กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
บิ๊กซีเผยยอดขายหมื่นล้าน กำไรไตรมาสแรกของปีโต 53.1% มั่นใจรูปแบบใหม่ "คอมแพ็คไซส์" ที่ฉะเชิงเทราประสบความสำเร็จดึงยอดพุ่ง
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2547 ด้วยตัวเลขสูงถึง 11,005 ล้านบาท ยอดกำไรสุทธิ 392 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 53.1 เป็นผลจากการบริหารงานแบบมืออาชีพ ผนวกกลยุทธ์ การตลาดที่ตอบโจทย์และโดนใจผู้บริโภค พร้อมความสำเร็จของสาขาใหม่ในรูปแบบคอมแพ็คไซส์ที่ฉะเชิงเทรา
มร.อีฟ เบรบ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ในปี 2547 ว่า บริษัทฯ ยังคงมีการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง และมีผลประกอบการโดยรวมเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 11,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปี 2546 จำนวน 1,340 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 13.8 และมีผลกำไรสุทธิจำนวน 392 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากไตรมาสเดียวกันในปี 2546 จำนวน 136 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.1
การที่บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีผลกำไรสูงเช่นนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพในทั้ง 37 สาขา ไม่ว่าจะเป็นสาขาเดิมที่มีอยู่ และสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และเป็นสาขาแรกของ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เปิดให้บริการในรูปแบบ Compact size (ซูเปอร์เซ็นเตอร์ขนาดย่อม) ที่บริหารพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแถมยังคงครบครันด้วย สินค้าและบริการเช่นเดียวกันกับสาขาอื่นๆ โดยสาขานี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งส่งผลในแง่ของยอดขายรวมที่เติบโตอีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้เสนอกลยุทธ์การตลาดที่โดดเด่นและ แตกต่างจากคู่แข่งจนสามารถสร้างแบรนด์บิ๊กซีให้อยู่ในใจของลูกค้าและสร้างฐานผู้บริโภคใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้ นั่นคือ กลยุทธ์ "สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง" ที่เป็นการจับกระแสการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลายรายการที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ และยังได้ดึงเอา "ภราดร ศรีชาพันธุ์" นักเทนนิสชื่อดังชาวไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตลอดจนมี การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดผ่านทางการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับรูปแบบแผนกกีฬาให้มีความครบครัน หลากหลาย ทันสมัย และมีการจัดวาง
สินค้าใหม่เพื่อต้อนรับแคมเปญดังกล่าว ทำให้มีการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และสื่อภาพลักษณ์ใหม่ของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ไปยังผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
การสร้างความโดดเด่นและความแตกต่างเหล่านี้ ผนวกกับจุดแข็งของ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในด้านความเป็นผู้นำด้านราคา จึงทำให้ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจเลือกมาจับจ่ายซื้อของที่ บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ ประกอบกับบรรยากาศของเศรษฐกิจโดยรวมที่เป็นไปในทางบวกในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีวิกฤติการณ์ เช่น สถานการณ์ไข้หวัดนกระบาดเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจบ้าง แต่โดยลักษณะของธุรกิจค้าปลีกซึ่งเกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปแล้วพบว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่โดยจับจ่ายซื้อของกันอย่างต่อเนื่อง และทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในไตรมาสนี้
ปัจจุบัน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ มี 37 สาขาทั่วประเทศ และในปี 2547 วางแผนที่จะขยายสาขาอีก 3 สาขาทั้งในรูปแบบมาตรฐานและคอมแพ็คไซส์ ได้แก่ สำโรง (แบบมาตรฐาน) สุรินทร์ (คอมแพ็คไซส์) และปัตตานี (คอมแพ็คไซส์)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ศุภาดา ใจดี ดวงรัตน์ รัตนอำนวยศิริ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0-2693-7835-8--จบ--
-นท-