สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 10, 2012 11:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,623 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,630 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.02 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,850 บาท กับ 23,950 บาท และกลับมาปิดที่ 23,800 บาท กับ 23,900 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,557 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 13,515 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 68 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4% Silver Futures ลดลง 0.3% GFJ12 ปิดที่ 24,110 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,300 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,110 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,300 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 13.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1643 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 20.6 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 31.52 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,286.62 ตัน ( คงเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 85 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 102.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 130.55 จุด ปิดที่ระดับ 12,929.59 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ - ราคาทองคำดีดตัวกลับมาเมื่อวานนี้จากความผิดหวังในตัวเลข non-farm payrolls ที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความหวังขึ้นอีกครั้งที่จะมีมาตรการ QE3 โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.90 เหรียญที่ระดับ 1,646.10 เหรียญ/ออนซ์ มีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,636.70 — 1,648.80 เหรียญ - การรายงานตัวเลข non-farm payroll ที่ออกมาเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการปรับทบทวนเป็น 240,000 ตำแหน่ง อีกทั้งตัวเลขที่ออกมาก็ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 207,000 ตำแหน่ง - รายงานจาก Barclays Capital ระบุว่า การรายงานตัวเลขดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งสัญญาณถึงความอ่อนแอต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Barclays Capital ไม่เชื่อว่า การรายงานในเรื่องตัวเลข non-farm payrolls เพียงอย่างเดียวจะทำให้เกิดนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเฟดวันที่ 24 เมษายนนี้ ซึ่งโอกาสที่จะมีมาตรการ QE ยังคงมีอยู่ และอาจเกิดจุดเปลี่ยนในการตัดสินใจในการประชุม FOMC ประจำเดือนมิถุนายนตามที่เฟดยังคงจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมา - ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันจากเมื่อวานหลังจากที่ตลาดได้รับความ ผิดหวังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ส่งสัญญาณให้เกิดความหวังเรื่อง การที่เฟดจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมครั้งใหม่ - ราคาทองคำแท่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1,643.69 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 07.27 น. โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 1% ที่ระดับ 1,648.5 ดอลลาร์/ออนซ์ - ราคาทองคำสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 1,645.20 ดอลลาร์/ออนซ์ - ผลสำรวจจากรอยเตอร์ระบุเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มบริษัทหลักๆ ของวอลสตรีทส่วนใหญ่คาดหวังให้ตลาดการจ้างงานของสหรัฐฯ อ่อนแอ และมีการฟื้นตัวได้ช้าเพื่อให้เกิดการบังคับให้เฟดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม - นักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลข Trade Balance ของจีนที่จะประกาศในวันนี้ หลังจากที่ตัวเลข CPI ของจีนที่ประกาศออกมาเมื่อวานพบว่า จีนมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดในเดือนมีนาคม ซึ่งเดิมตัวเลข CPI ของจีนอยู่ที่ระดับ 3.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 3.3% แต่ผลออกมาสูงเกินคาดมาอยู่ที่ระดับ 3.6% การที่อัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคมลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ ยิ่งเปิดประตูให้เฟดมีโอกาสที่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม - ผู้นำเข้าทองคำที่มากที่สุดของอินเดีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ดูเหมือนว่าการนำเข้าโลหะเงินเข้าสู่อินเดียจะลดลงถึง 27% ในปีนี้ จากการคาดการณ์ในเรื่องราคาที่ไม่แน่นอน เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องภาษีนำเข้า ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 359K คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 355K ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 357K ปัจจัยที่ต้องติดตาม วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ซึ่งตรงกับที่บ้านเราเป็นวันจักรี ราคาทองคำทรงตัวตลอดวันในวันพฤหัส ราคาทองคำมาดีดตัวขึ้นในตลาด Comexอิเล็กทรอนิคหลังจากที่ตลาดผิดหวังจากตัวเลข Non — Farm Employment Change ที่ออกมาเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และยังส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงซื้อเข้ามาและปิดตลาดอิเล็กทรอนิคโดยประมาณที่ระดับ 1638 เหรียญ ส่งผลอย่างต่อเนื่องจากการผิดหวังตัวเลขจ้างงาน ทำให้ดาวโจนส์ที่พึ่งเปิดตลาดเมื่อวานร่วงลงมากว่า 130.55 จุด ปิดที่ระดับ 12,929.59 จุด เนื่องจากหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 13,000 จุดลงมา รวมทั้ง S&P ก็ร่วงลงมาด้วย นักวิเคราะห์หลายๆค่ายวิเคราะห์ว่า มีโอกาสจะใช้ QE ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากภาวะคนว่างงานยังไม่ฟื้น ซึ่งมีการเล่นข่าว QE รอบที่ 4 พูดกันไปมาเหมือนกับการเล่นข่าวของกรีซในยูโรโซน MTS Gold วิเคราะห์ว่า ปัญหา QE จะเหมือนกับการเล่นข่าวของกรีซได้หลายรอบ เมื่อเช้านายเบน เบอร์นันเก้ออกมาพูดเล็กน้อย สาระสำคัญมีอยู่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่พลิกฟื้น หลังจากเรื่อง Financial Crisis นายเบน เบอร์นันเก้อก็ยังไม่พูดถึงQE3 แต่จะทำให้เกิดสมดุลในการเงินการคลัง ระหว่างที่นายเบน เบอร์นันเก้พูด ราคาทองคำแกว่งตัวไปมา 3 รอบ ในกรอบ 1643-1647 เหรียญ ณ ขณะนี้ราคาทองคำอยู่ที่ 1651 เหรียญ ทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินโดยทั่วไปเชื่อว่าเฟดจะมีการใช้ QE3 สูง เนื่องจากตลาดหุ้นตกเมื่อคืนนี้ จากการผิดหวังในตัวเลขการจ้างงาน ในทางเทคนิคราคาทองคำในระยะสั้นมาก เป็นลักษณะ Technical Rebound และเป็นสัญญาณหยุดตก เชื่อว่าที่ระดับ 1620 เหรียญ เป็นการ Bottom out ได้พอสมควร ราคาเริ่มเป็น Technical Rebound แนวต้านสำคัญที่ระดับ1660 เหรียญและ 1680 เหรียญตามลำดับ โอกาสที่ราคาทองคำอาจจะเล่น เรื่อง QE3 ซ้ำไปซ้ำมา และราคาอาจจะขึ้นไปที่ระดับ 1690-1700 เหรียญได้ โดยแนวรับดันขึ้นมาที่ระดับ 1635 เหรียญ Silver - จะเห็นได้ว่า Silver ในรอบนี้ไม่ได้ขึ้นตามทองคำ โดยที่ทองคำยังเป็นการเกาะติดกับมาตรการ QE โดยตรง ในขณะที่ silver เป็นลักษณะของ Demand และ Supply โดยที่อินเดียนำเข้าลดลง 27% ก็จะมีผลพอสมควร Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,550 บาท Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,750 บาท Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1640-1660 เหรียญ ให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายบริเวณแนวต้าน เก็งกำไรในภาวะการดีดตัวและแกว่ง นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ทยอยเข้าซื้อเพิ่ม หลังจากให้ซื้อเพิ่มเมื่อวันพุธและพฤหัสที่ผ่านมา ปรับพอร์ทเป็น 50% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ซื้อเพิ่มเช่นเดียวกัน เนื่องจากทองคำส่งสัญญาณการหยุดตกได้ ปรับพอร์ทเป็น 40-50% เช่นเดียวกัน สรุปได้ว่า MTS Gold มองว่า ราคาน่าจะหยุดตกได้ และมีการรีบราวกลับขึ้นมา ซึ่งอาจจะนำไปสู่การมาตรการQE3 ในการประชุมปลายเดือนเมษายนนี้ก็เป็นได้ มาตรการดังกล่าวควรจะประกาศภายในไม่เกินเดือน 5 นี้ เพื่อให้โอบาม่ายึดครองเสียงข้างมากได้ต่อไป ภาพทางเทคนิคระยะยาวๆ เป็น Inverted Head and Shoulder โดยมี Neckline ที่ระดับ 1720 เหรียญโดยประมาณ ซึ่งถ้าทะลุขึ้นไปได้น่าจะเป็นขาขึ้นยาวๆ สรุปได้ว่าในระยะสั้นทองขึ้นเป็น Technical Rebound บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ