กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--กระทรวงพลังงาน
พรหมินทร์ แย้มข่าวดี ราคาน้ำมันดิบดูไบ และสำเร็จรูปสิงคโปร์ ปรับตัวลดลงกว่า 1.65 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล์ เหตุ ซาอุฮึดปรับกำลังผลิตน้ำมันเพิ่มส่งตลาดโลก ยันประชาชนต้องเร่งปรับตัว รู้จักประหยัดการใช้น้ำมัน และหันมาใช้ก๊าซโซฮอล์และ เอ็นจีวีให้มากขึ้น
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมัน ว่า เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ราคาน้ำมันสำเร็จรูป ณ ตลาดสิงคโปร์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน95 ได้เริ่มปรับตัวลดลงประมาณ 1.65 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล จากเดิม 50.52 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล มาเป็น 48.87 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล จากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อาทิ ราคาน้ำมันดิบดูไบและเบรนส์ ก็มีแนวทางสอดคล้องกัน คือปรับตัวลดลงประมาณ 1 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล
ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากกรณีที่ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังผลิตน้ำมันมากที่สุด และอยู่ในกลุ่มโอเปก ได้ประกาศที่จะปรับกำลังผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากประเทศในกลุ่มเอเซียตะวันออก โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้น้ำมันสูง นอกจากนี้ ยังส่งผลให้กลุ่มประเทศที่กักตุนและเก็งราคาน้ำมัน จำเป็นต้องนำน้ำมันออกมาขายเพิ่มขึ้น จึงส่งผลราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาจำหน่ายน้ำมันขายปลีกในประเทศไทย แม้จะมีการปรับราคาโดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน ที่ได้ปรับราคาจำหน่ายขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร แต่ยังเป็นราคาที่รัฐบาลยังอุดหนุนเอาไว้อยู่ เนื่องจากยังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาในตลาดโลกอยู่มาก โดย ณ วันที่ 11 พ.ค. 47 กองทุนน้ำมันยังต้องชดเชยราคาเบนซิน 95 ที่ 2.94 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ที่ 3.04 บาทต่อลิตร และดีเซลที่ 2.32 บาทต่อลิตร ซึ่งหากรัฐบาลไม่ตรึงราคาไว้ น้ำมันเบนซิน 95 จะอยู่ที่ 20.53 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ที่ 19.83 บาทต่อลิตร และดีเซล ที่ 16.91 บาทต่อลิตร
นายแพทย์พรหมินทร์กล่าวเพิ่มว่า กระทรวงพลังงานได้มีนโยบายการส่งเสริมพลังงานทดแทนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิการส่งเสริมการใช้น้ำมันก๊าซโซฮอล์ ซึ่งเป็นการนำเอทานอล ที่ผลิตจากพืชผลการเกษตรทดแทนสารเอ็มทีบีอี ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลได้ยกเว้นภาษี และเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้น้ำมันก๊าซโซฮอลล์ ราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินลิตรละ 50 สตางค์ โดยมีบริการให้ประชาชนอยู่ในสถานีบริการของ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) อยู่กว่า 100 สถานีนอกจากนั้น ยังมีมาตรการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี)ในยานยนต์ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าน้ำมันถึง 50 % หรือประมาณลิตรละ 8 บาท โดยประชาชนจะสามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์จากการใช้น้ำมันมาใช้เอ็นจีวี ในราคาไม่แพงมากนัก และขณะนี้มีสถานีบริการรองรับของบริษัท ปตท. อยู่ประมาณ 50 แห่ง--จบ--
-นห-