กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--ฟอร์ด มอเตอร์
? วิศวกรของฟอร์ดไม่เพียงต้องการลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เท่านั้น แต่ยังต้องการมอบเสียงที่มีคุณภาพถูกต้องเพื่อตอบสนองต่อการขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ ด้วย
? ฟอร์ดสามารถลดเสียงรบกวนจากกระบวนการเผาไหม้และเพิ่มความประณีตทางเสียงให้กับรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งยังช่วยให้รถที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินมอบความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้นเมื่อเหยียบคันเร่งเต็มที่
? ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ลดเสียงรบกวนจากลมและพื้นถนนได้สำเร็จ ด้วยการเพิ่มความแข็งแรงของชิ้นส่วนโครงสร้างตัวถังและจุดเชื่อมต่อต่างๆ
ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ผ่านการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมสุดโหดมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อทดสอบความสมบูรณ์แบบของสมรรถนะ ความน่าเชื่อถือ และความน่าไว้วางใจของรถก่อนที่จะวางจำหน่าย ผลจากการทดสอบยืนยันว่าฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม ควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ แถมยังประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
แต่คุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงหากผู้ขับขี่ไม่มีความสุขภายในห้องโดยสารที่มีเสียงดัง นั่งไม่สบาย และยังได้ยินเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ของชิ้นส่วนต่างๆ ตลอดการขับขี่ การมอบความประณีตภายในห้องโดยสารจึงเป็นงานสำคัญของทีมที่ดูแลด้านเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) ซึ่งประจำอยู่ที่ศูนย์วิจัยทางเทคนิคในเมืองเมอร์เคนิช ประเทศเยอรมนี
“เป้าหมายในการทำงานของเราคือนอกจากจะต้องการลดเสียงรบกวนแล้ว ยังต้องออกแบบเสียงที่มีคุณภาพถูกต้องอีกด้วย” ดร. มาร์ติน ฮิลเดอแบรนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอ็นวีเอชจากทีมผู้พัฒนาฟอร์ด โฟกัส กล่าว “เราไม่ต้องการให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าถูกตัดขาดจากสภาพแวดล้อมอย่างสิ้นเชิง แต่เราอยากสร้างสภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่รื่นรมย์ และสะท้อนถึงสถานการณ์ในการขับขี่ที่เหมาะสม เราลดเสียงรบกวนจากลมและจากพื้นถนนได้สำเร็จ และยังทุ่มเทอย่างมากในการทำให้เสียงที่ออกมาจากเครื่องยนต์เป็นเสียงที่มีคุณภาพ”
พัฒนาเสียง ลดการสั่นสะเทือน และความกระด้างของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซินและดีเซลให้เสียงที่มีลักษณะต่างกัน และก่อให้เกิดความท้าทายในการทำงานในรูปแบบที่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เป้าหมายหลักของทีมฟอร์ดคือการลดเสียงรบกวนจากการกระบวนการสันดาปของเครื่องยนต์และเพิ่มความประณีต ขณะที่เป้าหมายในการทำงานกับเครื่องยนต์เบนซินคือการมอบความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นเมื่อเหยียบคันเร่งเต็มที่ ควบคู่กับการรักษาความราบรื่นในการขับขี่และความเงียบของเครื่องยนต์
“เราปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างเพื่อเพิ่มความประณีตของเครื่องยนต์” ดร. ฮิลเดอร์แบรนท์ กล่าว “เราพัฒนาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเสียงและอุปกรณ์ดูดซับเสียงให้ดีขึ้นมาก อาทิ การเลือกใช้ฉนวนกันเสียงบริเวณคอนโซลหน้ารถและบริเวณขอบด้านบนภายในห้องโดยสาร ฝาปิดเครื่องยนต์ที่เราเลือกใช้ช่วยลดเสียง การสั่นสะเทือน และความแข็งกระด้างลงได้ ส่วนระบบท่อไอเสียใหม่ช่วยลดเสียงรบกวนจากเทอร์โบ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เราได้ปรับระบบการจ่ายน้ำมันให้เป็นแบบหลายวงจร เพื่อลดอาการกระแทกอย่างรุนแรงหรือที่เรียกกันว่า “เครื่องน็อก””
“เราทดสอบรถโดยใช้แรงอัดอากาศสูงๆ ช่วยในการตรวจดูว่ามีช่องว่างขนาดเล็ก ณ จุดใดบ้างที่เสียงรบกวนอาจเข้าไปยังห้องโดยสารได้ กระบวนการนี้จึงช่วยให้ตัวถังของรถมีความแน่นหนามากขึ้น นอกจากนี้ เรายังใช้มาตรวัด “ความสามารถในการพูดคุยกันได้อย่างเหมาะสม” ในการตรวจสอบว่าผู้โดยสารสามารถพูดคุยกันได้ตามปกติหรือไม่ในสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่มีเสียงดังระดับหนึ่ง สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ผู้โดยสารในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ จะสามารถพูดคุยกันได้ชัดเจนกว่าในรถรุ่นปัจจุบัน 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นพัฒนาการก้าวใหญ่”
อีกหนึ่งองค์ประกอบหลักในดีเอ็นเอของรถฟอร์ดคือการมอบความรู้สึกสปอร์ต ดังนั้น การสร้างคุณภาพเสียงที่เหมาะสมจึงไม่ได้หมายถึงการลดเสียงรบกวนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพัฒนาลักษณะของเสียง และมอบการตอบสนองที่เหมาะสมให้แก่ผู้ขับขี่
ดร. ฮิลเดอร์แบรนท์ กล่าวว่า “สำหรับฟอร์ด โฟกัส รุ่นปัจจุบัน เครื่องยนต์เบนซินให้เสียงที่ประณีตมาก แต่เราต้องการเพิ่มความรู้สึกที่สื่อถึงพละกำลังด้วยการผสมผสานความประณีตแบบนี้เข้ากับความรู้สึกแบบสปอร์ต ดังนั้น เราจึงเพิ่มชุดปรับเสียงเครื่องยนต์ (Symposer) เข้าไป”
“อุปกรณ์ชิ้นนี้จะนำจังหวะแรงดันจากท่อไอดีมาทำให้มีเสียงดังชัดเจนขึ้น จากนั้นจึงส่งเสียงดังกล่าวไปยังห้องโดยสาร โดยเราสามารถปรับแต่งเสียงที่ได้จากชุดปรับเสียงเครื่องยนต์นี้เพื่อสร้างเสียงที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ”
ลดเสียงรบกวนจากลมและจากถนน
ปัจจัยหลักอีกประการหนึ่งในการสร้างความประทับใจด้านคุณภาพคือการจัดการกับเสียงลม ฟอร์ดใช้อุโมงค์ลมเป็นเครื่องมือในการทดสอบความดังของเสียงลมที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ที่ความเร็วระดับต่างๆ ทีมงานให้ความสำคัญอย่างมากต่อการหลีกเลี่ยงการเกิดเสียงลมรบกวนซึ่งมีสาเหตุมาจากรอยรั่ว (แรงดันอากาศภายในและภายนอกห้องโดยสารแตกต่างกัน เนื่องจากมีอากาศภายนอกไหลเข้ามาในห้องโดยสาร) หรือจากการหมุนวนของอากาศ (Turbulence) การทดสอบดังกล่าวทำให้เสียงลมในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ อยู่ที่ระดับต่ำกว่าเสียงลมในโฟกัสรุ่นปัจจุบันและต่ำกว่าคู่แข่งอื่นๆ อย่างมาก โดยเมื่อขับรถที่ความเร็ว 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระดับความดังของเสียงในโฟกัส ใหม่ อยู่ที่ระดับต่ำกว่ารถรุ่นก่อนหน้าถึง 3 โซน (sone)
“เรานำแนวคิดการออกแบบ “แถบประตู” มาใช้ เหมือนกับที่พบในรถฟอร์ด มอนเดโอ” ดร. ฮิลเดอร์แบรนท์ กล่าว “หมายความว่าเราได้ทำให้ประตูแน่นหนาขึ้น ลดการเบี่ยงเบนและเสียงรบกวนที่ทุกระดับความเร็ว เรายังเพิ่มความหนาของกระจกและเพิ่มแผ่นกันเสียงแบบพิเศษบนกระจกหน้ารถ ขณะที่กระจกข้างและเสาหน้าออกแบบให้มีรูปทรงที่เหมาะสมต่อการลดเสียงรบกวน เช่นเดียวกับระบบปัดน้ำฝนที่ออกแบบมาให้ส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของอากาศน้อยที่สุด”
การลดเสียงรบกวนจากพื้นถนนเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนาฟอร์ด โฟกัส ใหม่ หลังจากการทดสอบขับบนพื้นผิวการจราจรที่มีสภาพแตกต่างกัน รวมทั้งการทดสอบขับด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนนโรยกรวดเม็ดเล็กๆ
“วิธีการที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดเสียงรบกวนจากพื้นถนน นั่นคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตัวถัง” มร. โทมัส มูลเลอร์ ผู้จัดการฝ่ายโครงสร้างตัวถัง ประจำฟอร์ด ยุโรป กล่าว “เราเพิ่มความแข็งแรงของจุดเชื่อมต่อระหว่างตัวถังกับแชสซี เพิ่มความแข็งแรงของตัวถังโดยรวม เพิ่มความแข็งแรงของชิ้นส่วนแชสซี เพิ่มความแข็งแรงของแผงรองตัวถัง และเราได้อุดรอยต่อทั้งหมดระหว่างตัวถังแต่ละชั้น ดังนั้น เสียงที่เกิดจากการเสียดสีของยางรถยนต์กับพื้นถนนจึงลดลงอย่างมาก”
เมื่อเทียบกับฟอร์ด โฟกัส รุ่นปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นพัฒนาการก้าวสำคัญ เพราะในระบบกันสะเทือน จุดเชื่อมต่อส่วนบนด้านหน้ารถมีความแข็งแรงขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ จุดเชื่อมคานขวางด้านหลังแข็งแรงขึ้น 75 เปอร์เซ็นต์ และจุดเชื่อมต่อส่วนบนด้านท้ายรถแข็งแรงขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ดังนั้น ความแข็งแรงตัวถังโดยรวมของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ จึงเพิ่มขึ้นประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
มร. มูลเลอร์ กล่าวต่อว่า “การทำให้ชิ้นส่วนรวมทั้งจุดเชื่อมต่อต่างๆ แข็งแรงขึ้น เราจึงลดการเบี่ยงเบนของอากาศบริเวณด้านข้างตัวถัง และช่วยลดเสียงรบกวนลงได้มาก นอกจากนี้ เรายังใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษมากกว่าในรถรุ่นปัจจุบัน รวมทั้งมีการใช้เทคนิคอื่นๆ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพของตัวถัง”
เสากลางของรถนับเป็นชิ้นส่วนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือ ชิ้นส่วนนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากการม้วนเหล็กโบรอนให้มีความหนาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความแข็งแรงที่ต้องการสำหรับแต่ละส่วนของรถ จุดเชื่อมต่อของพื้นที่ส่วนนี้จึงราบรื่นและมีการยุบตัวอย่างสมดุล วิธีการประกอบรถแบบนี้จึงไม่เพียงเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ตัวถัง แต่ยังช่วยลดน้ำหนักรถและเพิ่มการใช้ประโยชน์จากวัสดุต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เป็นรถที่ประณีตที่สุดในเวลานี้” ดร. ฮิลเดอร์แบรนท์ กล่าว “รถคันนี้มอบความเงียบสงบได้เมื่อคุณต้องการ และยังคงพลังเสียงที่แสดงถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างดีเยี่ยม เป้าหมายในการทำงานของเราคือ เมื่อสิ้นสุดการเดินทางแล้ว ผู้ขับขี่จะเดินลงจากรถด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและสนุกไปกับการขับขี่”