย่างนี้ การเข้าช้อนซื้อเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่มีเงินเย็นๆ เท่านั้น ไม่เหมาะกับนักลงทุนระยะสั้นที่ติดอยู่สูงและจะเข้าช้อนซื้อเพิ่ม จึงต้องทำความเข้าใจในการบริหารพอร์ทการลงทุนให้ดี อย่าสับสนกับเงินร้อนและเงินเย็น แนะนำให้เอาเงินเย็นเข้าซื้อ เงินร้อนอยู่เฉยๆ เงินร้อนคือ เงินที่ใช้marginในการซื้อขาย บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ