กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สยามเมนทิส
“กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์” ลุยตลาดสินเชื่อรายย่อยปี 2555 เปิดตัวแคมเปญใหม่ 'สมาร์ท ใช้' เพื่อนที่สนับสนุนให้ลูกค้าใช้เงินอย่างฉลาด เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์/บริการ เพิ่มสิทธิประโยชน์และขยายช่องทางให้บริการ สินเชื่อเงินสด สินเชื่อผ่อนชำระ และบัตรเครดิต มั่นใจธุรกิจปีนี้ขยายตัวแตะ 40,000 ล้านบาท
นางสาวณญาณี เผือกขำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ “กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์” เปิดเผยว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยังคงรักษาการเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อรายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดสินเชื่อรวม 35,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 10% มียอดสินเชื่อคงค้างสูงกว่า 26,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ยอดลูกค้าใหม่ที่สมัครบัตรยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 ที่ผ่านมามียอดลูกค้าที่สมัครบัตรใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 250,000 ใบ เพิ่มขึ้นกว่า 50% ซึ่งทำให้ปัจจุบัน กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มีฐานลูกค้ารวมประมาณ 2 ล้านใบ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความไว้วางใจของลูกค้าทุกระดับที่ยังคงมั่นใจในแบรนด์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
สำหรับในปี 2555 นี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับแบรนด์ และพัฒนาผลิตภัณท์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ “ง่ายขึ้น...สะดวกขึ้น” ผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการพัฒนาขั้นตอนการสมัคร การให้บริการ ลดขั้นตอนยุ่งยากลง อาทิ 1. การสมัครบัตรใหม่ง่ายๆ ด้วยการใช้ ID Card ของบัตรประชาชน 2. บริการเฟิร์สช้อยส์ โมบาย ที่ลูกค้าสามารถดูข้อมูลการใช้จ่าย รับโปรโมชั่นถึงมือทันใจ 3. บริการเฟิร์สช้อยส์ เอ็กซ์เพรส หน่วยบริการเคลื่อนที่รับสมัคร อนุมัติสินเชื่อทันใจภายใน 30 นาที 4. การขยายผลิตภัณฑ์บริการที่ผ่อนชำระได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสถานเสริมความงาม เครื่องประดับทองคำ รวมถึงประกันภัยต่างๆ เพื่อเข้าตลาดใหม่ๆ และยังมีเป้าหมายที่จะขยายร้านค้าพันธมิตรเพิ่มขึ้นจาก 7,000 ร้านค้าเป็น 10,000 ร้านค้า ฯลฯ
ในปี 2555 นี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “สมาร์ท ใช้” แนวคิดใหม่ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคใช้เงินอย่างฉลาด โดยกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ มุ่งมั่นที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการให้บริการทางการเงิน ช่วยให้ชีวิตทางการเงินของผู้บริโภคดีขึ้น
นางสาวณญาณี กล่าวว่า ภายใต้แคมเปญนี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์และการบริการให้เป็นเพื่อนที่ลูกค้าสามารถพึ่งพาได้ตลอดเวลาในทุกเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็นในช่วงสำคัญของชีวิตอย่างการซื้อของเข้าบ้านใหม่ ค่าเทอมลูก ค่ารักษาพยาบาล การแต่งงาน การฟื้นฟูชีวิตจากวิกฤตน้ำท่วม ที่อาจจะต้องใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อใช้ซื้อของหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หรือกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินต้องการใช้เงินสด รวมถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์มีเป้าหมายที่จะสร้างกำไรให้ลูกค้าในการทุกๆ การใช้จ่าย
“จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค เราพบว่า คนไทยส่วนใหญ่เมื่อจำเป็นที่ต้องใช้เงินมักจะต้องการพึ่งพาตัวเองมากกว่าจะหยิบยืมคนอื่น กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จึงเชื่อว่าสิทธิประโยชน์ที่เรามี อาทิ การจ่ายน้อย ผ่อนสบาย การที่มีเงินสดพร้อมใช้ ทุกที่ ทุกเวลา และการที่เราสามารถมอบสิทธิประโยชน์โดยที่ผู้ถือบัตรสามารถซื้อของลดราคาได้ทุกร้านและทุกวัน เราจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดภาระในการใช้จ่าย ทำให้ชีวิตทางการเงินของผู้บริโภคดีขึ้น และพึ่งตัวเองได้โดยไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”
ในแคมเปญนี้นอกจาก กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จะสื่อสารแนวคิด “สมาร์ท ใช้“ ผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง 1. จ่ายน้อย ผ่อนสบาย 2. เงินสดพร้อมใช้ ทุกที่ ทุกเวลา 3. ลดทุกร้าน ลดทุกวัน ซึ่งมุ่งเน้นสื่อสารแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อให้ผู้บริโภค “คิด” ก่อนใช้เงิน โดยมองหาทางเลือกดีๆ มากมาย และดีที่สุด
นางสาวณญาณี มั่นใจว่า ด้วยกลยุทธ์ใหม่ๆ สิทธิประโยชน์มากมาย ที่คิดมาเพื่อผู้บริโภคในปีนี้ จะส่งผลให้มีจำนวนสมาชิกผู้ถือบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 330,000 ราย ทำให้ฐานลูกค้าผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 2.33 ล้านใบ คิดเป็นอัตราการขยายตัวกว่า 30% ขณะที่ยอดสินเชื่อใหม่จะขยายตัวอีก 14-20% ส่งผลให้ยอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5-8%
สำหรับทิศทางของตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลภาพรวมในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 5-6% เมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมาซึ่งมียอดสินเชื่อบุคคลรวม 200,000 ล้านบาท และจากภาวะการแข่งขันในปัจจุบันที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นผู้ให้บริการที่มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคในทุกขั้นตอนของการประกอบธุรกิจ เรามีระบบที่ดีและมีมาตรฐานในการวิเคราะห์ถึงความสามารถในการชำระคืนของลูกค้าก่อนการอนุมัติสินเชื่อทุกรายการเพื่อกลั่นกรองคุณภาพของผู้ใช้บริการ ส่งผลให้มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมียอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม
ขณะที่สภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและนโยบายการเพิ่มรายได้ประชาชนของรัฐบาลถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ยอดการใช้จ่ายบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์มากขึ้นด้วย รวมถึงผลต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมเมื่อปลายปีก่อนส่งผลให้ลูกค้ามีความต้องการใช้เงินสดในการซ่อมแซมบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากงานแสดงสินค้าหลายงานที่จัดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 มีลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้าและผ่อนชำระมากขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตก็เริ่มกลับเดินเครื่องผลิตสินค้าตามความต้องการได้เป็นปกติแล้ว ทำให้ลูกค้ากรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ในปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน